ลิซ ทรัสส์ อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางเยือนไต้หวัน ในวันพุธ (17 พ.ค.) จะเปิดฉากปะทะกับจีน รวมไปถึงริซี ซูแน็ก ผู้นำสหราชอาณาจักรคนปัจจุบันอย่างเต็มกำลัง ในข้อเรียกร้องที่ขอให้ตะวันตกเอาจริงเอาจังกับปักกิ่ง ชี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเปิดศึกสงครามเย็นกับจีนอีกรอบ
ในร่างถ้อยแถลงที่เตรียมปราศรัยในกรุงไทเป ทรัสส์ จะเรียกร้อง ซูแน็ก ทำตามคำหาเสียงที่หัวหน้าพรรคคอนเซอร์เวทีฟคนปัจจุบันหาเสียงไว้เมื่อปีที่แล้วว่าจะกำหนดให้จีนเป็นภัยคุกคามทางยุทธศาสตร์
นอกจากนี้ เธอยังจะเรียกร้องให้ปิดสถาบันขงจื่อในสหราชอาณาจักร ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลคอมมิวนิสต์ และแทนที่สถาบันดังกล่าวด้วยศูนย์วัฒนธรรมที่บริหารงานโดยคนจากฮ่องกง และไต้หวัน
บางส่วนในร่างสุนทรพจน์ที่เตรียมกล่าวกับมูลนิธิพรอสเปค (Prospect Foundation) ในไต้หวัน ที่เผยแพร่โดยสำนักงานของทรัสส์ ทางอดีตหัวหน้าพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ทรัสส์ จะกล่าวด้วยว่าตะวันตกไม่สามารถหลีกเลี่ยง "สงครามเย็น" อีกครั้งกับจีนได้
ในคำแถลงจะกล่าวหา ซูแน็ก และรัฐบาลตะวันตกอื่นๆ "กำลังพยายามยึดติดกับแนวคิดที่ว่าเราสามารถร่วมมือกับจีนในประเด็นอื่นๆ อย่างเช่นโลกร้อน ราวกับว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่หากปราศจากเสรีภาพและประชาธิปไตย มันก็ไม่มีอย่างอื่น เรารู้ดีถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับสภาพแวดล้อมและสถานะของโลก ภายใต้รัฐบาลเผด็จการทั้งหลายที่ไม่ได้พูดความจริง คุณไม่สามารถเชื่อในสิ่งที่พวกเขาพูดได้"
ซูแน็ก เคยโต้ตอบคำพูดที่แข็งกร้าวของ ทรัสส์ ในประเด็นเกี่ยวกับจีน ทั้งก่อนและระหว่างที่เธอดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นเวลา 49 วันเมื่อปีที่แล้ว โดยระยะเวลาการนั่งเก้าอี้ผู้นำของ ทรัสส์ มีอันต้องจบลงในช่วงเวลาสั้นๆ หลังนโยบายเศรษฐกิจสุดขั้วของเธอทำให้ตลาดเงินเกิดความโกลาหล
นับตั้งแต่นั้น เธอพยายามกอบกู้ชื่อเสียงของตนเองอีกครั้ง ด้วยการออกไปปราศรัยในต่างแดนต่างๆ ในนั้นรวมถึงโตเกียว วอชิงตัน และล่าสุดในโคเปนเฮเกนเมื่อวันจันทร์ (15 พ.ค.)
อย่างไรก็ตาม ทรัสส์ ต้องเผชิญคำกล่าวหาในบ้านเกิดเมืองนอนว่าเธอกำลังหมกมุ่นอยู่กับการสำแดงเดชโดยไร้ความรับผิดชอบ ในความพยายามรักษาไว้ซึ่งสถานะทางการเมืองของตนเอง
"การเยือนไต้หวันเป็นแค่การแสดง ไม่มีความสำคัญใดๆ" อลิเซีย เคิร์นส์ ประธานคณะกรรมาธิการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน "มันเป็นรูปแบบตัวอย่างที่แย่ที่สุดของการทูตบนอินสตาแกรม" เธอกล่าวอ้างถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่มีต่อทรัสส์ก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์โปรโมตตนเองอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
เคิร์นส์ ระบุว่า การเดินทางเยือนครั้งนี้ดูเหมือนจะก่อปัญหาหนักหน่วงแก่ไต้หวัน หลังจากก่อนหน้านี้ จีนเคยยิงขีปนาวุธ ส่วนหนึ่งของการซ้อมรบทางทหารตอบโต้การเดินทางเยือนไทเปของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น ในเดือนสิงหาคมปีก่อน
โฆษกของ ทรัสส์ ตอบโต้กลับว่าเธอเดินทางเยือนตามคำเชิญของรัฐบาลไต้หวัน "พวกเขารู้ดีกว่าเคิร์นส์ ว่าอะไรคือผลประโยชน์ของประชาชนชาวไต้หวัน"
(ที่มา : เอเอฟพี)