xs
xsm
sm
md
lg

ยูเครนล็อกเป้าไครเมีย! รัสเซียโวสกัดได้หมด ทั้งขีปนาวุธที่เล็งถล่มสะพานและโดรน 20 ลำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย สอยร่วงขีปนาวุธยูเครน 3 ลูก เหนือสะพานแห่งหนึ่งที่เชื่อมระหว่างดินแดนผนวกไครเมียกับแผ่นดินใหญ่รัสเซีย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในวันเสาร์ (12 ส.ค.)

เซอร์กีย์ อัคโยนอฟ ผู้ว่าการที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียของแหลมไครเมีย ระบุบนสื่อสังคมออนไลน์ว่า "กองกำลังป้องกันภัยทางอากาศสอยร่วงขีปนาวุธของศัตรู 2 ลูก เหนือช่องแคบเคิร์ช สะพานไครเมียไม่ได้รับความเสียหาย" ก่อนจะเผยแพร่ถ้อยแถลงเพิ่มเติมในเวลาต่อมา ระบุว่ากองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียสอยร่วงขีปนาวุธยูเครนอีกลูกที่เล็งเป้าเล่นงานสะพานดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้ชาวบ้านอยู่ในความสงบ

ภาพที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ พบเห็นกลุ่มควันลอยพวงพุ่งขึ้นจากบริเวณใกล้เคียงสะพาน

ในถ้อยแถลงแยกกัน ทางกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย ระบุว่า รัฐบาลเคียฟพยายามโจมตีสะพานโครเมีย ด้วยขีปนาวุธนำวิถีต่อต้านอากาศยาน S-200 ลูกหนึ่ง และต่อมาในวันเดียวกัน ทางกระทรวงรายงานว่าเคียฟได้พยายามเล่นงานสะพานแห่งนี้อีกรอบด้วยขีปนาวุธ S-200 เช่นเดิม

กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่าขีปนาวุธเหล่านี้ถูกตรวจพบและสกัดไว้ได้โดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย พร้อมบอกว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รวมถึงไม่มีความเสียหายใดๆ

ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ (12 ส.ค.) รัสเซียเปิดเผยว่ากองกำลังของพวกเขาสกัดโดรนไร้คนขับของยูเครน 20 ลำ ใกล้แหลมไครเมีย บริเวณที่เคียฟยกระดับการโจมตี

ถ้อยแถลงของกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า 14 ลำถูกสอยร่วงโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศ และอีก 6 ลำ ถูกจัดการผ่านการสงครามอิเล็กทรอนิกส์

มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย บอกว่ามอสโกขอประณามการโจมตีการก่อการเหล่านี้ "การการกระทำที่ป่าเถื่อนเช่นนี้ไม่อาจอ้างความชอบธรรม และจะไม่ถูกปล่อยไปโดยปราศจากการตอบโต้ใดๆ" เธอระบุในถ้อยแถลง

เคียฟ ซึ่งเคยบอกว่ามีแผนยึดคืนไครเมีย ได้เล็งเป้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าหวังถล่มสะพานไครเมีย หนึ่งในโครงการหลักของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน

ไครเมีย ซึ่งรัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014 ตกเป็นหมายของเคียฟมาตลอดนับตั้งแต่รัสเซียเปิดปฏิบัติการรุกรานยูเครน แต่มันหนักหน่วงขึ้นและยกระดับการโจมตีเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

(ที่มา : เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น