ฟิลิปปินส์ติดตั้ง ‘ทุ่นลอยน้ำ’ ยืนยันอธิปไตยเหนือเขตเศรษฐกิจจำเพาะในทะเลจีนใต้

ยามฝั่งฟิลิปปินส์นำทุ่นลอยน้ำสำหรับการเดินเรือซึ่งมีรูปธงชาติฟิลิปปินส์ไปติดตั้งบริเวณน่านน้ำภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) เพื่อยืนยันอธิปไตยเหนือหมู่เกาะสแปรตลีย์ในทะเลจีนใต้

ความเคลื่อนไหวของฟิลิปปินส์เป็นการตอบโต้ที่จีนแสดงท่าทีก้าวร้าวในการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำทะเลจีนใต้มากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ เองก็มีทีท่าว่าอยากจะกระชับความร่วมมือด้านกลาโหมกับพันธมิตรเก่าแก่อย่างสหรัฐอเมริกา

หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ (PCG) ระบุวานนี้ (14 พ.ค.) ว่า ได้นำทุ่นลอยน้ำจำนวน 5 ทุ่น ที่มีธงชาติฟิลิปปินส์ปรากฏอยู่ไปติดตั้งภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ทะเล ระหว่างวันที่ 10-12 พ.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงที่เกาะปะการังวิตซัน (Whitsun Reef) ซึ่งจีนเคยส่งกองเรือนับร้อยๆ ลำเข้ามาป้วนเปี้ยนเมื่อปี 2021

“ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลฟิลิปปินส์ที่จะปกป้องเขตแดนทางทะเลและทรัพยากรของเราเอง ตลอดจนช่วยสนับสนุนความปลอดภัยในการเดินเรือเชิงพาณิชย์ด้วย” เจย์ ทาร์ริเอลา โฆษกยามฝั่งฟิลิปปินส์ทวีตข้อความ

สถานทูตจีนประจำกรุงมะนิลายังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้

เมื่อเดือน พ.ค. ปี 2022 ยามฝั่งฟิลิปปินส์ก็ได้นำทุ่นลอยนำจำนวน 5 ทุ่น ไปติดตั้งบริเวณเกาะ 4 เกาะในหมู่เกาะสแปรตลีย์

จีนอ้างอธิปไตยเหนือน่านน้ำทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด โดยอ้างข้อมูลตามแผนที่เส้นประ 9 เส้น (nine-dash line) ซึ่งนานาชาติไม่ให้การยอมรับ

นอกจากฟิลิปปินส์แล้ว ยังมีบรูไน มาเลเซีย ไต้หวัน และเวียดนาม ที่อ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่บางส่วนของหมู่เกาะสแปรตลีย์ ซึ่งจีนได้นำทรายหลายล้านตันเข้าไปถมทะเลสร้างเป็นเกาะเทียม แถมยังก่อสร้างสนามบินและติดตั้งระบบขีปนาวุธเอาไว้ด้วย

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จีนได้ส่งเรือยามฝั่งและเรือประมงหลายร้อยลำเข้าไปปฏิบัติการในน่านน้ำพิพาทเหล่านี้เพื่อยืนยันในอธิปไตยของแดนมังกร แม้ศาลอนุญาโตตุลาการที่กรุงเฮกจะมีคำพิพากษาเมื่อปี 2016 ว่าจีนไม่ได้มีสิทธิตามคำกล่าวอ้างนั้นก็ตาม

ที่มา : รอยเตอร์