xs
xsm
sm
md
lg

จูบอัปยศ! ที่บิ๊กฟุตบอลสเปน ‘กด’บนเรียวปากนักเตะหญิงโดยสาวเจ้าไม่เอาด้วย จะเร่งให้เซ็กซิสต์ถูกขจัดเร็วขึ้น (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“จูบโดยไม่ได้รับความยินยอม” ที่ลูอีส รูบิอาเลส ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปน กดไปบนสองเรียวปากของ เจนนิเฟอร์ เอร์โมโซ แข้งสาวยอดฝีเท้าที่ได้รับความชื่นชมอย่างสูงนั้น (ภาพขวา)  อันที่จริงแล้ว เป็นส่วนท้ายของช็อตอัปยศ โดยไม่กี่วินาทีก่อนหน้า สองแขนของรูบิอาเลส ล็อกคอและหลังไหล่ของเอร์โมโซให้เอียงแนบใบหน้าของตน แล้วก้มลงจูบใบหูและริมแก้ม ซึ่งแข้งสาวเอร์โมโซถึงกับยกเท้าขวากระทืบพื้นในอาการประท้วงด้วยความเคือง (ลูกศรสีแดงในภาพซ้าย) ภาพที่ปรากฏในคลิปวิดีโอจึงมองเห็นชัดเจนว่าเป็นการปล้ำจูบอย่างรวดเร็วนั่นเอง
มิซา โรดริเกซ นายทวารสาวจอมหนึบแห่งทีมชาติฟุตบอลสเปนทีมหญิง ทวิตการ์ตูนขึ้นบนเอ็กซ์ในวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม อันเป็นภาพเจ๊าะแจ๊ะสนทนาระหว่างเด็กหญิงร่าเริงตัวน้อยกับคุณย่า “คุณย่าเล่าให้หนูฟังหน่อยค่ะว่าทีมชาติสเปนของคุณย่าชนะคว้าถ้วยเวิลด์คัพได้ยังไง” คุณย่าตอบว่า “พวกเราไม่ใช่แค่ชนะถ้วยเวิลด์คัพเท่านั้นหรอกนะ ยัยตัวเล็ก เรายังชนะอะไรมากมายกว่านั้นด้วย” เดอะซันรายงานข่าวที่บอกความระหว่างบรรทัดว่า ทีมชาติหญิงสปนคว้าถ้วยแชมป์โลก และยังชนะศึกเซ็กซิสต์ในสังคมสแปนิชได้สำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ด้วย

มงกุฎแชมป์โลกฟุตบอลหญิง 2023 ที่ตกเป็นของสเปนครั้งแรกในประวัติศาสตร์ คือหนึ่งในความภาคภูมิใจสูงสุดของประเทศ เดอะซันบอกอย่างนั้น พร้อมนำเสนอประเด็นสำคัญว่า อย่างไรก็ตาม “จูบอัปยศ” ที่ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปนถือวิสาสะ กดไปบนสองเรียวปากของ เจนนิเฟอร์ เอร์โมโซ กองหน้าตัวเก่งผู้เป็นสุดเลิฟคนหนึ่งของชาวสแปนิช จูบนั้นได้สร้างความโกรธเกรี้ยวไปทั่วทุกหลืบมุมสังคม


บรรยายภาพคลิป
พินิจพิจารณากันให้กระจ่างจากคลิปว่า จูบอัปยศของประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปนนั้น ดูกี่ครั้ง ก็ยังชัดเจนว่าคือลวนลามปล้ำจูบ

ทั้งนี้ สังคมสแปนิชได้พัฒนาความก้าวหน้าด้านสิทธิสตรีและความเสมอภาคเท่าเทียมหญิง-ชายจนกระทั่งว่า สเปนเป็นอันดับท็อปของยุโรป และบันดาลใจให้ผู้หญิงและแนวร่วมสตรีหลายพันรายพากันลงถนนไปประท้วงพฤติกรรมล่วงเกินทางเพศต่อวีรสตรีของชาติ

มีการเช็คบิลเอากับปัญหาการรังแกเอาเปรียบสตรีเพศ ตลอดจนความไม่เท่าเทียมต่างๆ กันอย่างมหาศาลในห้วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา เดอะซันรายงาน โดยมีการเดินขบวนต่อต้านการใช้ความรุนแรงทางเพศกันมากมาย และที่สำคัญสุดๆ คือ มีการปฏิรูปกฎหมายที่เกี่ยวข้องจนชาติอื่นได้แต่อิจฉา อาทิ ในด้านค่าจ้างที่เท่าเทียมกัน ไปจนถึงสิทธิที่จะสวมชุดว่ายน้ำวันพีซ-ชิ้นล่างเท่านั้น- ขณะเข้าใช้สระว่ายน้ำของภาครัฐ และสิทธิทำแท้งเสรี

นี่คือคลื่นลูกที่ 4 แห่งการต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีในสเปน มุกตลกจำพวกว่าชายหนุ่มตบตีแฟนสาว หรือสามีทำร้ายร่างกายภรรยาซึ่งฉายทางโทรทัศน์ ถูกเล่นงานกระทั่งกลายเป็นอะไรที่ท่านผู้ชมไม่ยอมรับกันแล้ว ระบบผู้ชายเป็นใหญ่ต้องถอยร่นให้แก่กระแสสังคมยุคใหม่ ซึ่งได้รับการหนุนเนื่องด้วยตัวบทกฎหมาย แบบว่าผู้หญิงสามารถฟ้องร้องดำเนินคดี เอาผู้ชายใจร้ายคอยแต่จะรังแกกัน ให้ต้องติดคุกติดตะรางเลยทีเดียว

เจนนิเฟอร์ เอร์โมโซ แข้งสาวทีมชาติสเปน ขณะอยู่ในศึกชิงแชมป์ฟุตบอลโลก 2023 หลังจากนี้ไม่นาน เธอตกเป็นเหยื่อเซ็กซิสต์ ถูกประธานสหพันธ์ฯ ล่วงละเมิดทางเพศอย่างที่ไม่เคารพเกรงใจความเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพกันเลย
ในท่ามกลางวัฒนธรรมที่พัฒนาขึ้นมาอย่างให้เกียรติสตรี และช่วยกันดูแลความปลอดภัยของผู้หญิงในหลากหลายภาคส่วนสังคม พัฒนาการเหล่านี้ปรากฏในวงการฟุตบอลสเปนน้อยอย่างยิ่ง แม้จะมีความพยายามจะต่อสู้ แต่ที่ผ่านมาความสำเร็จยังไม่ค่อยจะเกิดขึ้น

จนกระทั่งเมื่อทีมชาติแข้งสาวสามารถสร้างผลงานสุดยอดเกียรติยศให้แก่ประเทศชาติ โอกาสแห่งการเปลี่ยนแปลงโค่นล้มประเพณีเซ็กซิสต์ร้ายกาจทั้งหลายในแวดวงฟุตบอล จึงเปิดกว้างขึ้น

ในวันแห่งชัยชนะ ลูอีส รูบิอาเลส ประธานสหพันธ์ฯ แสดงพฤติกรรมฉวยโอกาส กอดแนบแน่น โอบเอวกระชับ ฝังจูบลงริมใบหู ข้างแก้มของนักเตะสตรี แล้วไปอัปยศขั้นสุดด้วยสิ่งที่อ้างกันว่า จูบฉลองชัย บนริมฝีปากของแข้งสาว เอร์โมโซ พี่เอื้อยสาวหล่อวัย 33 กะรัตของทีมชาติหญิง

และเมื่อประเด็นนี้อื้อฉาวขึ้นมา เมื่อแข้งสาวเอร์โมโซ กองหน้าหมายเลข 10 ทำการพิจารณาทบทวนแล้ว และจึงตัดสินใจปกป้องเกียรติยศตนเองจากการถูกลวนลามและทำร้ายทางเพศ

เมื่อเธอเคลื่อน ภาคส่วนต่างๆ ของสังคมก็พากันขับเคลื่อนหนุนเนื่องเธอ และช่วยกันแสดงออกถึงความเป็นหนึ่งเดียวกับเธอ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การช่วยกันติดแฮชแท็ก #SeAcabo “มันหมดยุคแล้ว” ... หมดยุคสำหรับการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้หญิง

การ์ตูนที่ มิซา โรดริเกซ ทวิตขึ้นบนเอ็กซ์ในวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม (ภาพกลาง) โดยเด็กหญิงตัวน้อยพูดว่า “คุณย่าเล่าให้หนูฟังหน่อยค่ะว่าทีมชาติสเปนของคุณย่าชนะคว้าถ้วยเวิลด์คัพได้ยังไง” แล้วคุณย่าตอบว่า “พวกเราไม่ใช่แค่ชนะถ้วยเวิลด์คัพเท่านั้นหรอกนะ ยัยตัวเล็ก เรายังชนะอะไรมากมายกว่านั้นด้วย” ส่วนภาพซ้ายขวาเป็นมิซา นายทวารสาวจอมหนึบแห่งทีมชาติสเปนทีมหญิงในชีวิตส่วนตัวกับบนสนามการแข่งขัน

คึกคักฮือฮากันมากสำหรับขบวนการนักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีในสเปน หลังจากคลิปล่วงละเมิดทางเพศที่ประธานสหพันธ์ฯ กระทำต่อนักฟุตบอลสาว สะพัดไปในทั่วทุกหย่อมหญ้า ส่งผลให้ประชาชนพากันลงถนนไปเดินขบวนตามท้องถนน ประณามผู้ชายรายนี้ พร้อมกับรณรงค์เรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่ง ป้ายทางซ้ายของภาพคือถ้อยคำสโลแกนว่า มันหมดยุคแล้ว
คลิปฟ้องชัดเจน ดูยังไงก็ลวนลามปล้ำจูบ หนำซ้ำยังให้เห็น เอร์โมโซ กระทืบเท้าประท้วงขณะถูกล็อกคอล็อกศีรษะ

ในท่ามกลางเสียงเชียร์ของชาวสแปนิชจำนวนมหาศาลที่แห่กันขึ้นเครื่องบิน เดินทางยี่สิบกว่าชั่วโมงไปเชียร์ทีมชาติสตรีที่สุดรักสุดภูมิใจในนครซิดนีย์ ออสเตรเลีย เหล่าแข้งสาวแชมป์ฟุตบอลโลก 2023 ทยอยเดินขึ้นปะรำพิธีไปให้สมเด็จพระราชินีเลติเซียโอบกอดแสดงความยินดี และใกล้ๆ กัน คือ รูบิอาเลส ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปน ซึ่งอยู่บนนั้นในฐานะ รองประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) และรอแสดงความยินดีกับนักฟุตบอลหญิงผู้เกรียงไกรของชาติ

คลิปบรรยากาศที่บรรดาแข้งสาวทยอยกันเข้ารับการแสดงความยินดี ฟ้องไว้อย่างละเอียดถึงนาทีอัปยศแห่งชีวิตของ เอร์โมโซ

เมื่อเอร์โมโซเข้าไป รูบิอาเลสเล่นทะเล้นคะนองใส่เธอ โดยยกสองแขนกอดรอบคอและหลังไหล่ของเอร์โมโซ แล้วเหนี่ยวกายของเธอไว้เพื่อยกตัวลอยขึ้น และกางขาออกไป โดยเดอะซันรายงานว่า

“เห็นได้ว่ารูบิอาเลสโหนตัว ยกลอยขึ้นจากพื้น แล้วสองหัวเข่าก็เหวี่ยงกระชับเข้าใกล้สะโพกของเอร์โมโซ”

ในวินาทีถัดมาที่รูบิอาเลสลงมายืนดีแล้ว ความคะนองมิได้ยุติ แต่ดูว่าจะจะยกระดับจากการเล่นแบบเด็กผู้ชาย กลายเป็นเป็นหนุ่มดอนฮวน

แขนทั้งสองที่ยังกอดรอบคอและหลังไหล่ของเอร์โมโซ กระชับมากขึ้นและรั้งให้กายของเอร์โมโชแนบแน่นกับแผงอกท่านประธาน ขณะที่ใบหน้าและใบหูด้านขวาของเธอถูกล็อกไว้กับข้างแก้มขวาของเขา

ณ วินาทีตรงนั้น ประธานสหพันธ์ฯ ได้ก้มหน้าลงไปจูบริมหู ข้างแก้มเนียนลออ ขณะที่เอร์โมโซซึ่งไม่สามารถขยับกายช่วงบนผละออกมา ได้ออกอาการอึดอัดประท้วงด้วยการกระทืบเท้าขวา

แต่เหตุการณ์มิได้จบ หนำซ้ำยังทวีความย่ามใจและอัปยศหนักข้อขึ้นอีก

รูบิอาเลสป้องสองมือล็อกศีรษะของเอร์โมโซอย่างมั่นคง และจูบไปบนสองเรียวปากของเอร์โมโซ เดอะซันเล่าไว้อย่างนั้น

ภาพเหตุการณ์หลายสิบวินาทีดังกล่าวถูกบันทึกอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเหล่าแข้งสาว ลาโรฆา (La Roja – สาวเสื้อแดง) หลายคน ซึ่งใส่ใจที่จะบันทึกโมงยามแห่งเกียรติยศและการเฉลิมฉลองชัยชนะให้แก่เพื่อนร่วมทีม แต่ได้หลักฐานแสดงความเซ็กซิสต์อัปยศของประธานสหพันธ์ฯ ติดมาด้วย

รายละเอียดของภาพในคลิป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2-3 วินาทีที่ รูบิอาเลส ล็อกศีรษะและหลังไหล่ของสาวหล่อเอร์โมโซ แล้วซุกหน้าลงจูบริมใบหู ข้างแก้ม ดูกี่ครั้งก็เห็นได้ว่าลวนลามปล้ำจูบ และในจังหวะเดียวกันนั้น การที่เอร์โมโซกระทืบเท้าประท้วง ก็แสดงชัดว่าเธอเคืองหนักมาก

ยิ่งกว่านั้น หลังจากที่ประธานสหพันธ์ฯ ได้กดจูบไปบนเรียวปากของพี่เอื้อยแห่งทีมลาโรฆาสมใจแล้ว และคลายวงแขนให้เธอเป็นอิสระนั้น สาวหล่อวีรสตรีขวัญใจชาวสเปนรับมือสถานการณ์ถูกหยามเกียรติตรงนั้นด้วยท่าทีของนักบู๊ เธอตบแขนรูบิอาเลสเบาๆ แบบเจ้าพ่อ และหัวเราะกร้าว ก่อนจะเดินผละไปโดยแขนกับร่างกายกางเล็กน้อยและวางก้ามในลีลานักสู้ข่มขวัญคู่ชก

ท่านผู้ชมไม่ได้เห็นสีหน้าของเอร์โมโซ แต่ผู้ที่ได้เห็นเต็มๆ คือท่านประธานสหพันธ์ฯ เขาหัวเราะปร่าแปร่งอย่างไร้ความสง่า และเป็นหัวเราะหน้าเสียนานทีเดียว อาการละม้ายรู้สึกกลัวความผิดที่ได้ทำลงไป

คลิปต่างๆ บนโทรศัพท์มือถือถูกนำมาดูกันในห้องแต่งตัว หลายคนหัวเราะ หลายคนกรี๊ดว่าพี่เอื้อยรูปหล่อโดนเข้าแล้ว

แต่เอร์โมโซโวยว่า “ชั้นไม่ชอบนะ(เว่ย)” เดอะซันเล่าไว้

จังหวะแรกที่เอร์โมโซถูกลวนลาม โดยรูบิอาเลสเล่นทะเล้นคะนองใส่เธอ เขายกสองแขนกอดรอบคอและหลังไหล่ของเอร์โมโซ

แล้วรูบิอาเลสกอดและเหนี่ยวกายของเอร์โมโซไว้ เขย่งเท้าสูง เตรียมจะโหนยกตัวลอยขึ้น

รูบิอาเลสกอดและโหนตัวขึ้น พร้อมกับกางขาออก ประมาณว่าหมายจะใช้สองขาเกี่ยวกระหวัดกายของเอร์โมโซ หลังจากช็อตนี้เล็กน้อยเอร์โมโซจะถูกล็อกศีรษะและถูกจูบที่เธอเคืองมากว่า รูบิอาเลสทำโดยไร้ความเกรงใจ
เสียงแห่งการปกป้องคุ้มครองผู้หญิงลงดาบใส่เซ็กซิสต์ตัวรังแกเหล่าแข้งสาว “รูบิอาเลส” โดนอัยการสูงสุดตั้งข้อหาแล้ว

คลิปว่อนออกไปกระหึ่มโลก ชาวสเปนช่วยกันโกรธไปด้วยกันกับ เจนนิ เอร์โมโซ และประสานเสียงประกาศสนับสนุนเธอ พร้อมกับกดดันให้รูบิอาเลสลาออกจากตำแหน่งประธานสหพันธ์ฯ พลังต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศผ่านกรณี Kiss-Gate จึงครึกโครม ไม่ถูกปล่อยให้โรยราไปง่ายๆ โดยบรรดานักวิเคราะห์พากันเรียกวิกฤติสังคมครั้งนี้ว่า เป็นขบวนการ #MeToo ของสเปน

ทั้งนี้ ภาคส่วนทั้งหลายสามารถวิเคราะห์ภาพในคลิปได้ไม่ยากว่า ชายผู้สุดแสนจะอัปยศคนนี้ทำผิดจริง พร้อมนี้องคาพยพต่างๆ ในวงการฟุตบอลไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็เข้าร่วมกับกระแสสังคม ออกมาประณามประธานสหพันธ์ฯ และส่งเสียงเรียกร้องกดดันให้ รูบิอาเลส ลาออกจากตำแหน่งอันแสนจะทรงอิทธิพล

อย่างไรก็ตาม ประธานสหพันธ์ฯ จิตแข็ง ดื้อดึง ไม่ยอมรับความผิด และไม่ยอมลาออก แต่พยายามจะดิ้นให้หลุดพ้นวิกฤติ โดยกล่าวโทษว่าแข้งสาวเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด รวมทั้งบิดข้อเท็จจริงว่า เอร์โมโซเข้าถึงเนื้อถึงตัวเขาก่อนด้วยการอุ้มเขาลอยจากพื้น แต่บุญรักษาที่ชาวคณะลาโรฆามีคลิปแฉข้อเท็จจริงในพินิจพิจารณาได้หลายมุมกล้อง

ยิ่งรูบิอาเลสพูดจาดิ้นรนหนีความผิดมาก ภาพลักษณ์ของเขาก็ยิ่งเน่าหนัก และแล้ว ลูอีส รูบิอาเอส ก็ “ถูกเท”

26 สิงหาคม 2023 สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า สั่งพักงาน ลูอีส รูบิอาเลส ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปน เป็นการชั่วคราว 90 วัน ซึ่งส่งผลให้เขาหมดเขี้ยวเล็บที่จะใช้สหพันธ์ฟุตบอลสเปนเป็นเครื่องมือป้องกันตนเอง

การเทด้วยวิธีนี้เปิดทางให้สหพันธ์ฯ เป็นอิสระจากการที่ถูกรูบิอาเลสครอบงำจนกระทั่งภาพลักษณ์ของสถาบันเสียหาย และเพียงสองวันให้หลัง คือในวันที่ 28 สิงหาคม สหพันธ์ฯ ภายใต้การนำของ เปโดร โรชา รองประธานสหพันธ์ฯ ซึ่งขึ้นมาเป็นรักษาการประธานสหพันธ์ฯ เริ่มเรียกร้องให้รูบิอาเลสลาออกจากตำแหน่ง

โดยในคำแถลงที่ออกมา สหพันธ์ฯ ให้เหตุผลอันตรงไปตรงมาสุดๆ ว่า ขอให้ลาออกไปเสีย เพราะสิ่งที่กระทำต่อเจนนี เอร์โมโซ “เป็นพฤติกรรมที่ไม่อาจยอมรับได้ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ภาพลักษณ์แห่งฟุตบอลสเปน”

กระนั้นก็ตาม รูบิอาเลสก็ยังไม่ยอมลาออกจากหัวโขนประธานสหพันธ์ฯ แรงกดดันให้ลาออกจึงยิ่งดาหน้ากันออกมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในส่วนของอัยการสูงสุดของสเปน ซึ่งซีเอ็นเอ็นรายงานว่าได้มีการตั้งข้อหา รูบิอาเลส แล้ว ในวันศุกร์ที่ 8 กันยายน 2023 โดยเป็นข้อหาการกระทำความผิดทางอาญาต่อ เจนนิเฟอร์ เอร์โมโซ ซึ่งครอบคลุมถึงการก้าวร้าวรุกรานทางเพศ หลังจากที่แถลงไว้เมื่อ 28 สิงหาคม ว่าได้เปิดการสอบสวนเบื้องต้น และยิ่งเมื่อ เอร์โมโซ ยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีไปในวันที่ 5 กันยายน การดำเนินการในส่วนของอัยการสูงสุดจึงคืบหน้าได้รวดเร็วมากขึ้น

รูบิอาเลส ฉวยโอกาสลวนลามนักเตะสาวหลายคนทีเดียว ลักษณะการกอดและจูบแก้มปรากฏออกมาแบบสวาทหวามผิดมารยาทและกาลเทศะ อย่างเช่นที่กระทำกับแข้งสาวไอตานา บอนมาติ ในภาพซ้าย นับว่าละม้ายกับที่เกิดขึ้นกับเจนนิ เอร์โมโชในภาพขวา

นักเตะสาวทีมจากเม็กซิโกกับทีมจากสเปน ซึ่งกำลังจะดวลแข้งนัดกระชับมิตรกัน เมื่อวันอังคารที่ 29 สิงหาคม 2023 ได้ถ่ายรูปประกาศสนับสนุนเอร์โมโซด้วยป้ายผ้าเขียนว่า “คุณไม่ถูกทอดทิ้ง” พร้อมกับชูเสื้อยืดที่เขียนว่า “เจนนี สิ่งนี้เพื่อคุณ และเพื่อเราทุกคน
ถือเป็นจังหวะดีที่จะเคลียร์อิทธิพลเซ็กซิสต์ในวงการฟุตบอลทีมสเปนหญิง “ฆอร์เก บิลดา” ถูกปลดเซ่นเซ็กซิสต์

สังคมสเปนซึ่งถูกกดไว้ภายใต้วัฒนธรรมประเพณีเหยียดเพศมาแต่เก่าก่อน ได้ระเบิดระเบ้อออกมาสร้างความเปลี่ยนแปลงภายในภาคส่วนต่างๆ ของสังคม ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างต่อเนื่อง

ด้วยเหตุนี้นักเคลื่อนไหวสิทธิสตรีและแนวร่วมทั้งปวงจึงฉวยเอาวิกฤติการณ์ Kiss-Gate เป็นจังหวะสำคัญที่จะลบล้างวัฒนธรรมเซ็กซิสต์ในวงการฟุตบอล นิวยอร์กไทมส์รายงานโดยระบุถึงปัญหาที่นักเตะหญิงถูกเอาเปรียบและรังแก ตลอดจนปัญหาวัฒนธรรมเล่นพวกพ้อง ชมชอบผูกพันอยู่ภายในแวดวงเดียวกัน แล้วไปรังเกียจพวกที่อยู่นอกวงหรือพวกที่ไม่ยอมทำตามคำบงการ

ที่ผ่านมารูปธรรมของปัญหาปรากฏเป็นระยะๆ โดยที่กรณีอื้ออึงไปทั่วโลกได้อุบัติขึ้นในปลายกันยายนปีที่แล้ว (2022) เมื่อแข้งสาว 15 คนประกาศไม่ยอมทน และลุกขึ้นก่อกบฏ เนื่องจากความไม่พอใจต่างๆ ที่สั่งสมมานานปี

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจ่ายค่าตอบแทนที่ไม่เสมอภาคเท่าเทียมกับผู้เล่นชาย ไปจนถึงเรื่องต่างๆ ที่พวกเธอมองว่าเข้มงวดรุนแรงเกินไปและมุ่งควบคุมบงการกันเกินเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปฏิบัติอันเวอร์วังของ ฆอร์เก บิลดา โค้ชทีมชาติหญิงในขณะนั้น โดยรวมไปถึงเรื่องที่ว่าเขารื้อค้นข้าวของส่วนตัวของสาวนักเตะ ตลอดจนวัฒนธรรมเหยียดเพศที่ยากจะยอมให้ดำเนินอยู่เรื่อยๆ ไปนิวยอร์กไทมส์รายงาน

วิกฤติฉาวดังกล่าวจบลงเมื่อสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งสเปนซึ่งมีประธานชื่อ ลูอีส รูบิอาเลส เดินนโยบายหักดิบเด็ดขาด ไม่ยอมอ่อนข้อให้แก่กบฏแข้งสาว ดังนั้น จึงมีนักฟุตบอลฝีเท้ายอดเยี่ยม 13 รายพ้นออกจากทีมไป และต้องพลาดการแข่งขันเวิลด์คัพทีมสตรีครั้งนี้

ฆอร์เก บิลดา โค้ชทีมชาติหญิงสเปน มีปัญหากับแข้งสาวลูกทีมมาโดยตลอดในประเด็นเซ็กซิสต์ ทั้งเข้มงวดรุนแรงเกินไป ทั้งควบคุมบงการกันเกินเหตุ ตลอดจนการรื้อค้นสิ่งของส่วนตัวของสาวนักเตะ
กระนั้นก็ตาม โลลา กายาร์โด ผู้รักษาประตูยอดมือกาวแห่งสโมสรอัตเลติโกเดมาดริด ซึ่งเป็น 1 ใน 15 ผู้เล่นทีมชาติไม่ยอมทนสภาพการณ์เซ็กซิสต์ ให้สัมภาษณ์แก่หนังสือพิมพ์ เอล ปาอีซ เมื่อวันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม ว่า ถึงแม้จะเจ็บปวดที่ต้องพลาดโอกาสไปสู่เกียรติยศสูงล้ำของอาชีพนักฟุตบอล แต่มันก็คุ้มค่า

“ความรู้สึกนึกคิดต้องมาก่อนเหรียญรางวัลค่ะ” โลลา กายาร์โด ยืนยันไว้อย่างนั้น

การต่อสู้กับสถานการณ์เซ็กซิสต์ที่ต่อยอดจากคดี Kiss-Gate อัปยศ เดินหน้าอย่างคึกคัก ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติสเปนทั้งทีมตลอดจนผู้เล่นคนอื่นๆ อีกหลายสิบคน ได้ลงนามในคำแถลงร่วมฉบับหนึ่งเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม อันมีสาระสำคัญว่า พวกเธอจะไม่ลงสนามแข่งขันในนามสเปนอีก “ถ้าหากคณะผู้จัดการชุดปัจจุบันยังอยู่ต่อไป”

ในวันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม สตาฟโค้ชของทีมบางส่วนได้ยื่นใบลาออก โดยกล่าวประณามถ้อยคำโต้ตอบที่ รูบิอาเลส ใช้แก้ตัวในเหตุการณ์น่าเกลียดทำร้ายทางเพศต่อแข้งสาวดาวเด่นแห่ง ลาโรฆา

พร้อมนี้ สตาฟโค้ชหญิง 2 คนที่ลงนามในจดหมายลาออกดังกล่าว เผยถึงเรื่องแย่ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม ซึ่งประธานสหพันธ์ฯ ประกาศจะไม่ยอมลาออก ว่า การที่พวกเธอนั่งในแถวหน้าของที่ประชุมนั้น ที่แท้แล้วเป็นการถูกสั่งให้ไปนั่งอยู่ตรงนั้น เพื่อแสดงความสนับสนุน รูบิอาเลส อย่างไรก็ตาม ทั้งสองมิได้บอกว่าถูกใครบังคับ

บรรดานักเตะเหล่านี้บอกว่าจะต้องยุติยุคสมัยแห่งการเชิดชูศักดิ์ศรีบุรุษเพศ ย่ำยีสิทธิสตรี และความไม่เท่าเทียมในวงการฟุตบอลสเปนให้หมดสิ้นไป โดยจะเอาเหตุการณ์จูบอัปยศของ รูบิอาเลส นี่แหละเป็นจุดปิดฉาก

“มันจบได้แล้วค่ะ” อเลเซีย ปูเตยาซ ผู้เล่นตัวเก่งระดับซุปตาร์ ทวิตไว้บนแอคเคาน์ X หรือที่เคยเป็นที่รู้จักกันมาก่อนในชื่อว่าทวิตเตอร์ เพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับ เอร์โมโซ

ณ แมตช์ลีกสเปนที่เซบิยาเมื่อคืนอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม ผู้เล่นทีมเหย้าเดินเข้าสนามโดยสวมเสื้อที่เขียนข้อความว่า “มันจบแล้ว” ปรากฏว่าฝูงชนโห่ร้องอึงคนึงแบบเห็นด้วย พร้อมกับตะโกนเรียกร้องให้ รูบิอาเลส ลาออก และให้สหพันธ์ฯ เข้าไปชำระสะสางการทุจริตคอร์รัปชั่นให้สะอาดหมดจดเสียที

อย่างรวดเร็วเกินคาด ฆอร์เก บิลดา หัวหน้าโค้ชทีมฟุตบอลหญิงสเปนชุดแชมป์โลก ถูกสหพันธ์ฯ สั่งปลด ณ วันที่ 5 กันยายน 2023 อันเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญโดย เปโดร โรชา รักษาการประธานสหพันธ์ฯ

ในการนี้ ฝ่ายต่างๆ ชี้ว่าสาเหตุของกรณีฟ้าผ่าเก้าอี้จอมอิทธิพลนี้ มาจากการที่ฆอร์เก บิลดา เป็นคนสนิทใกล้ชิดกับ รูบิอาเลส แต่ในเวลาเดียวกัน เมื่อ ฆอร์เก บิลดา พ้นออกไป โดยมี มอนเซ่ โตเม อดีตแข้งสาวที่เข้าร่วมในทีมสตาฟโค้ช ปฏิบัติหน้าที่แทน สถานการณ์เหยียดเพศ การใช้ความรุนแรง และความไม่เท่าเทียมหญิง-ชาย ที่บรรดานักเตะทีมหญิงเผชิญอยู่ ก็จะได้รับโอกาสที่จะปฏิรูป

วงการฟุตบอลสเปนล้วนทราบดีว่า ลูอีส รูบิอาเลส กับ ฆอร์เก บิลดา สนิทกันและสนับสนุนกันและกัน กระนั้นก็ตาม สิ่งนี้เป็นเพียงสาเหตุบางส่วนของการที่ฆอร์เกถูกปลดจากเก้าอี้ทรงอำนาจ หัวหน้าสตาฟโค้ช ทีมแข้งสาวลาโรฆา โดยสาเหตุสำคัญอีกส่วนหนึ่งคือกระแสสิทธิสตรีที่แรงกล้า ที่โฟกัสมายังวงการฟุตบอลสเปน ซึ่งเป็นวงการที่ความเชื่อในเรื่องผู้ชายเป็นใหญ่อย่างเหนียวแน่น
‘จูบอัปยศ’ เกิดในวงการฟุตบอล แต่ ‘ศึกเซ็กซิสต์ปะทะกระแสสิทธิสตรี’ ได้ฮือฮาครั้งใหญ่ในทุกภาคส่วนสังคม โดยมีรัฐบาลหัวก้าวหน้าช่วยหนุนส่ง

เลารา มาร์เกซ ทนายความสาววัย 26 กะรัต ไม่เคยสนใจอะไรนักหนาเกี่ยวกับเรื่องฟุตบอลมาก่อน ตอนที่แข้งสาวลาโรฆา คว้าแชมป์คว้าถ้วยเวิลด์คัพได้สำเร็จเมื่อ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา เธอไม่ได้ดูด้วยซ้ำ

แต่!! เมื่อเป็นข่าวอื้อฉาวล่วงละเมิดทางเพศกระหึ่มขึ้นพร้อมกับกระแสการโต้แย้งถกเถียงกันไปกว้างขวางจนขึ้นถึงระดับชาติอย่างมโหฬารในเรื่องสิทธิสตรี ความเสมอภาคเท่าเทียม และการล่วงละเมิด เลารา มาร์เกซ ก็กลายเป็นชาวสเปนอีกคนที่เฝ้าครุ่นคิดและติดตามความคืบหน้าของดรามาแห่งชาติรายการนี้ นิวยอร์กไทมส์รายงาน

“พวกเรามีการพูดคุยกันเกี่ยวกับฟุตบอลเยอะแยะมากมายเลยในอาทิตย์นี้” มาร์เกซ ทนายสาว คุยกับผู้สื่อข่าวขณะเดินอยู่กับเพื่อนในย่านดาวน์ทาวน์ของเมืองซาราโกซา

เธอมองกรณีประธานสหพันธ์ฯ ถือวิสาสะจูบแข้งสาวคนดังโดยที่ฝ่ายหญิงไม่ยินยอม ว่าเป็นการแสดงพฤติการณ์ก้าวร้าว ล่วงละเมิดตามใจชอบ ต่อผู้หญิง ซึ่งเรื่องแบบนี้ ในภาพรวมของสังคมสเปน เกิดขึ้นมาบ่อยครั้งเกินไปแล้ว เธอบอกอย่างนั้น

ทนายสาวมาร์เกซชี้ด้วยว่ามันเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบของบุคคลผู้ทรงอำนาจคนหนึ่ง และเป็นการสร้างความแปดเปื้อนแก่นาทีเกียรติยศของผู้หญิงไปอย่างน่าละอาย โดยกระทำภายใต้ความเชื่อแบบเซ็กซิสต์ที่เชิดชูให้ผู้ชายเหนือกว่าผู้หญิง และเชื่อกันจริงๆ ว่าตนเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ จะทำอะไรกับผู้หญิงได้หมดตามใจปรารถนา แม้วัฒนธรรมความเชื่อนี้หดหายไปมากแล้ว กระนั้นก็ตาม มันยังปักหลักเหนียวแน่นอยู่ในหมู่คนบางแวดวง

“ทุกสิ่งอย่างที่ปรากฏออกมา มันฟ้องและยืนยันว่าเรื่องราวที่บรรดานักฟุตบอลหญิงร้องทุกข์กันมานานแล้ว แต่ไม่มีใครเลยที่เชื่อนั้น มันเข้าขั้นร้ายแรงไปถึงขนาดนี้แล้ว” เธอกล่าวแล้วย้ำถึงพลังที่ Kiss-Gate จุดชนวนให้ผู้หญิงไม่ยอมทนอีกต่อไป และการต่อสู้ระหว่างฝ่ายที่เชื่อว่าผู้ชายเป็นใหญ่ กับฝ่ายที่ขับเคลื่อนให้สังคมยอมรับในสิทธิสตรี จึงมาถึงวาระที่ปะทุขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

ดรามาแห่งชาติกรณี Kiss-Gate จึงทำหน้าที่โหมกระแสให้สังคมมองเห็นและเข้าใจได้ชัดเจนมากขึ้นกับปัญหาการประลองกำลังและงัดข้อทางความคิดและศีลธรรม ในระหว่างคนต่างรุ่นอายุและต่างวัฒนธรรม อีกทั้งในระหว่างมิติที่เป็นประเพณีฝังลึกซึ่งเชิดชูศักดิ์ศรีบุรุษเพศว่าเหนือกว่าสตรี จะล่วงเกินสตรีอย่างไรก็ได้ กับมิติของแนวความคิดก้าวหน้าในเรื่องสิทธิสตรีและความเสมอภาคเท่าเทียมหญิง-ชาย นิวยอร์กไทมส์รายงาน พร้อมให้ข้อมูลด้วยว่า

ในช่วงหลังๆ นี้ การประลองกำลังดังกล่าวได้แพร่กระจายไปในวงกว้างยิ่งกว่าทศวรรษใดๆ พร้อมกับโยกคลอนความเชื่อเดิมๆ ที่เกาะกุมความคิดจิตใจของชาวสเปนไว้อย่างลึกซึ้ง จนกระทั่งวิกฤติดังกล่าวนี้ส่งผลให้สเปนโดดเด่นเกินชาติอื่นใดในศึกวัฒนธรรมเซ็กซิสต์โดยภาพรวมของยุโรป


ในการส่งเสริมให้ผู้คนตระหนักถึงสิทธิตามกฎหมายที่เปิดทางให้แก่ความเท่าเทียมหญิง-ชาย ที่จะว่ายน้ำแบบเปลือยอกสัมผัสสายน้ำ-สัมผัสสายลม กระทรวงสิทธิสตรีและความเท่าเทียมจัดทำวิดีโอโปรโมท โดยในตอนหนึ่ง มีการบอกว่า ในวันแห่งการเปลือยอกโลก - World Topless Day รัฐบาลขอแจ้งช่วยจำว่าคุณมีสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะว่ายน้ำแบบท็อปเลสที่สระว่ายน้ำสาธารณะที่ให้บริการโดยรัฐ
ต้องนับว่าวิกฤติ Kiss-Gate ฝีมือ รูบิอาเลส ผุดขึ้นถูกที่ถูกเวลาโดยแท้ เพราะสเปนเพิ่งมีการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น ต่อด้วยเลือกตั้งทั่วไปในระดับชาติเมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา ผลการใช้สิทธิทางการเมืองสะท้อนชัดเจนว่า ประชาชนปฏิเสธการเมืองแนวขวาจัด คลั่งชาติ หมกมุ่นแต่จะย้อนอดีตที่เชิดชูให้ผู้ชายเป็นใหญ่และริดรอนสิทธิของเพศหญิงตลอดจนเพศที่สามทั้งปวง

ด้วยบริบททางการเมืองที่ยังค่อนข้างสดใหม่เยี่ยงนี้ ทำให้พวกชนชั้นปกครองของสเปนกล้าตัดสินใจ “เลือกข้าง” ในกรณีถือวิสาสะล่วงละเมิดแข้งสาวดาวเด่นของมวลมหาประชาชนกันอย่างฉะฉาน

เหล่านักการเมืองชั้นนำทั้งทางฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา อีกทั้งบรรดาบุคคลทางวัฒนธรรมระดับท็อปของประเทศ รวมทั้งกระทั่งสารพัดปากเสียงในวงการฟุตบอลสเปนซึ่งรักษาวัฒนธรรมผู้ชายเป็นใหญ่ไว้แข็งแกร่งอย่างยิ่งยิ่ง ต่างระดมกันมาแสดงความสนับสนุน เอร์โมโซ ฮีโรของประชาชน ผู้ซึ่งออกมากล่าวว่า เธอรู้สึกเหมือนกับตนเองตกเป็น “เหยื่อของความก้าวร้าวล่วงละเมิด” จากพฤติการณ์เหยียดเพศที่เธอไม่ได้ยินยอมพร้อมใจแม้แต่วินาทีเดียว นิวยอร์กไทมส์รายงาน

การประสานเสียงกันประณาม รูบิอาเลส จึงกระหึ่มกึกก้องไม่โรยแรง ขณะที่เจ้าตัวก็แถสุดฤทธิ์ พยายามต่อสู้ด้วยการสร้างข้อกล่าวหาโต้กลับไปว่า ตัวเขาเผชิญอยู่กับ “การเรียกร้องสิทธิสตรีจอมปลอม” รวมทั้งเรียกตนเองว่า “เหยื่อแห่งฆาตกรรมทางสังคม” และกล่าวหาหน้าตายว่า เอร์โมโซ แหละเป็นฝ่ายริเริ่มให้เกิดการจูบกันครั้งนี้

เจนนิเฟอร์ เอร์โมโซ ชูถ้วยเวิลด์คัพด้วยกันกับ อเลเซีย ปูเตยาซ อดีตคู่ชีวิตที่เปลี่ยนมาเป็นเพื่อนรัก และไอรีน ปาเรเดส เพื่อนซี้ร่วมทีม ก่อนจะถึงช็อตนี้ ทั้งสองแลกเสื้อกัน ดังนั้นอเลเซียจึงสวมเสื้อทีมเบอร์ 10 ของเจนนี และเจนนีสวมเสื้อทีมเบอร์ 11 ของอเลเซีย
จูบอัปยศของ “รูบิอาเลส” จะเร่งให้สิทธิสตรีก้าวหน้ามากขึ้นไปอีก “จากที่ได้พัฒนามามหาศาลแล้ว”

ด้าน มาเรียม มาร์ติเนซ-บาซกูญัน อาจารย์รัฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยอิสระแห่งมาดริด ชี้ประเด็นว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างการฉลองแชมป์บอลโลกหญิง ควรต้องถือเป็นช่วงเวลาแห่งยุคสมัย ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องอย่างสำคัญติดตามมา”

การที่ฝ่ายต่างๆ ช่วยกันประณาม รูบิอาเลส ในทันที แบบว่า กระทั่งเหล่าสมาชิกของพรรคอนุรักษนิยมพรรคหลักของสเปนก็เอาด้วย เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นว่า ขบวนการเรียกร้องสิทธิสตรีของประเทศสเปนได้เดินหน้ากันมาไกลถึงขนาดไหนแล้ว อาจารย์กล่าวอย่างนั้น

อาจารย์มาร์ติเนซ-บาซกูญัน ย้ำด้วยว่าในห้วง 20 ปีที่ผ่านมานี้ สเปนคือประเทศที่บุกเบิกในด้านการออกกฎหมายส่งเสริมสิทธิเสมอภาคทางเพศและความเท่าเทียมระหว่างเพศ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปี 2004 สเปนรับรองว่าการใช้ความรุนแรงภายในครอบครัว เป็นความรุนแรงที่นำมาดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศได้ และในปี 2022 หลังกรณีแก๊งอาชญากรรุมข่มขืนผู้หญิง รัฐบาลก็ได้ตรากฎหมายที่ถือว่าเซ็กส์ทุกอย่างที่ฝ่ายหนึ่งไม่ยินยอมพร้อมใจ คือ การข่มขืน

ปฏิกิริยาสังคมที่เล่นงาน จูบความอัปยศ หนนี้ อาจารย์ฟันธงเลยว่า มันแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มปัจจุบันที่สเปนไม่มีเจตนารมณ์จะถอยหลังกลับในเรื่องสิทธิสตรีและความเท่าเทียมหญิง-ชาย

พร้อมนี้ อาจารย์ได้จุดประกายให้ตระหนักว่าเหตุการณ์จูบอัปยศกลายเป็น “โอกาสสุดยอดเยี่ยม” สำหรับนักเคลื่อนไหวสิทธิสตรีและฝ่ายก้าวหน้าทั้งปวงของสเปนในอันที่จะเปิดโปงและเปลี่ยนแปลงลัทธิเหยียดเพศในทุกพื้นที่สังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภายในบรรดาสถาบันที่เพศชายครอบงำมาอย่างเหนียวแน่นยาวนานที่สุด

อาจารย์บอกด้วยว่าความแตกต่างทางความคิดระหว่างคนต่างเจเนอเรชัน และความแตกต่างในการมองประเด็นเพศหญิงเพศชายนั้น มันมีเส้นแบ่งความผิด-ถูกให้พอเห็นได้ และขอบอกว่าคนสเปนส่วนใหญ่เข้าใจได้อยู่แล้ว ทำไมจูบอัปยศของ รูบิอาเลส จึงเข้าข่ายไม่เหมาะสม ส่วนผู้ที่ไม่เข้าใจ “ก็ไม่ได้เป็นชนส่วนใหญ่แต่อย่างใด”

ลูอีส รูบีอาเลส ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปนผู้อื้อฉาว ซึ่งถูกสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ หรือ ฟีฟ่า สั่งพักงาน 90 วัน
ฝ่ายอนุรักษนิยมร่วมใจกับฝ่ายก้าวหน้าถล่มประณาม “รูบิอาเลส” ล่วงละเมิดสตรี

สิ่งที่อาจารย์มาร์ติเนซ-บาซกูญัน ชี้ไว้ ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เสียงประณามการจูบลวนลามซึ่งปรากฏในคลิปและภาพถ่ายที่แพร่กระจายอยู่ตามโซเชียลมีเดียของสเปน ตลอดจนตามหน้าหนังสือพิมพ์และจอโทรทัศน์ทั่วประเทศ ออกมาจากแทบทุกฝ่ายทั่วทุกแวดวงทางการเมือง

รักษาการนายกฯ เปโดร ซานเชส ผู้นำพรรคสังคมนิยม ได้เสี่ยงทุ่มเดิมพันครั้งใหญ่และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยนำเอาประวัติแห่งการต่อสู้สนับสนุนแนวทางก้าวหน้าและสิทธิสตรีของตนเอง มาเป็นประเด็นหลักในการหาเสียงสู้ศึกเลือกตั้งที่ผ่านมา

นายกฯ ซานเชสจึงเล่นงานดุเดือดผ่านคำแถลงว่า กรณีจูบล่วงละเมิดสตรีนี้ เป็นสิ่งที่ “ยอมรับไม่ได้” และแม้ว่า รูบิอาเลส ออกมากล่าวขอโทษในภายหลัง ก็ยัง “ไม่เพียงพอ”

อีเรเน มอนเตโร ในฐานะเจ้าภาพดูแลสิทธิสตรี ตามหัวโขนแห่งรักษาการรัฐมนตรีกระทรวงความเสมอภาคเท่าเทียม ฟันธงตรงๆ เลยว่า การจูบอื้อฉาวนี้เป็น “การใช้ความรุนแรงในทางเพศ” คำแถลงของเธอทำให้ รูบิอาเลส เดือดดาลถึงกับข่มขู่ว่าจะฟ้องร้องข้อหาหมิ่นประมาทเอากับเธอและพวกนักการเมืองฝ่ายซ้ายคนอื่นๆ

ปฏิกิริยาในค่ายอนุรักษนิยมก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน

กูกา กามาร์รา เลขาธิการพรรคประชาชนเจ้าของแนวทางอนุรักษนิยม พูดถึงคดีจูบนี้ว่า “น่าละอาย”

อิซาเบล ดิอัซ อายูโซ ประธานแคว้นมาดริด ผู้ได้รับการจับตามองอย่างกว้างขวางว่ามีโอกาสสูงที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีจากฝ่ายอนุรักษนิยม เรียกมันว่า “น่าอัปยศ”

บทบรรณาธิการที่ตีพิมพ์เมื่อวันเสาร์ (26 ส.ค.) ใน ลา ราซอน หนังสือพิมพ์แนวทางอนุรักษนิยม พูดถึงเหตุการณ์อันน่าเกลียดนี้ว่า เป็น “การปรากฏตัวของอสูรกายแห่งชาติ”

ส่วนสำหรับพรรคฝ่ายขวาจัด นามว่า พรรคว็อกซ์ ซึ่งพ่ายแพ้หนักหนาในการเลือกตั้งภายหลังรณรงค์หาเสียงโดยวาดภาพกฎหมายต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศ ว่าเป็นกฎหมายซึ่งมีอคติต่อผู้ชาย เดินนโยบายปิดวาจา

การเดินขบวนประท้วงการกระทำของรูบิอาเลส และเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งประธานสหพันธ์ฯ เต็มไปด้วยสีสัน ในภาพนี้เป็นการชูใบแดงไล่ออก และบนใบแดงเขียนคำว่า “หมดเวลาเล่นเกม”
โลลา อินดิโก ซุปตาร์สาวเฟียสแห่งวงการดนตรี และนักสิทธิสตรีตัวแม่ ได้เข้าร่วมกับกระแสต่อต้านพฤติกรรมเหยียดเพศในวงการฟุตบอล ซุปตาร์โลลาถึงกับหยุดการแสดงคอนเสิร์ตในเมืองมาร์เบยา เพื่อแสดงความโกรธเกรี้ยวต่อพวกผู้ชายที่ลุกขึ้นยืนให้เกียรติแก่ รูบิอาเลส กันอย่างพรึบพรับ หลังจากชายผู้อื้อฉาวนายนี้กล่าวปราศรัยเมื่อวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม นิวยอร์กไทมส์รายงานอย่างนั้น

ขณะที่การประณามติเตียนประธานสหพันธ์ฯ ดำเนินไปอย่างแทบจะเรียกได้ว่าเอกฉันท์ ไม่ว่าจะในแวดวงการเมือง ในพื้นที่สื่อมวลชน หรือในชีวิตสาธารณะทั่วทั้งสเปน แต่ก็มีผู้คนบางส่วนที่ยังตั้งเชื่อว่าผู้ชายเหมาะสมแล้วที่จะเป็นใหญ่กว่าผู้หญิง และจึงรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมิได้เลวร้ายมากมายอะไร

โดย รัศมี มีเรื่องเล่า

(ที่มา: นิวยอร์กไทมส์ บีบีซี เดลิเมลออนไลน์ ซีเอ็นเอ็น เอพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น