ปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ของยูเครนล่าช้ากว่าที่คาดหมายไว้ แต่กระนั้นก็ยังมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง จากความเห็นของจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวเมื่อช่วงต้นสัปดาห์
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ วูล์ฟ บลิตเซอร์ ของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ที่ออกอากาศเมื่อวันจันทร์ (31 ก.ค.) เคอร์บี ถูกสอบถามเกี่ยวกับสถานะของปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ของยูเครน ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ซึ่งในเรื่องนี้เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวบ่งชี้ว่าผลลัพธ์ของปฏิบัติการโจมตีตอบโต้จนถึงตอนนี้ไม่ค่อยน่าประทับใจนัก
"พวกเขากำลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ และพวกเขาจะเป็นคนแรกที่บอกกับคุณ ว่าพวกเขาไม่มีความคืบหน้าไกลหรือรวดเร็วอย่างที่พวกเขาต้องการ ผมคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องตระหนักว่า เมื่อพวกเขาวิ่งเข้าหาแนวป้องกัน บางครั้งมันมีถึง 3 ชั้นและได้รับการปกป้องโดยทุ่งกับระเบิด ระหว่างนั้นพวกคุณถูกยิงปืนและยิงระเบิดเข้าใส่ มันเป็นงานที่สาหัสอย่างมาก"
อย่างไรก็ตาม โฆษกรายนี้อ้างว่า แม้ไม่มีความคืบหน้าเป็นระยะทางไกลอย่างที่ฝ่ายยูเครนต้องการ แต่เคียฟยังคงสามารถรุกคืบได้อย่างต่อเนื่องในสมรภูมิรบ พร้อมเน้นย้ำด้วยว่าวอชิงตันจะทำทุกอย่างให้แน่ใจว่า "ยูเครนจะมีเครื่องไม้เครื่องมือทุกอย่างที่พวกเขาต้องการ"
วูล์ฟ บลิตเซอร์ ถามต่อเกี่ยวกับจุดยืนของสหรัฐฯ เกี่ยวกับความพยายามของยูเครนในการโจมตีเมืองหลวงของรัสเซีย ในเรื่องนี้ เคอร์บี ระบุว่าแม้อเมริกาไม่สนับสนุนหรือไม่ได้ให้อำนาจโจมตีดังกล่าว แต่ท้ายที่สุดแล้ว การตัดสินใจเกี่ยวกับเป้าหมายต่างๆ จะขึ้นอยู่กับพวกเจ้าหน้าที่ในเคียฟ
"มันไม่ใช่การยอมรับการโจมตี พวกเขาจำเป็นต้องตัดสินใจว่าอะไรที่จะเป็นเป้าหมายของพวกเขา และพวกเขาจะใช้แสนยานุภาพของตนเองกับที่ไหน" เคอร์บีกล่าว พร้อเน้นว่า "จุดยืนของเราคือ เราต้องการให้มุ่งเน้นสงครามภายในยูเครน"
สหประชาชาติประณามทั้งรัสเซียและยูเครนต่อการโจมตีเมืองต่างๆ ของอีกฝ่าย ด้วยสำนักงานของนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่ ประณามยูเครนต่อการโจมตีกรุงมอสโก เมื่อช่วงต้นสัปดาห์เช่นกัน
"เราคัดค้านการโจมตีใดๆ และทั้งหมดที่เล่นงานแหล่งพักพิงของพลเรือน และเราอยากให้พวกเขาหยุด" ฟาร์ฮาน ฮัก รองโฆษกของกูเตอร์เรสบอกกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ (31 ก.ค.) ไม่นานหลังจากโดรนหลายลำถูกสกัดเหนือย่านธุรกิจแห่งหนึ่งของกรุงมอสโก แต่มันก่อความเสียหายแก่อาคารหลายหลังและทำให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ 1 ราย
นอกจากนี้ ในวันอังคาร (1 ส.ค.) ปฏิบัติการโจมตีด้วยโดรนอีกลำก็ถูกทำลายเช่นกัน จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่รัสเซีย พร้อมระบุโดรนลำดังกล่าวตกลงใส่อาคารแห่งหนึ่งหลังสกัดเอาไว้ได้
แม้ยูเครนไม่เคยอ้างความรับผิดชอบใดๆ ต่อเหตุโจมตีนอกดินแดนของพวกเขา แต่เมื่อวันอาทิตย์ (30 ก.ค.) ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประกาศว่า "สงครามกำลังหวนคืนสู่ดินแดนของรัสเซีย" และหนึ่งในที่ปรึกษาของเขา มิคาอิล โพดอลยัค กล่าวในเวลาต่อมา ว่า มอสโกจะได้เห็น "สงครามเต็มเปี่ยม" และคาดหมายไว้ได้เลยว่าจะต้องเจอกับ "โดรนไม่สามารถรระบุเอกลักษณ์เพิ่มเติม อาคารพังถล่มมากกว่านี้ และสงครามกลางเมือง"
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์/ซีเอ็นเอ็น)