เดินหน้าล้อมจีน! มะกันเรียกร้องจีนยุติพฤติกรรมอันตรายในทะเลจีนใต้ รับขวัญ ปธน.ฟิลิปปินส์หารือ ‘ไบเดน’ ที่มีทั้งเรื่องธุรกิจ-การทหาร

อเมริกาเรียกร้องจีนหยุด “ยั่วยุและพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัย” ในทะเลจีนใต้ พร้อมเตือนว่า การโจมตีกองทัพฟิลิปปินส์จะกระตุ้นให้อเมริกาต้องตอบโต้ ทั้งนี้หลังจากกรณีเรือหน่วยยามฝั่งจีนพุ่งเข้าหาจนเกือบชนเรือหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีแดนตากาล็อกกำหนดเดินทางถึงสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ (30 เม.ย. ) โดยคาดกันว่า ซัมมิตระหว่างเขากับไบเดน จะมีการบรรลุข้อตกลงทางธุรกิจ รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือทางการทหารท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับปักกิ่ง

ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ แห่งฟิลิปปินส์ จะเยือนอเมริกาในทริปนี้เป็นเวลา 4 วัน โดยที่เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์เผยเมื่อวันเสาร์ (29) ว่า มีเป้าหมายในการย้ำความสัมพันธ์พิเศษที่ไม่ใช่เฉพาะด้านความมั่นคงเท่านั้น ระหว่างมะนิลากับวอชิงตันซึ่งเป็นพันธมิตรกันมายาวนาน

เขายังบอกอีกว่า ระหว่างการเยือนจะมีการเน้นย้ำข้อตกลงทางธุรกิจและการทหารบางอย่าง นอกจากนั้น จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ยังจะนำคณะผู้แทนไปฟิลิปปินส์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า

แม้ตอนขึ้นดำรงตำแหน่งใหม่ๆ มาร์กอสแสดงความต้องการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งจีนและอเมริกา แต่ต่อมามะนิลาบอกว่ากังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการทูตเชิงยั่วยุของปักกิ่ง และต้องการความสัมพันธ์ที่มั่นคงขึ้นกับพันธมิตรเก่าแก่อย่างสหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า วอชิงตันมองฟิลิปปินส์ ซึ่งอยู่ประชิดกับไต้หวันว่าเป็นจุดเหมาะสมสำหรับการไปตั้งฐานจรวด ขีปนาวุธ และระบบปืนใหญ่ เพื่อต่อต้านขัดขวางกรณีจีนยกกำลังบุกเกาะไต้หวัน

การเยือนวอชิงตันของมาร์กอส คราวนี้มีขึ้น หลังจากเมื่อวันศุกร์ (28) ฟิลิปปินส์เพิ่งกล่าวหาเรือยามฝั่งของจีนใช้ยุทธวิธีที่อันตรายและก้าวร้าวในทะเลจีนใต้ ด้วยการพุ่งเข้าหาเรือยามฝั่งของฟิลิปปินส์ ที่บริเวณนอกชายฝั่งหมู่เกาะสแปรตลีย์ในทะเลจีนใต้ โดยห่างกันแค่ 45 เมตร และเรือยามฝั่งฟิลิปปินส์ต้องหักหลบอย่างรวดเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงการชนกัน ทั้งนี้ เรือแดนตากาล็อกลำนี้กำลังนำผู้สื่อข่าวต่างประเทศจำนวนหนึ่งไปทำข่าว

เป็นที่น่าสังเกตว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากมาร์คอสให้การต้อนรับฉิน กัง รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ในมะนิลาเพื่อหารือวิธีลดความตึงเครียดในทะเลจีนใต้

เกี่ยวกับเรื่องนี้ แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกคำแถลงเมื่อวันเสาร์เรียกร้องให้จีนยุติการยั่วยุและพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยในทะเลจีนใต้ และเตือนว่า การโจมตีกองทัพฟิลิปปินส์จะกระตุ้นให้อเมริกาต้องตอบโต้

สหรัฐฯ และฟิลิปปินส์บอกว่า ท่ามกลางความกดดันจากจีน พวกตนจึงต้องเร่งรัดยกระดับข้อตกลงด้านกลาโหม ซึ่งรวมถึงการซ้อมรบร่วมขนาดใหญ่และการให้อเมริกาเพิ่มการเข้าถึงฐานทัพฟิลิปปินส์ ถึงแม้ปักกิ่งคัดค้าน

ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวภายหลังการประชุมเจ้าหน้าที่กลาโหมอเมริกา-ฟิลิปปินส์เมื่อต้นเดือนเมษายนว่า ยังเร็วเกินไปในการหารือว่าอเมริกาจะส่งทรัพยากรใดไปประจำการในฐานทัพที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงใหม่ในฟิลิปปินส์

ทั้งสองฝ่ายตกลงกันที่จะบรรลุโรดแมปภายในไม่กี่เดือนข้างหน้าสำหรับการส่งมอบความช่วยเหลือด้านกลาโหมของอเมริกาให้แก่ฟิลิปปินส์ภายใน 5-10 ปี

เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์คนเดิมยังเผยว่า การประชุมสุดยอดระหว่างมาร์กอสกับไบเดนในวันจันทร์ จะถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างกิจวัตรในการจัดการการเป็นพันธมิตรระหว่าง 2 ประเทศให้อยู่ในระดับเดียวกับเมื่อทศวรรษ 1970 และ 1980 ทั้งนี้ หลังจากที่ความสัมพันธ์สองประเทศเสื่อมถอยลงอย่างมาก ภายใต้ยุคโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีแดนตากาล็อกคนก่อนหน้านี้

เขายังบอกอีกว่า อเมริกามีแผนส่งเสริมการเจรจาสามฝ่ายกับญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ และมาร์คอสจะหารือเกี่ยวกับการตรวจการณ์ทางทะเลกับเพนตากอนด้วย

(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)