เอเอฟพี - ผู้สนับสนุนพรรคฝ่ายค้านพรรคเล็กๆ ในกัมพูชา ขับรถตุ๊กตุ๊กติดเครื่องขยายเสียงและป้ายประชาสัมพันธ์ วิ่งไปตามท้องถนนที่เต็มไปด้วยฝุ่นของกรุงพนมเปญ เพื่อรณรงค์หาเสียงก่อนการเลือกตั้งแบบฝ่ายเดียวของประเทศ
นับเป็นงานที่หนักหนาสาหัสสำหรับพรรคประชาธิปไตยรากหญ้า ที่จะคว้าที่นั่งในสภาแห่งชาติ 125 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งวันที่ 23 ก.ค. นี้ ที่ถูกมองว่าเป็นเรื่องหลอกลวง
แต่เย็ง วิรัก หัวหน้าพรรคยืนยันว่าทีมของเขากำลังต่อสู้ในการต่อสู้ที่ดี
“เรามีภารกิจที่จะฟื้นฟูประชาธิปไตย” เย็ง วิรัก กล่าวกับเอเอฟพี
ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดในปี 2561 พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน กวาดทุกที่นั่งในสภา หลังจากศาลตัดสินยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก
ในรอบนี้ พรรคแสงเทียนที่เป็นคู่แข่งที่น่าเชื่อถือเพียงรายเดียวของพรรค CPP ถูกห้ามไม่ให้ลงทะเบียนเลือกตั้งด้วยเหตุผลทางเทคนิค
“อนาคตสำหรับพรรคฝ่ายค้านของกัมพูชานั้นมืดมน” เซบาสเตียน สเตรนจิโอ ผู้แต่งหนังสือ ‘Hun Sen’s Cambodia’ กล่าว
สำหรับพรรคที่เหลืออีก 17 พรรค เป็นการยากที่จะแข่งขันกับพรรครัฐบาลของฮุนเซนที่มีทุนหนาและครองอำนาจมาอย่างยาวนาน
นายกรัฐมนตรีฮุนเซนเป็นผู้นำกัมพูชามาเกือบ 4 ทศวรรษ และนักวิจารณ์กล่าวหาว่าเขาจำกัดเสรีภาพประชาธิปไตย และใช้ระบบศาลปราบปรามฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
ทั่วเมืองหลวงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การรณรงค์หาเสียงของพรรค CPP ประกอบด้วยการแสดงดนตรีบนรถบรรทุก และขบวนผู้สนับสนุนหลายหมื่นคนที่สวมเสื้อยืดและหมวกที่มีโลโก้ของพรรคอย่างพร้อมเพรียง
ในทางตรงข้าม การรณรงค์หาเสียงของพรรคประชาธิปไตยรากหญ้านั้นค่อนข้างเรียบง่าย มีเพียงป้ายหาเสียงบนรถจักรยานยนต์ การโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ และใบปลิวแบบดั้งเดิม
“เราเพียงแค่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อเข้าถึงผู้คน” เย็ง วิรัก กล่าว
แต่ตั้งแต่ปีที่แล้ว พรรคประชาธิปไตยรากหญ้าเสียผู้นำพรรคอาวุโสหลายคนให้พรรคประชาชนกัมพูชา รวมถึงอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่เข้ารับตำแหน่งในรัฐบาล
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีนักเคลื่อนไหวและนักการเมืองฝ่ายค้านหลายคนย้ายขั้วไปอยู่กับพรรครัฐบาลของฮุนเซน และเฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมามากถึงหลายสิบคน
สม รังสี หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านที่ลี้ภัยอยู่ต่างแดนกล่าวว่า หากมีพรรคเล็กๆ 2-3 พรรคได้ที่นั่งในสภาจะเป็นประโยชน์สำหรับรัฐบาลฮุนเซนที่จะสร้างภาพของการแข่งขันตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งกัมพูชาจะยังคงเป็นรัฐพรรคเดียวเช่นเดิม
กว่า 30 ปี หลังข้อตกลงสันติภาพที่ยุติความรุนแรงนองเลือดหลายทศวรรษจากการปกครองของเขมรแดง ประชาธิปไตยของกัมพูชากำลังถดถอย ผู้เชี่ยวชาญระบุ
“กัมพูชายังคงไม่สามารถสร้างสถานการณ์ทางสังคมและการเมืองที่เอื้อต่อการจัดการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม การจัดการเลือกตั้งในสถานการณ์เช่นนี้มีความหมายน้อยมาก” นักวิเคราะห์ทางการเมือง กล่าว
แกม สุขา หัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ที่ถูกยุบพรรคไปแล้ว ถูกตัดสินโทษกักบริเวณในบ้านพัก 27 ปี จากข้อหากบฏในเดือน มี.ค. และคนอื่นๆ อีกหลายคนถูกตัดสินความผิดในข้อหาที่รวมถึงการยุยงปลุกปั่นและสมรู้ร่วมคิด
ฮุนเซน ที่ปกครองกัมพูชามา 38 ปี ได้ประกาศย้ำหลายหนว่า ฮุน มาเนต ลูกชายคนโตของเขาจะรับตำแหน่งแทนเมื่อเขาเกษียณ
“มันทำให้กัมพูชาดูเหมือนเกาหลีเหนือมากกว่าเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง” ฟิล โรเบิร์ตสัน จากฮิวแมนไรท์วอทช์ ระบุ
อย่างไรก็ตาม พรรครัฐบาลยังคงไม่รู้สึกผิดเกี่ยวกับยุทธวิธีรุนแรงของฮุนเซน และปฏิเสธว่าไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกีดกันพรรคฝ่ายค้านหลัก ซึ่งโฆษกพรรครัฐบาลระบุว่า พวกเขาไม่สนคำวิจารณ์แง่ลบที่มีต่อผู้นำของเขาเหล่านั้น
สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางคนรู้สึกไม่ประทับใจกับตัวเลือกที่มีอยู่อย่างจำกัดในการเลือกตั้ง
“ผมจะไม่ไปเลือกตั้ง มีแต่ฮุนเซนที่ขึ้นชกบนเวที” คนขับรถตุ๊กตุ๊กรายหนึ่งกล่าวกับเอเอฟพี.