เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 2 ลูก ส่วนหนึ่งของการ "ซ้อมโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธี" ที่ถูกปลุกเร้าโดยการซ้อมรบร่วมทางทหารระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ตามรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐในวันพฤหัสบดี (31 ส.ค.)
การยิงขีปนาวุธครั้งนี้ ซึ่งกองทัพเกาหลีใต้รายงานเป็นที่แรก เกิดขึ้นท่ามกลางการซ้อมรบร่วมประจำปี Ulchi Freedom Shield ระหว่างวอชิงตันกับโซล ซึ่งโหมกระพือความขุ่นเคืองแก่เปียงยางมาตลอด
กองทัพเกาหลีเหนือระบุในถ้อยแถลงว่า ขีปนาวุธถูกยิงออกไปในช่วงค่ำวันพุธ (30 ส.ค.) ในการซ้อมรบโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีจำลองกลยุทธ์ผลาญภพให้สิ้นซาก มีเป้าหมายที่กองบัญชาการสำคัญๆ และลานบินต่างๆ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามชายแดนในเกาหลีใต้
"ขีปนาวุธแบบทิ้งตัวทางยุทธวิธีถูกยิงเข้าหาทะเลตะวันออก หรือที่รู้จักกันในนาม ทะเลญี่ปุ่น ก่อนเที่ยงคืนไม่นาน" สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ รายงานอ้างคำสัมภาษณ์ของกองทัพโซล
ในขณะที่สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ (เคซีเอ็นเอ) ระบุในถ้อยแถลงว่า "การทดสอบครั้งนี้มีเป้าหมายส่งสารอย่างชัดเจนไปถึงเหล่าอริศัตรู"
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่เปียงยางทำการทดสอบอาวุธมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในปีนี้ นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังได้ทำการซ้อมรบทางทหารระดับบัญชาการของตนเองเมื่อวันอังคาร (29 ส.ค.) ตอบโต้การซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ซึ่งระหว่างนั้น คิม จองอึน ผู้นำของประเทศได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์บัญชาการการฝึกซ้อมแห่งหนึ่งด้วย ตามรายงานของเคซีเอ็นเอ
"การซ้อมรบนี้มีเป้าหมายช่วยให้พวกผู้บัญชาการทั้งหมดและฝ่ายเจ้าหน้าที่ของทั้งกองทัพมีความพร้อมอย่างเต็มพิกัดสำหรับสงคราม" เคซีเอ็นเอ็นพูดถึงการซ้อมรบ
อีกด้านหนึ่งในฝ่ายเกาหลีใต้ คณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้บอกว่ากองทัพทางใต้ของชายแดน กำลังคงไว้ซึ่งความพร้อมเต็มพิกัด ภายใต้การร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสหรัฐฯ
สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า การซ้อมรบทางอากาศร่วมระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ เกี่ยวข้องกับการที่เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธวิธี B-1B ของสหรัฐฯ อย่างน้อย 1 ลำ บินขึ้นเหนือคาบสมุทรเกาหลีในตอนเช้าวันพุธ (30 ส.ค.) รายละเอียดที่ทำให้เปียงยางไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก
เปียงยางเรียกการบินเหนือคาบสมุทรดังกล่าว ว่าเป็น "ภัยคุกคามร้ายแรง" และอาจตามมาด้วยกรณีของการชิงลงมือโจมตีทางนิวเคลียร์ใส่เกาหลีเหนือก่อน
จอห์น เคอร์บี โฆษกด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ กับบรรดาพวกผู้สื่อข่าวในวอชิงตัน
ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร (29 ส.ค.) สหรัฐฯ เกาหลีใต้และญี่ปุ่น ได้จัดการซ้อมรบป้องกันขีปนาวุธทางทะเลไตรภาคี ที่ก่อความเดือดดาลแก่เกาหลีเหนือเช่นกัน
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นหลังจากวอชิงตัน โซลและโตเกียว ยกระดับความร่วมมือด้านป้องกันตนเองในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตอบโต้ในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าการยั่วยุทางขีปนาวุธที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเกาหลีเหนือ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เปียงยางได้พยายามยิงดาวเทียมสอดแนมขึ้นสู่วงโคจรเป็นครั้งที่ 2 แต่มันจบลงด้วยความล้มเหลวเช่นเคย
คิม จองอึน เคยประกาศว่าเกาหลีเหนือกลายเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ที่ไม่อาจย้อนกลับได้ และเรียกร้องให้ยกระดับกำลังผลิตอาวุธ ในนั้นรวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี
นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องยกระดับแสนยานุภาพของกองทัพเรือ โดยบอกว่าน่านน้ำของประเทศเต็มไปด้วยอันตรายของสงครามนิวเคลียร์
(ที่มา : เอเอฟพี)