ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เปิดเผยรัสเซียบรรลุข้อตกลงกับเบลารุส ชาติเพื่อนบ้าน สำหรับประจำการอาวุธนิวเคลียร์ทางเทคนิคในดินแดนประเทศแห่งนี้ ทั้งนี้ แม้ ปูติน บอกว่าข้อตกลงดังกล่าวจะไม่ละเมิดพันธสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ แต่มันกระตุ้นให้บรรดาผู้สัดทัดกรณีบางส่วนคาดเดาและแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการโจมตีทางนิวเคลียร์ ท่ามกลางวิกฤตความขัดแย้งในยูเครน
ต่อไปนี้คือรายละเอียดคลังแสงนิวเคลียร์ของรัสเซีย
รัสเซีย ซึ่งเป็นผู้สืบทอดอาวุธนิวเคลียร์ของสหภาพโซเวียต เป็นชาติที่มีสต๊อกหัวรบนิวเคลียร์มากที่สุดในโลก จนถึงปี 2022 ปูติน มีหัวรบนิวเคลียร์ในควบคุมราวๆ 5,977 หัวรบ ส่วนประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ มีหัวรบนิวเคลียร์ภายใต้การควบคุม 5,428 หัวรบ อ้างอิงจากข้อมูลของสหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน
คาดหมายว่าหัวรบนิวเคลียร์ของรัสเซียเหล่านั้นราว 1,500 หัว ปลดระวางแล้ว (แต่บางทีอาจยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์) ส่วนอีก 2,889 หัวรบอยู่ในคลังแสง และ 1,588 หัวรบ เป็นหัวรบทางยุทธศาสตร์ที่อยู่ในประจำการ
The Bulletin of the Atomic Scientists (BAS) ซึ่งเป็นองค์กรของคณะนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านปรมาณู กล่าวว่า หัวรบนิวเคลียร์ 812 หัวรบ ถูกติดตั้งบนขีปนาวุธยิงจากภาคพื้น 576 หัวรบติดตั้งบนขีปนาวุธยิงจากเรือดำน้ำ และราว 200 หัวรบ ติดตั้งบนเครื่องบินทิ้งระเบิดหนัก
ส่วนสหรัฐฯ มีหัวรบนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ 1,644 หัว จีนมีหัวรบนิวเคลียร์ทั้งสิ้น 350 หัว ฝรั่งเศสมี 290 หัวรบ และสหราชอาณาจักรมี 225 หัวรบ จากข้อมูลของสหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน
ด้วยจำนวนดังกล่าวนั่นหมายความว่าทั้งรัสเซียและสหรัฐฯ จะสามารถทำลายล้างโลกได้หลายต่อหลายรอบ
ระหว่างสงครามเย็น คลังแสงของสหภาพโซเวียตมีหัวรบนิวเคลียร์พีกสุดมากถึงราว 40,000 หัวรบ ส่วนช่วงพีกสุดของสหรัฐฯ มีหัวรบนิวเคลียร์ประมาณ 30,000 หัวรบ
อย่างไรก็ตาม กุญแจสำคัญในการปล่อยอาวุธสู่เป้าหมาย คือขีปนาวุธ เรือดำน้ำ และเครื่องบินทิ้งระเบิด ที่สามารถบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ได้
ดูเหมือนว่า รัสเซียจะมีขีปนาวุธข้ามทวีปศักยภาพติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์อยู่ราว 400 ลูก ซึ่งทาง The Bulletin of the Atomic Scientists ประมาณการว่าสามารถบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ได้สูงสุด 1,185 หัวรบ
รัสเซียมีเรือดำน้ำนิวเคลียร์ที่สามารถติดอาวุธนิวเคลียร์ อยู่ 10 ลำ ซึ่งสามารถบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ได้สูงสุด 800 หัวรบ ขณะเดียวกันพวกเขามีเครื่องบินทิ้งระเบิดศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ราว 60 ถึง 70 ลำ
ในรายงานการทบทวนสถานการณ์นิวเคลียร์ปี 2022 (Nuclear Posture Review) สหรัฐฯระบุว่า รัสเซียและจีนกำลังขยาย และปรับปรุงกองกำลังนิวเคลียร์ของตนเองให้มีความทันสมัย แต่วอชิงตันจะใช้หนทางหนึ่ง บนพื้นฐานของการควบคุมอาวุธเพื่อสกัดการแข่งขันสะสมอาวุธ
อย่างไรก็ตาม ปูติน อ้างว่าเขาได้รับข้อมูลมาว่า สหรัฐฯ กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์รูปแบบใหม่
นับตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 1991 มีเพียงไม่กี่ประเทศที่ทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ จากข้อมูลของสมาคมควบคุมอาวุธ โดยสหรัฐฯ ทดสอบหนสุดท้ายในปี 1992 จีนและฝรั่งเศส ทดสอบหนสุดท้ายในปี 1996 อินเดียและปากีสถานในปี 1998 และเกาหลีเหนือในปี 2017 ขณะที่สหภาพโซเวียตทำการทดสอบหนสุดท้ายในปี 1990
(ที่มา : อัลจาซีราห์/mgronline)