ลิซ ทรัสส์ อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร จะเดินทางเยือนไต้หวันในสัปดาห์หน้า และพบปะกับสมาชิกระดับอาวุโสของรัฐบาลหลายคน จากการเปิดเผยโดยสำนักงานของเธอเมื่อวันอังคาร (9 พ.ค.) ความเคลื่อนไหวที่จะก่อความขุ่นเคือง ท่ามกลางความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งกับรัฐบาลปัจจุบันของสหราชอาณาจักร ขณะที่เธอถึงขั้นเคยออกมาเรียกร้องให้ตะวันตกจัดตั้งนาโต 2 ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อพิทักษ์ไว้ซึ่งระเบียบโลกที่สร้างขึ้นมาหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามเย็น
ที่ผ่านมา จีนจะออกมาประณามด้วยความเดือดดาลต่อการเดินทางเยือนไต้หวันของคณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหราชอาณาจักร ว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีน
สำหรับ ทรัสส์ ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรในช่วงสั้นๆ เข้ารับตำแหน่งนี้ในเดือนกันยายนปีก่อน แต่ถูกบีบให้ลาออกภายในเวลาไม่ถึง 2 เดือน หลังจากนโยบายทางเศรษฐกิจของเธอก่อความยุ่งเหยิงแก่ตลาด
นับตั้งแต่ลาออกจากตำแหน่ง ทรัสส์ เรียกร้องให้ใช้ท่าทีที่แข็งกร้าวขึ้นกับจีน และมีรายงานว่า เธอจะกล่าวสุนทรพจน์ระหว่างการเดินทางเยือนไต้หวันในวันที่ 17 พฤษภาคมด้วย
"ไต้หวันคือดวงประทีปแห่งเสรีภาพและประชาธิปไตย ดิฉันตั้งตาคอยแสดงความเป็นหนึ่งอันเดียวกันกับประชาชนชาวไต้หวันด้วยตนเอง ในยามที่ต้องเผชิญพฤติกรรมและโวหารที่ก้าวร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ จากรัฐบาลในปักกิ่ง" ทรัสส์กล่าวในถ้อยแถลง
สหราชอาณาจักรเคยเตือนจีนเกี่ยวกับการใช้กำลังทางทหารกับไต้หวัน กระตุ้นให้กระทรวงการต่างประเทศปักกิ่งออกมาตอบโต้ว่า ภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อสันติภาพในช่องแคบไต้หวันคือ พฤติกรรมของพวกแบ่งแยกดินแดนเรียกร้องเอกราชไต้หวัน และการสมรู้ร่วมคิดและการยุยงส่งเสริมของกองกำลังต่างชาติ"
การทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีของทรัสส์ ฉุดให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอณาจักรกับจีนดำดิ่งสู่ระดับต่ำ ในขณะที่ ริชี ซูแน็ก นายกรัฐมตรีคนปัจจุบันมีเป้าหมายเจรจากับจีนในทุกขอบเขตที่เป็นไปได้ พร้อมกับหยิบยกขอบเขตที่มีความเห็นต่างมาพูดคุยกัน
ช่วงไม่กี่เดือนก่อนก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ทรัสส์ ในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศ ณ ขณะนั้น เคยระบุเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ว่า ระเบียบโลกที่สร้างขึ้นมาหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามเย็นไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป ดังนั้นตะวันตกจึงต้องการ "นาโตโลก" เพื่อเสาะหาภูมิรัฐศาสตร์ใหม่ และจากนั้นเริ่มมีการพูดถึงประเด็นการจัดตั้งพันธมิตรนาโต 2 ของสหรัฐฯ สำหรับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ
โฆษกของนายกรัฐมนตรีซูแน็ก บอกว่า การที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรายใดเลือกเดินทางไปสถานที่หนึ่งๆ นั้น เป็นเรื่องส่วนบุคคล "เราไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน แต่เรามีความสัมพันธ์อย่างไม่เป็นทางการที่แน่นแฟ้น รัฐบาลสหราชอาณาจักรจะเดินหน้าพูดคุยกับรัฐบาลจีนในประเด็นไต้หวัน"
(ที่มา : รอยเตอร์/mgronline)
