เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ เพิกเฉยต่อคำกล่าวอ้างที่ว่าวอชิงตันอาจสูญเสีย "ธรรมอำนาจ" ด้วยการจัดหาระเบิดลูกปราย หรือระเบิดพวง (cluster bombs) ให้แก่ยูเครน สำหรับใช้เล่นงานกองกำลังรัสเซีย ยืนยันอเมริกายังคงมีอำนาจทางศีลธรรม จากข้อเท็จจริงที่ว่ากำลังให้การสนับสนุนเคียฟต่อกรกับการโจมตีโหดร้ายป่าเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน
ซัลลิแวน กล่าวในประเด็นนี้ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์ในวันอาทิตย์ (16 ก.ค.) ปกป้องการตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อช่วงต้นเดือน ที่มอบกระสุนคลัสเตอร์ให้แก่เคียฟ แม้ทำเนียบขาวเคยตราหน้าว่าเป็น "อาชญากร" ครั้งที่พวกเขากล่าวหารัสเซียใช้อาวุธดังกล่าว
แม้คลัสเตอร์บอมบ์เป็นอาวุธต้องห้ามภายใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศฉบับหนึ่งที่ลงนามโดยชาติต่างๆ ทั่วโลกมากกว่า 100 ประเทศ แต่ ซัลลิแวน เน้นย้ำว่าทั้งสหรัฐฯ และยูเครน ต่างไม่เคยลงนามในสนธิสัญญานี้
"อำนาจทางศีลธรรมของเราและอำนาจทางศีลธรรมของยูเครน ในความขัดแย้งนี้มาจากข้อเท็จจริงที่ว่าเรากำลังสนับสนุนประเทศหนึ่งที่ถูกโจมตีอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยห่าขีปนาวุธและระเบิด ถล่มเมืองต่างๆ ของพวกเขา เข่นฆ่าพลเรือน ทำลายโรงเรียน โบสถ์ โรงพยาบาล" ซัลลิแวนบอกกับเอ็นบีซี
"และหากใครมีความคิดที่ว่า การจัดหาอาวุธหนึ่งแก่ยูเครน เพื่อที่พวกเขาจะสามารถปกป้องแผ่นดินของตนเอง ปกป้องพลเรือนของพวกเขา ด้วยเหตุผลบางประการ เป็นการท้าทายอำนาจทางศีลธรรมของเรา ผมคิดว่าคำถามนั้นเป็นสิ่งน่าสงสัย" ซัลลิแวนระบุ
ชัค ทอดด์ พิธีกรของเอ็นบีซีถามต่อโดยชี้ว่า วอชิงตัน พยายามเป็นผู้นำโลกในความพยายามกำจัดอาวุธโหดร้ายป่าเถื่อนเหล่านี้ "แต่เวลานี้เรายังคงกลับไปค้นสต๊อกของเราและมอบมันให้แก่พันธมิตร" ในเรื่องนี้ ซัลลิแวน ชี้แจงว่ากรณีแวดล้อมเป็นตัวเรียกร้องให้ไบเดนต้องตัดสินใจส่งกระสุนคลัสเตอร์ไปให้ยูเครน แม้ถูกคัดค้านจากสหราชอาณาจักร แคนาดาและพันธมิตรอื่นๆ ในนาโตก็ตาม
"ผมอยากบอกว่าที่เรายกระดับมอบในสิ่งที่ยูเครนต้องการ เพื่อไม่ให้พวกเขาไร้ซึ่งหนทางแห่งการป้องกันตนเอง ยามที่ต้องเผชิญการโจมตีของรัสเซีย" ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติระบุ "ง่ายๆ เลย เราจะไม่ปล่อยให้ยูเครนไร้หนทางในการป้องกันตนเอง"
ไบเดน บ่งชี้ระหว่างให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นเมื่อช่วงต้นเดือน อ้างว่าสืบเนื่องจากสหรัฐฯ และยูเครนขาดแคลนกระสุนปืนใหญ่ทั่วไป ทำให้เขาตัดสินใจมอบกระสุนคลัสเตอร์แก่เคียฟ ในฐานะการแก้ปัญหาชั่วคราว
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เน้นระหว่างให้สัมภาษณ์ที่ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ (16 ก.ค.) เหน็บแนมว่าทำเนียบขาวเองเคยตราหน้าการใช้ระเบิดคลัสเตอร์ว่าเป็นอาชญากรรมสงคราม พร้อมเตือนว่าถ้ากองกำลังยูเครนใช้อาวุธดังกล่าวในสนามรบ รัสเซียขอสงวนสิทธิตอบโต้ด้วยอาวุธแบบเดียวกัน
ระเบิดคลัสเตอร์ถูกแบนโดยทั่วโลก สืบเนื่องจากกระสุนระเบิดขนาดเล็กๆ บางลูกที่มันปลดปล่อยออกมาอาจไม่ทำงาน ซึ่งก่อภัยคุกคามแก่พลเรือน จากข้อมูลพบว่ามีพลเรือนกว่า 86,500 คน ที่เสียชีวิจากคลัสเตอร์บอมบ์นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และมีคนต้องพิการมากกว่านั้นมากมายหลายเท่า
(ที่มา : เอ็นบีซี/อาร์ทีนิวส์)