อดีตประธานาธิบดี หม่า อิงจิ่ว แห่งไต้หวัน กล่าวต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนวานนี้ (30 มี.ค.) ว่า ไต้หวันและจีนจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงสงคราม และถือเป็นหน้าที่ของผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายที่จะต้องธำรงไว้ซึ่งสันติภาพ
หม่า ซึ่งเป็นอดีตผู้นำจากพรรคก๊กมินตั๋ง เริ่มต้นภารกิจเยือนจีนตั้งแต่วันจันทร์ (27) นับเป็นอดีตประธานาธิบดีไต้หวันคนแรกที่เดินทางเข้าจีนแผ่นดินใหญ่ นับตั้งแต่ฝ่ายสาธารณรัฐจีนพ่ายแพ้สงครามกลางเมืองให้ฝ่ายคอมมิวนิสต์ที่นำโดย เหมา เจ๋อตง และพาผู้คนอพยพหนีไปตั้งรัฐบาลยังเกาะไต้หวันเมื่อปี 1949
ระหว่างที่พบกับ ซ่ง เทา (Song Tao) หัวหน้าสำนักงานกิจการไต้หวันของจีนที่เมืองอู่ฮั่น อดีตประธานาธิบดี หม่า ย้ำว่า การคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์เชิงสันติและมีเสถียรภาพระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย "คือมุมมองกระแสหลักในสังคมไต้หวัน”
หม่า ระบุด้วยว่า คณะผู้บริหารของทั้งไต้หวันและจีนมีความรับผิดชอบร่วมกันที่จะต้องใช้ทุกโอกาสที่มีอยู่เพื่อคงไว้ซึ่งสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน
“เราทั้ง 2 ฝ่ายยังต้องมีการแลกเปลี่ยน ร่วมมือกัน และทำทุกอย่างที่จะทำได้ เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามและความขัดแย้ง” เขากล่าว
ด้านสำนักข่าวซินหวาของจีนระบุว่า ซ่ง ได้กล่าวกับ หม่า ว่าประชาชนชาวจีนและไต้หวัน “ควรพร้อมใจกันต่อต้านกิจกรรมของพวกที่คิดแบ่งแยกดินแดนไต้หวันและการแทรกแซงจากมหาอำนาจภายนอก รวมถึงช่วยกันปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพภายในช่องแคบไต้หวัน”
การไปเยือนจีนของ หม่า อิงจิ่ว มีขึ้นท่ามกลางความสัมพันธ์ปักกิ่ง-ไทเปที่ร้อนระอุหนัก โดยในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ปักกิ่งได้ยกระดับกิจกรรมทางทหารและเพิ่มแรงกดดันทางการทูตอย่างต่อเนื่อง เพื่อบีบให้ไทเปยอมรับว่าเป็นดินแดนในอธิปไตยของจีน
หม่า ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในช่วงปี 2008-2016 เคยร่วมประชุมซัมมิตทวิภาคีกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่สิงคโปร์ในช่วงปลายปี 2015 ก่อนที่ ไช่ อิงเหวิน จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) จะขึ้นมาเป็นผู้นำไต้หวันจวบจนปัจจุบัน
ในการไปเยือนจีนครั้งนี้ หม่า ไม่ได้มีกำหนดการเข้าพบ สี จิ้นผิง ทว่าสำนักงานของเขาระบุว่าอดีตผู้นำรายนี้ “เปิดกว้าง” สำหรับการพบปะหารือใดๆ ก็ตามที่ฝ่ายจีนจะเสนอมา
ที่มา : รอยเตอร์