‘ฮุนเซน’ ประกาศเลิกเล่นเฟซบุ๊กก่อนหาเสียงเลือกตั้ง บอก ‘เทเลแกรม-ติ๊กต็อก’ มีประสิทธิภาพมากกว่า

เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชา หนึ่งในผู้ใช้งานเฟซบุ๊กอยู่เป็นประจำ ให้คำมั่นวันนี้ (29) ว่าเขาจะเลิกโพสต์บนแพลตฟอร์มดังกล่าว ไม่กี่วันก่อนที่ผู้นำเขมรจะเริ่มหาเสียงเลือกตั้งครั้งใหม่

กัมพูชาจะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 23 ก.ค. การเลือกตั้งที่ถูกกล่าวขานกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นเรื่องหลอกลวง หลังทางการปฏิเสธการลงทะเบียนของพรรคการเมืองที่เป็นผู้ท้าชิงหลักของพรรคประชาชนกัมพูชาของฮุนเซน

ฮุนเซนเป็นหนึ่งในผู้นำที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในโลกและหลังจากอยู่ในอำนาจ 38 ปี เขาใกล้ที่จะเกษียณ และคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่า ฮุน มาเนต ลูกชายของเขาจะเป็นผู้รับตำแหน่งผู้นำประเทศในอนาคต

วันนี้ ฮุนเซน ได้ประกาศว่าเขาจะใช้แอปพลิเคชันเทเลแกรม (Telegram) เพื่อส่งข้อความทางการเมืองของเขาไปยังผู้สนับสนุน และใช้แอปพลิเคชันติ๊กต็อก (TikTok) เพื่อมีส่วนร่วมกับเยาวชนคนหนุ่มสาว

“ตั้งแต่นี้ไปผมจะไม่โพสต์เฟซบุ๊กอีก” ฮุนเซนกล่าวกับคนงานตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูปหลายพันคนในงานพบปะ

ช่องเทเลแกรมของฮุนเซนมีผู้ติดตาม 860,000 คน และในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเขาเพิ่มกิจกรรมในช่องเทเลแกรมของเขามากขึ้น ทั้งโพสต์รูป และข้อความทางการเมือง

ฮุนเซน ที่จะเริ่มต้นหาเสียงเลือกตั้งในวันเสาร์นี้ (1) กล่าวว่า แอปพลิเคชันเทเลแกรมมีประสิทธิภาพมากกว่าเมื่อเทียบกับเฟซบุ๊ก

หน้าเพจเฟซบุ๊กของผู้นำเขมรซึ่งยังคงออนไลน์อยู่นั้น เปิดใช้ครั้งแรกในปี 2558 หลังสม รังสี ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน ที่เป็นฝ่ายตรงข้ามของเขาใช้แพลตฟอร์มนี้เข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีอายุน้อยได้สำเร็จ

ปัจจุบัน หน้าเพจเฟซบุ๊กของฮุนเซนมีผู้ติดตาม 14 ล้านคน แต่บัญชีผู้ติดตามจำนวนมากเหล่านั้นถูกกล่าวหาว่ามาจาก ‘คลิกฟาร์ม’ เครือข่ายผู้ใช้งานปลอมและผู้ใช้งานจริงที่ควบคุมโดยคนกลางที่ขายยอดไลก์-ยอดวิว

การย้ายออกจากเฟซบุ๊กของฮุนเซนครั้งนี้มีขึ้นหลังสื่อรายงานว่าบริษัทเมตา (Meta) ที่เป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก อาจจำกัดกิจกรรมของเขา หลังเขาไลฟ์บนแพลตฟอร์มกล่าวข่มขู่ว่าจะเล่นงานนักการเมืองฝ่ายค้านเมื่อต้นปี

ในเดือน ม.ค. ฮุนเซนได้เตือนฝ่ายตรงข้ามว่าพวกเขาจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายหรือถูกตีด้วยไม้หากพวกเขากล่าวหาว่าพรรคประชาชนกัมพูชาขโมยคะแนนเสียงในการเลือกตั้งเดือน ก.ค.

เซบาสเตียน สแตรงจิโอ ผู้เชียนหนังสือเรื่อง Hun Sen’s Cambodia กล่าวว่า จากช่วงเวลาที่เกิดขึ้นนี้ ชี้ว่าน่าจะเป็นการตอบโต้การตัดสินใจของคณะกรรมการกำกับดูแลของบริษัทเมตา ที่แนะนำให้ระงับบัญชีเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของฮุนเซนเป็นเวลา 6 เดือน

“หรือไม่เช่นนั้น หมุดหมายสื่อสังคมออนไลน์ของฮุนเซนที่เปลี่ยนมาเป็นเทเลแกรมและติ๊กต็อก ดูเหมือนจะสะท้อนนโยบายต่างประเทศของกัมพูชาในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา คือถอยห่างจากตะวันตก และมุ่งสู่จีนและรัสเซีย” สแตรงจิโอ กล่าวกับเอเอฟพี

“จากประวัติของพวกเขา มีความเป็นไปได้น้อยมากที่แพลตฟอร์มทั้งสองนี้จะจำกัดไม่ให้ฮุนเซนใช้งาน รวมถึงการใช้เป็นเครื่องมือในการล่อเหยื่อ ยุแหย่ และข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม” สแตรงจิโอ ระบุ

ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวหาฮุนเซนใช้ระบบกฎหมายปราบปรามผู้ที่ต่อต้านอำนาจของเขา

พรรคการเมืองของฮุนเซนชนะทุกที่นั่งในการเลือกตั้งระดับชาติปี 2561 หลังพรรคกู้ชาติกัมพูชา ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านถูกยุบพรรค.