xs
xsm
sm
md
lg

ระบายแค้น! รัสเซียใช้ขีปนาวุธและโดรนหลายสิบถล่มยูเครน เอาคืนเหตุโจมตีเรือบรรรทุกน้ำมัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รัสเซียปฏิบัติการโจมตียูเครนหลายระลอกเมื่อคืนวันเสาร์ (5 ส.ค.) จนถึงวันอาทิตย์ (6 ส.ค.) ตามหลังประกาศแก้แค้นเหตุเล่นงานเรือบรรทุกน้ำมันในช่องแคบเคิร์ชหนึ่งวันก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ทางฟากฝั่งเคียฟก็ยังโจมตีไม่หยุดเช่นกัน ล่าสุดเล็งเป้าเล่นงานสะพานหลายแห่งในดินแดนต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของมอสโก

กองทัพอากาศยูเครนเปิดเผยในวันอาทิตย์ (6 ส.ค.) ว่าพวกเขาสอยขีปนาวุธร่อน 30 จากทั้งหมด 40 ลูก และโดรนชาเฮดทั้งหมดที่ปล่อยออกมาโดยรัสเซีย "รวมแล้ว ศัตรูใช้อาวุธโจมตีทางอากาศ 70 ลูก/ลำ ในการโจมตีหลายระลอกในช่วงค่ำคืนวันเสาร์ (5 ส.ค.) จนถึงวันอาทิตย์ (6 ส.ค.)

ถ้อยแถลงของกองทัพอากาศยูเครนกล่าวต่อว่ารัสเซียได้ยิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกคินซาลออกมา 3 ลูก แต่ไม่ได้บอกว่าสามารถสกัดทำลายขีปนาวุธเหล่านี้ได้หรือไม่ ในขณะที่กองทัพยูเครนไม่ได้ระบุอย่างเจาะจงเช่นกันว่าบรรดาขีปนาวุธที่เล็ดลอดผ่านระบบป้องกันภัยทางอากาศไปนั้นพุ่งไปโดนที่ใดบ้าง

อย่างไรก็ตาม กองทัพรัสเซียอ้างว่าอาวุธของพวกเขาโจมตีฐานทัพอากาศหลายแห่งของกองทัพยูเครนรอบๆ ถิ่นที่พักอาศัยสตาโรคอสเตียนตีนิฟ ในแคว้นคเมลนิตสกีและเมืองดูบโนในแคว้นรีฟเน

ในฐานะที่ตั้งของฐานทัพอากาศขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง แคว้นคเมลนิตสกี อยู่ห่างจากแนวหน้าของการสู้รบหลายร้อยกิโลเมตร แต่ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่าระหว่างสงคราม "นับตั้งแต่ช่วงเย็นวาน แคว้นคเมลนิตสกี โดนโจมตี 3 รอบ ขีปนาวุธส่วนใหญ่ถูกสอยร่วง" เซอร์กีย์ ยูริน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าว

อาคารหลายแห่งและสถานีรถบัสได้รับความเสียหาย เขากล่าวบนเทเลแกรม พร้อมกับโพสต์ภาพอาคารที่พังเสียหายแห่งหนึ่งกำลังถูกไฟลุกท่วม และบอกว่าคลังเศษข้าวโพดกำลังลุกติดไฟ ในขณะที่วิตาลีย์ โควาล หัวหน้าเจ้าหน้าที่แคว้นรีฟเน ระบุว่าในแคว้นแห่งนี้การโจมตีของรัสเซียก่อความเสียหายเฉพาะบ้านเรือนประชาชนไม่กี่หลัง

เมื่อวันเสาร์ (5 ส.ค.) ยูเครนเปิดเผยว่ากองกำลังรัสเซียโจมตีศูนย์เปลี่ยนถ่ายเลือดแห่งหนึ่งในแคว้นคาร์คิฟ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ โดยประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ระบุมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีดังกล่าว “แค่เฉพาะอาชญากรรมสงครามนี้เพียงอย่างเดียว สามารถบอกได้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับการรุกรานของรัสเซีย"

รายงานเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าวมีขึ้นหลังจาก เซเลนสกี อ้างว่าขีปนาวุธของรัสเซียโจมตีโรงงานของมอเตอร์ ซิช กลุ่มบริษัทอากาศยานสัญชาติยูเครน หนึ่งในหลายบริษัทที่อยู่ภายใต้คำขอของรัฐบาลนับตั้งแต่การรุกรานของรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม ระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียก็ต้องทำงานเช่นกันในวันอาทิตย์ (6 ส.ค.) หลังจากเคียฟเล็งเป้าเล่นงานสะพาน 2 แห่งในดินแดนยึดครอง

"ศัตรูยิงขีปนาวุธลูกหนึ่งใกล้สะพานชอนการ์ ที่เชื่อมทางใต้ของยูเครนกับแหลมไครเมีย ดินแดนผนวก" จากการเปิดเผยของเซอร์เก อัคโยนอฟ ผู้ว่าการแคว้นที่ได้รับการแต่งตั้งจากมอสโก "ลูกหนึ่งโดน ขีปนาวุธบางส่วนถูกสอยร่วง" เขากล่าว พร้อมระบุว่าเวลานี้อยู่ระหว่างการซ่อมแซม

นอกจากนี้ ยังมีการโจมตีสะพานอีกแห่งใกล้เมืองเกนิเชสก์ ในแคว้นเคียร์ซอน ทางภาคใต้ของยูเครน ส่งผลให้พลเรือนได้รับบาดเจ็บ 1 ราย และท่อลำเลียงก๊าซแห่งหนึ่งได้รับความเสียหาย ตัดขาดอุปทานที่ป้อนแก่ชาวบ้านราว 20,000 คน

กองกำลังป้องกันภันทางอากาศของรัสเซียเผยด้วยว่าพวกเขาสอยร่วงโดรนลำหนึ่งที่มุ่งหน้าเข้าหาเมืองหลวง ในปฏิบัติการล่าสุดที่เล็งเป้าเล่นงานกรุงมอสโก ทั้งที่หลายเดือนก่อนหน้านี้มันไม่เคยตกเป็นเป้าหมายมาก่อน

โดรนถูกสอยร่วงโดยปราศจากผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายใดๆ และข้อจำกัดเกี่ยวกับเที่ยวบินต่างๆ ณ สนามบินนูโคโวของมอสโก ถูกยกเลิกอย่างรวดเร็ว

ปฏิบัติการโจมตียูเครนหลายระลอกของรัสเซียเมื่อคืนวันเสาร์ (5 ส.ค.)จนถึงวันอาทิตย์ (6 ส.ค.) มีขึ้นตามหลังโดรนยูเครนลำหนึ่งโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งของรัสเซีย ในช่องแคบเคิร์ช ในช่วงค่ำคืนวันศุกร์ (4 ส.ค.) ต่อเช้าวันเสาร์ (5 ส.ค.)

รัสเซียในวันเสาร์ (5 ส.ค.) ประกาศจะลงโทษยูเครนต่อกรณีใช้โดรนทะเลโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันเอกชนลำหนึ่ง ใกล้ช่องแคบเคิร์ช ในสิ่งที่พวกเขาประณามว่าเป็น "การก่อการร้าย" ที่คุกคามชีวิตลูกเรือและเสี่ยงก่อหายนะด้านสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง

มีการโจมตีไปแล้วหลายระลอกจากทั้ง 2 ฟากฝั่งของทะเลดำ นับตั้งแต่รัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงปกป้องการส่งออกธัญพืชจากบริเวณดังกล่าว ซึ่งมีสหประชาชาติและตุรกีเป็นคนกลาง โดยฝ่ายรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานท่าเรือในทะเลดำและแม่น้ำดานูบ ส่วน ยูเครนเล็งเป้าเล่นงานกองเรือทะเลดำของรัสเซีย

ระหว่างที่ทั้ง 2 ฝ่ายยังคงเดินหน้าต่อสู้กัน ความเป็นไปได้ของการบรรลุข้อตกลงสันติภาพดูเหมือนจะน้อยนิดมากๆ

กระนั้น ซาอุดีอาระเบียเป็นเจ้าภาพการพูดคุยหารือเกี่ยวกับสงครามยูเครนในวันเสาร์ (5 ส.ค.) โดยฝ่ายจัดดึงบรรดาผู้แทนจาก 4 ชาติสมาชิกของกลุ่มก้อนทรงอิทธิพล BRICS มารวมตัวกัน ประกอบด้วย บราซิล อินเดีย จีนและแอฟริกาใต้ ยกเว้นรัสเซีย

"มันเป็นการสนทนาที่จริงใจและเปิดกว้างมากๆ" ถ้อยแถลงที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ประธานาธิบดียูเครนระบุในวันอาทิตย์ (6 ส.ค.) พร้อมเรียกการปรึกษาหารือดังกล่าวว่าสร้างสรรค์มากๆ แม้มีมุมมองที่ต่างกัน ทั้งนี้หลังจากการประชุมดังกล่าว คณะผู้แทนของยูเครนที่นำโดย อันดรีย์ เยอร์มัค ได้พูดคุยหารือทวิภาคีกับประเทศต่างๆ เพิ่มเติมในวันอาทิตย์ (6 ส.ค.)

ในช่วงค่ำวันอาทิตย์ (6 ส.ค.) สำนักข่าวซาอุดีเพรส รายงานว่ามีประเทศต่างๆ และองค์กรระหว่างประเทศรวมแล้วมากกว่า 40 แห่ง ที่เข้าร่วมการพูดคุยหารือในครั้งนี้

(ที่มา : เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น