ยูเครนในวันจันทร์ (7 ส.ค.) แสดงความพึงพอใจต่อที่ประชุมซัมมิตที่จัดในซาอุดีอาระเบียเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในการหาทางออกสันติภาพยุติการสู้รบกับรัสเซีย ซึ่งมอสโกไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมด้วย โดยกล่าวอ้างมันชี้ให้เห็นว่ารัสเซียกำลังถูกโดดเดี่ยวจากนานาชาติมากขึ้นเรื่อยๆ
บรรดาตัวแทนจากราว 40 ประเทศทั่วโลก ในนั้นรวมถึงจีน อินเดีย สหรัฐฯ และยูเครน เข้าร่วมประชุมซัมมิตสันติภาพ ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเจดดาห์ "เราพอใจอย่างมากกับผลของการประชุม" อันดรีย์ เยอร์มัค หัวหน้าคณะทำงานทำเนียบประธานาธิบดียูเครนกล่าว "การประชุมในซาอุดีอาระเบีย เป็นการซักซ้อมของโลก ซึ่งไม่มีที่ว่างสำหรับการรุกรานป่าเถื่อน (โดยรัสเซีย)"
เขบอกว่ามีการตกลงสำหรับการประชุมซัมมิตครั้งต่อไป "แต่ยังไม่กำหนดวันเวลาที่ชัดเจน" และบอกว่าจะมีประเทศต่างๆ เข้าร่วมมากกว่านี้
เยอร์มัค เปิดเผยด้วยว่าผู้แทนของจีนรายหนึ่งมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมของการประชุม "ไม่มีเหตุผลที่จะมีข้อสงสัยว่า หลักการไม่มีอะไรเกี่ยวกับยูเครนหากปราศจากยูเครน จะประสบปัญหาติดขัด"
สหรัฐฯ ในวันจันทร์ (7 ส.ค.) แสดงความยินดีที่จีนเข้าร่วมการพูดคุยที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย เกี่ยวกับสงครามในยูเครน และวอชิงตันแสดงความหวังเช่นเดียวกับเคียฟว่า มันเป็นการแสดงให้เห็นว่ารัสเซียกำลังถูกโดดเดี่ยว
"เราเชื่อว่ามันมีผลดีมากที่จีนเข้าร่วมด้วย" แมตธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับผู้สื่อข่าว "เราพูดมานานแล้วว่า มันจะเป็นผลดีสำหรับจีนในการเล่นบทบาทยุติสงครามในยูเครน หากพวกเขามีความตั้งใจเล่นบทบาทที่เคารพบูรณภาพแห่งดินแดนและอำนาจอธิปไตยของยูเครน"
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซียคงไม่คลี่คลายง่ายๆ ด้วยก่อนหน้านี้ มอสโกออกมาเน้นย้ำว่าทางออกสันติภาพใดๆ จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเคียฟยอมวางอาวุธเท่านั้น
รัสเซียซึ่งไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมซัมมิต กล่าวว่าทางออกหนึ่งที่เป็นไปได้คือหากยูเครน "หยุดความเป็นปรปักษ์และโจมตีก่อการร้าย" และบรรดาชาติตะวันตกหยุดจัดหาอาวุธให้แก่เคียฟ
นอกจากนี้ รัสเซียยังเรียกร้องให้ยูเครนยอมสละดินแดนที่ถูกยึดครองแก่มอสโก "รากฐานดั้งเดิมแห่งอำนาจอธิปไตยของยูเครนคือรัฐเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและปราศจากนิวเคลียร์ เหล่านี้ต้องได้รับการยืนยัน" มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ระบุในถ้อยแถลง
ปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซียลากยาวมานานเกือบ 1 ปีครึ่งแล้ว และเวลานี้กองกำลังเคียฟกำลังเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ที่เฝ้ารอมานาน เพื่อทวงดินแดนที่ถูกยึดครองคืนกลับมา
(ที่มา : เอเอฟพี)