ประธานาธิบดีเยอรมนีเมื่อวันอาทิตย์ (9 ก.ค.) ระบุประเทศของเขาไม่อาจขวางสหรัฐฯ จากการจัดส่งระเบิดลูกปราย หรือระเบิดพวง (cluster bombs) ไปให้ยูเครน อย่างไรก็ตาม ได้เน้นย้ำในจุดยืนคัดค้านการใช้อาวุธอันเป็นที่ถกเถียงดังกล่าว
ฟรังค์-วัลเตอร์ ชไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีเยอรมนี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่น ZDF ระบุว่า "จุดยืนของเยอรมนีต่อการคัดค้านการใช้กระสุนคลัสเตอร์มีความชอบธรรมเท่าที่เคยมีมา แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน เราไม่อาจขัดขวางสหรัฐฯ ได้"
ประธานาธิบดีรายนี้กล่าวต่อว่า ถ้ายูเครนไม่เหลือหนทางในการป้องกันตนเองหรือพวกที่ให้การสนับสนุนประเทศที่ถูกสงครามฉีกขาดแห่งนี้ยอมจำนน "มันจะป็นจุดจบของยูเครน"
สหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ (7 ก.ค.) แถลงมอบความช่วยเหลือทางทหารรอบใหม่สนับสนุนกองทัพยูเครน ตอบโต้การรุกรานของรัสเซีย ในนั้นรวมถึงกระสุนคลัสเตอร์ ถือเป็นการก้าวข้ามเส้นแบ่งใหม่ในกาจัดหาอาวุธมอบให้แก่เคียฟ
คำแถลงของวอชิงตันเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาเอ็นจีโอทั้งหลาย และสร้างความลำบากใจแก่เหล่าประเทศยุโรปหลายชาติ
อาวุธซึ่งเป็นที่ถกเถียงอย่างสูงนี้สามารถปลดปล่อยกระจายระเบิดขนาดเล็กหลายร้อยลูก ซึ่งเสี่ยงก่อความสูญเสียในหมู่พลเรือนจำนวนมาก มันเป็นอาวุธต้องห้ามในมากมายหลายประเทศ ซึ่งลงนามในสนธิสัญญาออสโลปี 2008 แต่ไม่มีสหรัฐฯ หรือยูเครนรวมอยู่ในนั้นด้วย
ชไตน์ไมเออร์ เท้าความว่าตัวเขาเองเป็นผู้ลงนามในนามของเยอรมนี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ณ ขณะนั้น พร้อมระบุเยอรมนีต้องเดินหน้ายืนหยัดอยู่เคียงข้างอยู่ในสงครามนี้
ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ (7 ก.ค.) โฆษกรัฐบาลเยอรมนีรายหนึ่งเชื่อว่าการพิจารณาของสหรัฐฯ ในการกระสุนคลัสเตอร์ให้ยูเครน คงไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย พร้อมอ้างว่าฝ่ายรัสเซียได้ใช้อาวุธดังกล่าวในยูเครนอยู่ก่อนแล้ว
ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักรก็แสดงจุดยืนคัดค้านการใช้กระสุนคลัสเตอร์เช่นกัน แต่ทั้งสองชาติบอกว่าเข้าใจดีเกี่ยวกับการตัดสินใจของสหรัฐฯ ที่ตัดสินใจช่วยเหลือยูเครน
(ที่มา : เยอรมนี)