‘ฮุนเซน’ กลับคำยอมไม่ปิดกั้นเฟซบุ๊กอ้างเห็นแก่ประชาชน แต่ไม่อนุญาตให้มีตัวแทนในประเทศ

เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชาเปลี่ยนท่าทีจากการขู่ว่าจะตัดการเข้าถึงเฟซบุ๊กในกัมพูชา โดยอ้างว่าประชาชนยังต้องการใช้งาน แต่ขณะเดียวกัน ได้ประกาศว่าตัวแทนของบริษัทจะไม่เป็นที่ต้อนรับในประเทศอีกต่อไป

คำประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงดึกของวันศุกร์ (30) หลังเฟซบุ๊กกล่าวว่า บริษัทจะลบคลิปวิดีโอที่ฮุนเซนข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง และเกิดขึ้นก่อนที่การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งจะเริ่มขึ้นเพียงวันเดียว โดยก่อนหน้านั้น ฮุนเซนได้พูดขู่ว่าจะปิดกั้นเฟซบุ๊ก แต่กลับมีท่าทีอ่อนลงในเวลาต่อมา

“ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะแบนเฟซบุ๊กในกัมพูชา ผมไม่โง่ขนาดที่จะไปปิดกั้นลมหายใจของทุกคน” ฮุนเซนกล่าวทางเทเลแกรม ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ผู้นำเขมรเลือกใช้

แต่อย่างไรก็ตาม ฮุนเซนกล่าวย้ำว่า ตัวแทนของบริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่รายนี้จะไม่ได้รับอนุญาตในกัมพูชาอีกต่อไป

ด้านกระทรวงโทรคมนาคมของประเทศอ้างในภายหลังว่า “การแทรกแซงการเมืองของประเทศ” เป็นเหตุผลต่อความเคลื่อนไหวดังกล่าว แต่กระทรวงไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับพนักงานที่ได้รับผลกระทบ

ทั้งนี้ บริษัทเมตา (Meta) ไม่ได้แสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้ หรือเปิดเผยว่ามีตัวแทนอยู่ในกัมพูชาหรือไม่ หรือมีจำนวนเท่าใด

สำหรับความเคลื่อนไหวที่ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีมองว่าเป็นจุดเปลี่ยน คือ การประกาศของเฟซบุ๊กในวันพฤหัสฯ (29) ว่าบริษัทจะลบคลิปวิดีโอชิ้นหนึ่งของฮุนเซนตามคำตัดสินของคณะกรรมการกำกับดูแลของบริษัทเมตา ที่เป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก ซึ่งยังแนะนำให้บริษัทระงับบัญชีเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของฮุนเซนเป็นเวลา 6 เดือนด้วย

ในคลิปวิดีโอชิ้นดังกล่าว ที่บันทึกในเดือน ม.ค. ผู้นำเขมรได้บอกกับฝ่ายตรงข้ามว่าพวกเขาจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายหรือถูกตีด้วยไม้ หากพวกเขากล่าวหาว่าพรรคประชาชนกัมพูชาของเขาขโมยคะแนนเสียงในการเลือกตั้งระดับชาติในเดือน ก.ค.

คำตัดสินของคณะกรรมการกำกับดูแลระบุว่าถ้อยความดังกล่าวมีข้อความที่ชัดเจนถึงเจตนาที่จะกระทำความรุนแรงต่อนักการเมืองฝ่ายค้าน หลังจากนั้นบริษัทเมตาระบุว่าบริษัทจะปฏิบัติตามคำตัดสินลบคลิปวิดีโอ และตอบสนองต่อคำแนะนำของคณะกรรมการกำกับดูแลในการระงับบัญชีของนายกรัฐมนตรีฮุนเซนทันทีที่ตรวจสอบ

ด้านฮุนเซนได้ประกาศว่าเขาจะเลิกใช้งานเฟซบุ๊ก เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เฟซบุ๊กจะประกาศว่าจะลบวิดีโอของเขา

หลังอยู่ในอำนาจนาน 38 ปี ฮุนเซนเป็นหนึ่งในผู้นำที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในโลก และคาดว่าจะมอบอำนาจให้ลูกชายคนโตของเขา ฮุน มาเนต เมื่อเขาเกษียณ

กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวหาฮุนเซนใช้ระบบกฎหมายปราบปรามฝ่ายตรงข้าม และฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองหลายคนถูกตัดสินว่ามีความผิดในช่วงที่เขาครองอำนาจ

พรรคประชาชนกัมพูชาของฮุนเซนชนะทุกที่นั่งในการเลือกตั้งระดับชาติในปี 2561 หลังศาลสั่งยุบพรรคพรรคกู้ชาติกัมพูชา ที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน.