เกาหลีเหนืออ้างว่ามีพลเรือนของพวกเขาราวๆ 800,000 คน ที่สมัครใจเข้าร่วมหรือกลับเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในกองทัพของประเทศเพื่อสู้รบกับสหรัฐฯ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์แห่งรัฐของเปียงยางเมื่อวันเสาร์ (18 มี.ค.)
หนังสือพิมพ์โรดอง ชิมมุน รายงานว่าแค่วันศุกร์ (17 มี.ค.) วันเดียว มีนักศึกษาและแรงงานราว 800,000 คนทั่วประเทศที่แสดงความปรารถนาเข้าร่วมหรือกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ในกองทัพเพื่อต่อต้านสหรัฐฯ
"ความกระตือรือร้นที่เพิ่มมากขึ้นของบรรดาคนหนุ่มสาวในการเข้าร่วมกองทัพ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ไร้ความสั่นคลอนของคนรุ่นหนุ่มสาวในการล้างบางอย่างไร้ความปรานี ต่อพวกคลั่งสงครามที่กำลังพยายามขั้นสุดท้ายในการกำจัดประเทศสังคมนิยมที่ล้ำค่าของเรา และบรรลุเป้าหมายก่อการรวมชาติโดยปราศจากความล้มเหลว และแสดงให้เห็นถึงอย่างชัดเจนถึงความรักชาติอย่างเร่าร้อนของพวกเขา" หนังสือพิมพ์โรดอง ชิมมุน รายงาน
คำกล่าวอ้างของเปียยางมีขึ้นไม่กี่วันหลังจาก พวกเขาในวันพฤหัสบดี (16 มี.ค.) ทำการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ฮวาซอง-17 (Hwasong-17) ตอบโต้การซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้
เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธข้ามทวีปลงสู่ทะเลระหว่างคาบสมุทรเกาหลีและญี่ปุ่น ในวันพฤหัสบดี (16 มี.ค.) ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้จะบินไปกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อประชุมซัมมิต หารือกันเกี่ยวกับหนทางในการตอบโต้เกาหลีเหนือ ชาติติดอาวุธนิวเคลียร์
การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ เป็นสิ่งต้องห้ามภายใต้มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และการยิงรอบใหม่ดังกล่าว เรียกเสียงประณามจากรัฐบาลในกรุงโซล วอชิงตัน และโตเกียว
กองกำลังเกาหลีใต้และสหรัฐฯ เริ่มทำการซ้อมรบเป็นเวลา 11 วัน ที่มีชื่อว่า "ฟรีดอม ชิลด์ 23" เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ถือเป็นการซ้อมรบในขอบเขตที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนนับตั้งแต่ปี 2017 ในการตอบโต้ภัยคุกคามของเกาหลีเหนือ
คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวหาสหรัฐฯและเกาหลีใต้กำลังยกระดับความตึงเครียด ด้วยการซ้อมรบทางทหาร
(ที่มา : รอยเตอร์)