ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตือนว่ารัสเซียมี "คลังระเบิดลูกปราย หรือระเบิดพวง (cluster bombs)" เพียงพอ และขอสงวนสิทธิใช้กระสุนดังกล่าวเช่นกัน หากว่าอีกฝ่ายใช้อาวุธดังกล่าวที่เขามองว่าเป็นการก่ออาชญากรรมกับกองกำลังรัสเซียในยูเครน
ยูเครนระบุเมื่อวันพฤหัสบดี (13 ก.ค.) ว่าพวกเขาได้รับคลัสเตอร์บอมบ์จากสหรัฐฯ ชาติผู้สนับสนุนทางทหารรายใหญ่ที่สุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่อเมริกาอ้างว่ากระสุนนี้มีความจำเป็นเพื่อชดเชยปัญหาขาดแคลนของกองกำลังเคียฟ ในยามที่พวกเขากำลังยกระดับปฏิบัติการโจมตีตอบโต้
คลัสเตอร์บอมบ์ถูกห้ามโดยประเทศต่างๆ มากกว่า 100 ชาติทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรป ผ่านการลงนามในอนุสัญญาออสโลปี 2008 สืบเนื่องจากความเสี่ยงก่ออันตรายแก่พลเรือน ทั้งนี้ โดยปกติแล้วมันปลดปล่อยระเบิดขนาดเล็กกว่าที่สามารถเข่นฆ่าชีวิตโดยไม่เลือกหน้าในพื้นที่หนึ่งเป็นบริเวณกว้าง ส่วนกระสุนลูกที่ไม่ระเบิดนั้นเสี่ยงก่ออันตรายเป็นเวลานานหลายทศวรรษหลังความขัดแย้งสิ้นสุดลง โดยเฉพาะกับเด็กๆ
เคียฟบอกว่าพวกเขาจะใช้คลัสเตอร์บอมบ์มุ่งเน้นไปที่การขับไล่ทหารของฝ่ายศัตรู ในความพยายามทวงคืนดินแดน แต่จะไม่ใช้มันในดินแดนของรัสเซีย
ปูติน ให้สัมภาษณ์กับทีวี มอสโก สื่อมวลชนแห่งรัฐ บอกว่าจะตอบโต้แบบเดียวกันถ้ามีความจำเป็น "ผมขอเน้นว่าในสหพันธรัฐรัสเซียมีสต๊อกคลัสเตอร์บอมบ์ชนิดต่างๆ เพียงพอ เรายังไม่เคยใช้มัน แต่แน่นอน ถ้าพวกมันถูกใช้กับเรา เราขอสงวนสิทธิดำเนินการในทำนองเดียวกัน"
ประธานาธิบดีรายนี้บอกว่าเขามองการใช้ระเบิดคลัสเตอร์เป็นอาชญากรรม และระบุว่าจนถึงตอนนี้รัสเซียไม่มีความจำเป็นต้องใช้มัน แม้ที่ผ่านมาเคยมีปัญหาขาดแคลนกระสุนเช่นกัน
กลุ่มสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรท์วอตช์อ้างว่าทั้งมอสโกและเคียฟต่างเคยใช้กระสุนคลัสเตอร์ ในขณะที่รัสเซีย ยูเครน และสหรัฐฯ ต่างไม่ได้ลงสนามในอนุสัญญากระสุนคลัสเตอร์ ที่ห้ามผลิต จัดเก็บ ใช้และโอนย้ายอาวุธดังกล่าว
ปูติน ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแห่งรัฐด้วยว่า ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรในรัสเซีย ที่พวกผู้เชี่ยวชาญจะทำการตรวจสอบอาวุธยุทโธปกรณ์และขีปนาวุธของตะวันตกที่ยึดมาได้ อย่างเช่นขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ ที่สหราชอาณาจักรจัดหาแก่ยูเครน เพื่อดูว่ามีอะไรที่เป็นประโยชน์ที่สามารถใช้งานในยุทโธปกรณ์ทางทหารของรัสเซียหรือไม่
(ที่มา : รอยเตอร์)