เครื่องบินขับไล่ของรัสเซียปล่อยพลุแฟลร์เหนือโดรนลำหนึ่งของสหรัฐฯ ระหว่างที่โดรนลำดังกล่าวกำลังเข้าร่วมภารกิจต่อต้านกลุ่มนักรบญิฮาดรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรีย ก่อความเสียหายแก่ใบพัดของมัน จากเสียงโวยวายของผู้บัญชาการรายหนึ่งของอเมริกาเมื่อวันอังคาร (25 ก.ค.)
สหรัฐฯ กล่าวหาหลายต่อหลายครั้งว่าพวกนักบินรัสเซีย ทำให้ทั้งอากาศยานและลูกเรือตกของพวกเขาอยู่ในความเสี่ยง จากการบินผาดโผนที่ไม่ปลอดภัยและไม่เป็นมืออาชีพ ในหลายต่อหลายเหตุกาณ์เหนือท้องฟ้าซีเรียในเดือนนี้ ประเทศที่กองกำลังมอสโกถูกส่งเข้าประจำการสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
ล่าสุด พล.อ.ท.อเล็กซุส กรีนเควิช แห่งกองทัพอากาศสหรัฐฯ เปิดเผยในถ้อยแถลงว่า เมื่อวันอาทิตย์ (23 ก.ค.) ที่ผ่านมา "เครื่องบินขับไล่รัสเซียบินใกล้โดรน US MQ-9 ลำหนึ่งที่กำลังปฏิบัติภารกิจกำราบไอเอสอย่างเป็นอันตราย ตามราวี MQ-9 และใช้พลุแฟร์จากตำแหน่งที่้อยู่ด้านบนโดยตรง"
"พลุแฟลร์ร่วงใส่ US MQ-9 ก่อความเสียหายร้ายแรงแก่ใบพัดของมัน แต่มันสามารถบินกลับสู่ฐานทัพได้" พล.อ.ท.กรีนเควิช กล่าว พร้อมเรียกร้อง "กองกำลังรัสเซียในซีเรีย หยุดพฤติกรรมที่ขาดความยั้งคิด ยั่วยุ และไร้ความเป็นมืออาชีพในทันที"
แม้เหตุการณ์ในช่วงหลังๆ จะเกี่ยวข้องกับการตามราวีโดรน แต่ พล.อ.ท.กรีนเควิช เปิดเผยด้วยว่าก่อนหน้านี้ เครื่องบินรบลำหนึ่งของรัสเซียได้บินเข้าใกล้เครื่องบินสอดแนมแบบมีคนขับของสหรัฐฯ ลำหนึ่งเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ส่งผลให้มันต้องบินฝ่ากระแสอากาศปั่นป่วนที่เกิดจากเกลียวอากาศที่ก่อตัวบริเวณปลายปีกเครื่องบิน และลดศักยภาพของนักบินในการปฏิบัติการเครื่องบินด้วยความปลอดภัย
ก่อนหน้านั้นในเดือนเดียวกัน สหรัฐฯ กล่าวหาว่าอากาศยานลำหนึ่งของรัสเซียตามราวีโดรน MQ-9 เหนือท้องฟ้าซีเรีย 2 ครั้งในช่วงเวลาห่างกันไม่ถึง 24 ชั่วโมง ในนั้นรวมถึงกรณีปล่อยพลุแแฟร์ตัดหน้า ส่วนเมื่อเดือนมีนาคม วอชิงตันระบุว่า เครื่องบินรบลำหนึ่งของรัสเซีย พุ่งเข้าเฉี่ยวชน ก่อความเสียหายแก่ใบพัดของโดรน MQ-9 ที่กำลังปฏิบัติภารกิจเหนือทะเลดำ
(ที่มา : เอเอฟพี)
