เอเจนซีส์ - วอลล์สตรีทเจอร์นัลตั้งข้อสงสัยการแถลงของเครมลินเรื่องความพยายามลอบสังหารประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน อาจเป็นการจัดฉากที่สร้างความชอบธรรมสำหรับการประกาศเกณฑ์กำลังทหารงวดต่อไป ขณะที่สหรัฐฯ ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังกันแน่ ระหว่างที่ผู้นำยูเครนเดินทางมุ่งหน้าไปศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC ที่เฮก
สปุตนิกนิวส์ของรัสเซียรายงานวันนี้ (4 พ.ค.) ว่า เกลลน์ กรีนวาลด์ (Glenn Greenwald) นักข่าวชื่อดังอเมริกันชื่อดังมีผลงานช่วย เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูล NSA ออกมาวิจารณ์เสียงดังถึงการตั้งข้อสังเกตสื่อตะวันตกที่ตั้งข้อสงสัยว่า เครมลินสร้างสถานการณ์จัดฉากให้โดรน 2 ลำโจมตีอ้างการลอบสังหารประธานาธิบดีของตัวเอง วลาดิมีร์ ปูติน ว่า ช่างน่าเย้ยหยัน
และเขาชี้ว่าไม่ต่างจากข้ออ้างจากฝ่ายตะวันตกที่กล่าวหาว่าเครมลินโจมตีท่อสายส่งนอร์ดสตรีมของตัวเอง
กรีนวาลด์ทวีตวันพุธ (3) กล่าวว่า “สื่อตะวันตกก่อนหน้าออกมารายงานสิ่งที่น่าขบขันที่อ้างว่ารัสเซียระเบิดท่อก๊าซของตัวเอง และในเวลานี้สื่อเหล่านี้กำลังชี้ว่าเครมลินโจมตีตัวเอง
พร้อมกันนี้ ยังได้ทวีตข้อความการรายงานบางส่วนจากวอลล์สตรีทเจอร์นัลด์ที่รายงานข่าวรัสเซียกล่าวหาโดรนของเคียฟโจมตีเครมลิน “คำถามมีขึ้นที่ว่าเครมลินแท้จริงแล้วเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้หรือไม่ ที่มีนักสังเกตการณ์บางส่วนชี้ว่า อาจเป็นการกระทำเพื่อต้องการสนับสนุนให้ปูตินสามารถใช้ความชอบธรรมในการเรียกเกณฑ์กำลังพลครั้งต่อไป ซึ่งรัสเซียกำลังจะมีงานใหญ่พิธีสวนสนามวันดีเดย์ประกาศชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 สัปดาห์หน้า
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (3) ว่า แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยว่า เพนตากอนกำลังประเมินสถานการณ์ และไม่มีข้อมูลเกี่ยวข้องว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ชี้ว่าไม่ว่าความจริงจะออกมาในรูปใด เห็นได้ชัดว่าเกิดรอยรั่วทางความมั่นคงขึ้นที่เครมลินซึ่งเป็นศูนย์กลางบริหารของรัสเซีย
ขณะที่แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อีกรายเปิดเผยว่า วอชิงตันไม่มีการเตือนเกี่ยวกับการโจมตีด้วยโดรน “สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ มันไม่การแจ้งเตือนล่วงหน้า”
อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษ วอชิงตันเปิดแถลงวันพุธ (3) ประกาศจะส่งมอบความช่วยเหลือทางการทหารให้ยูเครนครั้งใหม่จำนวน 300 ล้านดอลลาร์ รวมจรวดไฮดรา -70 (Hydra-70) ซึ่งเป็นจรวดทำการพิสัยใกล้ที่ออกมาจากคลังแสงของสหรัฐฯ เอง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯ มอบจรวดไฮดรา-70 ให้ยูเครน
ทั้งนี้ มอสโกกล่าวว่า การโจมตีด้วยโดรนยูเครนเกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นของวันพุธ (3) เหนือพระราชวังเครมลิน และในช่วงเกิดเหตุประธานาธิบดีปูติน ไม่ได้อยู่ในอาคารของพระราชวังเครมลินกลางกรุงมอสโกถูกปกป้องด้วยระบบการรักษาความปลอดภัยต่อต้านภัยทางอากาศสุดทันสมัย
CNN กล่าวว่า ทางสื่อได้วิเคราะห์ภาพที่เผยแพร่ออกมาจากฝ่ายเครมลิน แต่สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่าไม่พบหลักฐานว่ายูเครนเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม อดีตเจ้าหน้าที่รัสเซีย อิลยา โปโนมาเรฟ (Ilya Ponomarev) ได้เปิดเผยกับ CNN ว่า เขาเชื่อว่า การโจมตีที่เกิดเหนือเครมลินนั้นน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มกองกำลังรัสเซียไม่น่าจะเป็นฝีมือของกองทัพรัสเซีย
“มีหนึ่งในกลุ่มกองกำลังรัสเซีย แต่ผมบอกไม่ได้มากไปกว่านี้เพราะยังไม่ได้ออกมาประกาศความรับผิดชอบทางสาธารณะ” เขากล่าว
ซึ่งในเวลานี้ โปโนมาเรฟที่กำลังอยู่ระหว่างการลี้ภัยอยู่ในยูเครนและโปแลนด์ เป็น ส.ส.รัสเซียเพียงคนเดียวที่โหวตค้านการผนวกแหลมไครเมียในปี 2014 และนับตั้งแต่นั้นมาชื่อเขาอยู่ในบัญชีก่อการร้าย อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่รัสเซีย
เขาเปิดเผยว่า กองกำลังประเภทนี้มักเป็นการรวมกลุ่มของคนรุ่นใหม่ นักศึกษา และประชาชนในเมืองใหญ่ “ผมรู้มาว่ามีการเคลื่อนไหวของกองกำลังเช่นนี้มีราว 40 เมืองทั่วรัสเซีย”
และชี้ว่า การโจมตีด้วยโดรนภายในรัสเซียอาจเป็น “ปฏิบัติการใหม่” ของกลุ่มพวกนี้
อินดิเพนเดนท์รายงานวันนี้ (4) ว่า สถาบันธิงแทงก์ของสหรัฐฯ สถาบันเพื่อการศึกษาสงคราม (The Institute for the Study of War) ออกมาชี้ว่า มีความน่าจะเป็นว่า ปูตินจะทำการจัดฉากลอบสังหารตัวเอง โดยชี้ว่า มีข้อบ่งชี้บางส่วนออกมาแสดงว่าเป็นเช่นนั้นถึงเหตุโจมตีด้วยโดรนวันที่ 3 พ.ค.
“มันไม่ม่าจะเป็นไปได้เป็นอย่างมากที่ว่าโดรน 2 ลำสามารถฝ่าระบบป้องกันทางอากาศหลายชั้นและจุดระเบิดหรือยิงเหนือใจกลางของทำเนียบเครมลินในหนทางที่จะสามารถเป็นที่กล้องสามารถจับภาพได้อย่างชัดเจน”
ทั้งนี้ ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ที่ถูกรัสเซียกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีพยายามเอาชีวิตผู้นำรัสเซีย กำลังเดินทางไปเมืองเฮกเพื่อขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC เดอะการ์เดียนรายงานว่า ผู้นำยูเครนเดินทางถึงเมืองเฮก เนเธอร์แลนด์เมื่อคืนนี้ หลังวันพุธ (3) เขาเดินทางไปเยือนกรุงเฮลซิงกิ ฟินแลนด์