เอเอฟพี - หลังจากดำรงตำแหน่งผู้นำกัมพูชามาเกือบ 4 ทศวรรษ ฮุนเซนจะเข้าสู่การเลือกตั้งในสุดสัปดาห์นี้ที่คาดว่าจะกำชัยได้อย่างแน่นอน และให้คำมั่นว่าจะมอบอำนาจให้ลูกชายคนโตของเขาในที่สุด
แต่ชายวัย 70 ปีผู้นี้ ไม่ได้ระบุกรอบเวลาชัดเจนสำหรับการสืบทอดอำนาจของเขา และยังส่งสัญญาณว่าเขาจะยังคงใช้อิทธิพลอำนาจต่อไปแม้จะลงจากตำแหน่งแล้วก็ตาม
การเลือกตั้งในวันอาทิตย์ถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นเรื่องหลอกลวง เนื่องจากไม่มีพรรคฝ่ายค้านที่แท้จริง และนักวิจารณ์กล่าวว่า กว่า 30 ปี หลังบรรลุข้อตกลงสันติภาพที่ยุติความขัดแย้งนองเลือดหลายทศวรรษ แต่ประชาธิปไตยของกัมพูชายังคงเป็นเรื่องน่าเศร้า
“ไม่มีใครสามารถขัดขวางการก้าวไปข้างหน้าของฮุนเซน หรือฮุน มาเนต ถัดจากฮุนเซน จะเป็นฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกล่าวกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเดือน มิ.ย.
แม้จะยังไม่มีการกำหนดวันถ่ายโอนอำนาจที่แน่นอน แต่ฮุน มาเนต วัย 45 ปี รับหน้าที่หาเสียงแทนบิดาของเขาในปีนี้
ในการเริ่มต้นรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคประชาชนกัมพูชาในเดือนนี้ ฮุนเซนได้ทำพิธีส่งธงพรรคให้ฮุน มาเนต อันเป็นลักษณะท่าทีในเชิงสัญลักษณ์ เพื่อนำกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเดินขบวนหาเสียงไปทั่วกรุงพนมเปญ
ฮุน มาเนต ยังเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อเป็นประธานในพิธีต่างๆ และพบปะกับทหาร คนงาน และสมาชิกพรรคประชาชนกัมพูชา เพื่อตอกย้ำถึงคำปราศรัยของบิดาในเรื่องสันติภาพและการพัฒนา
“ตราบใดที่พรรคประชาชนกัมพูชายังเป็นผู้นำประเทศ ก็จะสามารถรักษาความสงบสุขและความสมดุล เราทุกคนจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข” ฮุน มาเนต กล่าวในคลิปที่โพสต์ทางแอปพลิเคชันเทเลแกรมเดือนนี้
ฟิล โรเบิร์ตสัน จากฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าวกับเอเอฟพีว่าความเป็นไปได้ที่จะเกิดการส่งมอบอำนาจนี้ ทำให้กัมพูชาดูเหมือนเกาหลีเหนือมากกว่าการเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
ฮุนเซนมีลูก 5 คน และได้วางบทบาททางการเมืองให้ลูกชายทั้ง 3 คน โดยความรับผิดชอบสูงสุดถูกส่งมอบให้ลูกคนโต
ฮุน มาเนต ที่เป็นสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรคประชาชนกัมพูชา จะลงสมัครชิงที่นั่งในสภาในสุดสัปดาห์นี้เป็นครั้งแรก
เขาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพบกตั้งแต่ปี 2561 และได้พบหารือกับบุคคลสำคัญจากต่างประเทศและผู้นำโลก รวมถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พันธมิตรหลักและผู้มีพระคุณของกัมพูชา
การเมืองของฮุนเซนมาจากประสบการณ์การปฏิวัติและสงครามเมื่อครั้งที่เขายังเป็นหนุ่มภายใต้การปกครองของเขมรแดงที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
การขาดแคลนสิ่งจำเป็นในการดำรงชีพเหล่านั้นหล่อหลอมให้เขาเป็นหนึ่งในนักการเมืองที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และไร้ความปรานีมากที่สุดในยุคของเขาและผลักดันเขาเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2528 ด้วยอายุเพียง 32 ปี
นับตั้งแต่นั้น เขาได้รวบรวมอำนาจจากการเกณฑ์เข้าเป็นพวก การจำคุก การกีดกัน หรือเนรเทศฝ่ายตรงข้าม
ในทางตรงกันข้าม ลูกชายของเขาใช้ชีวิตด้วยความหรูหราและได้รับการศึกษาในต่างประเทศ รวมถึงจากโรงเรียนนายร้อยเวสต์พอยต์ของสหรัฐฯ
แต่การศึกษาแบบตะวันตกไม่ได้รับประกันถึงแนวทางเสรีนิยมที่มากขึ้น สม รังสี นักการเมืองลี้ภัย ที่เป็นศัตรูคู่แข่งยาวนานของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน กล่าวกับเอเอฟพี โดยชี้ไปยังตระกูลอัสซาดของซีเรีย
“บาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรียได้รับการศึกษามากกว่าฮาเฟซ อัล-อัสซาด แต่ลูกชายกลับมีหัวการเมืองที่แย่กว่าพ่อ” สม รังสี กล่าว
เซบาสเตรียน สแตรงจิโอ ผู้แต่งหนังสือเกี่ยวกับการปกครองของฮุนเซนกล่าวกับเอเอฟพีว่า จนถึงขณะนี้ ฮุน มาเนต แสดงหลักฐานเพียงเล็กน้อยว่าเขาจะนำเสนออะไรที่มากกว่าการปฏิรูปแบบผักชีโรยหน้าให้ระบอบการเมืองในปัจจุบัน
หากปราศจากการสนับสนุนของบิดา ก็ไม่แน่ชัดว่าฮุน มาเนต จะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างที่เขาต้องการหรือไม่
นอกจากนี้ ฮุน มาเนต ยังไม่ผ่านการทดสอบในสนามการเมือง อู วิรัก นักวิเคราะห์การเมืองกล่าว โดยเปรียบเทียบเขาเป็นเหมือนกับนักสู้ศิลปะการต่อสู้ที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ แม้จะฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
“ปัญหาคือเขาถูกป้อนด้วยช้อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นช้อนทองคำ” อู วิรัก กล่าวกับเอเอฟพี
“หากคุณให้พวกเขาอยู่บนสังเวียน พวกเขาจะถูกน็อกตั้งแต่รอบแรก คุณต้องปล่อยให้พวกเขาต่อสู้ เพื่อเอาชีวิตรอด” อู วิรัก กล่าว
ฮุนเซน วัย 70 ปี เข้ารับการรักษาพยาบาลด้วยอาการอ่อนเพลียในสิงคโปร์เมื่อ 6 ปีก่อน และเป็นคนสูบบุหรี่จัดเกือบตลอดชีวิตของเขา จนกระทั่งเลิกสูบเมื่อไม่นานนี้
แต่เขาไม่ได้ระบุว่าตั้งใจจะลงจากตำแหน่งเมื่อใด และได้บอกกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งว่าเขาจะยังใช้อำนาจต่อหลังจากก้าวลงจากตำแหน่ง
“แม้ว่าฮุนเซนจะไม่เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่การบริหารจัดการทางการเมืองจะยังคงอยู่ในมือของฮุนเซน” ผู้นำเขมรกล่าว โดยมักเรียกตนเองเป็นบุคคลที่ 3 ในการกล่าวปราศรัยกับประชาชน
เขากล่าวกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งเมื่อปลายเดือน มิ.ย.ว่า อย่ากังวล และกล่าวว่าเขาจะไม่ปล่อยให้ลูกชายของเขาสร้างความเสียหายให้ประเทศ
“ผมยังคงเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี และลูกชายของผมคือผู้สมัครในอนาคต” ฮุนเซน กล่าว
สม รังสี ที่ถูกห้ามลงเล่นการเมืองเป็นเวลา 25 ปี ฐานเรียกร้องให้ประชาชนทำลายบัตรเลือกตั้ง กล่าวกับเอเอฟพีว่า หากไม่มีผู้นำคนใหม่มาจากนอกตระกูลฮุน ก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในระบอบการเมืองเผด็จการของกัมพูชา.