xs
xsm
sm
md
lg

ใครอยู่ใครไป! อียูคว่ำบาตรรัสเซียรอบที่ 10 มอสโกสวนเบาๆ หยุดจ่ายน้ำมันป้อนโปแลนด์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สหภาพยุโรปประเทศยกระดับกดดันมอสโก "จนกว่ายูเครนได้รับการปลดปล่อย" หลังกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซียรอบที่ 10 ในวันเสาร์ (25 ก.พ.) หนึ่งวันหลังครบรอบ 1 ปีในปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซีย จากนั้นไม่นานมอสโกได้ทำการหยุดจ่ายน้ำมันไปโปแลนด์ ที่ป้อนผ่านท่อลำเลียงดรูซบา

"ตอนนี้เรามีมาตรการคว่ำบาตรที่กว้างขวางที่สุดเท่าที่เคยมีมา กำจัดคลังแสงสงครามของรัสเซียจนร่อยหรอ และก่อบาดแผลลึกแก่เศรษฐกิจของพวกเขา" อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปเขียนบนทวิตเตอร์ พร้อมระบุว่า ทางกลุ่มกำลังโยนแรงกดดันใส่พวกที่พยายามหลบหลีกมาตรการคว่ำบาตรของอียู

โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู เตือนว่าทางกลุ่มจะเดินหน้าถาโถมมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมเข้าใส่รัสเซีย "เราจะเดินหน้ายกระดับกดดันรัสเซีย และเราจะทำมันเป็นเวลานานเท่าที่จำเป็น จนกว่ายูเครนจะได้รับการปลดปล่อยจากรัสเซีย ผู้รุกรานที่โหดร้ายป่าเถื่อน"

บอร์เรล ระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรรอบล่าสุดเป็นการเล่นงานภาคธนาคาร สกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีของมอสโก ซึ่งสามารถใช้ในวัตถุประสงค์ต่างๆ ทั้งทางพลเรือนและด้านการทหาร รวมถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยต่างๆ

แพกเกจนี้ยังได้เพิ่มเติมรายการต่างๆ เข้าไปในบัญชีต้องห้าม ประกอบด้วย ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในระบบอาวุธของรัสเซียที่ได้รับความเสียหายในสนามรบ ในนั้นรวมถึงโดรน ขีปนาวุธ เฮลิคอปเตอร์ เช่นเดียวกับแร่แรร์เอิร์ธ แผงวงจรรวมอิเล็กทรอนิกส์ และกล้องถ่ายภาพความร้อน

นอกจากนี้ มันยังกำหนดข้อจำกัดการส่งออกเข้มเข้นขึ้นต่อนิติบุคคลอีก 96 แห่งที่ให้การสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมและการทหารของรัสเซีย ในนั้นรวมถึงการขึ้นบัญชีดำเป็นครั้งแรก นิติบุคคล 7 แห่ง ของอิหร่านที่ผลิตโดรนทหารที่มอสโกใช้งานในสงครามยูเครน

ขณะเดียวกัน มาตรการคว่ำบาตรล่าสุดยังกำหนดข้อจำกัดในการนำเข้าสินค้าต่างๆ ที่ก่อรายได้แก่รัสเซียอย่างมหาศาล อย่างเช่นยางมะตอย และยางสังเคราะห์

อีกด้านหนึ่ง อียูได้ทำการคว่ำบาตรแยกกัน บุคคล 11 ราย และนิติบุคคล 7 แห่ง ที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มวากเนอร์ นักรบอาสาสมัครที่กำลังสู้รบในยูเครน และมีความเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งต่างๆ ในหลายชาติแอฟริกา เช่น ในประเทศมาลี

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนและนายกรัฐมนตรีเดนีส ชมีฮาล เร่งเร้าอียูในวันเสาร์ (25 ก.พ.) ให้เดินหน้ายกระดับกดดัน หาทางให้รัสเซียชดใช้หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ลงโทษกรณีรุกรานยูเครน

"แรงกดดันที่มีต่อรัสเซียผู้รุกรานต้องเพิ่มเติม เราคาดหมายก้าวย่างที่เด็ดขาดกับโรซาตอม (บริษัทพลังงานนิวเคลียร์ที่มีรัฐรัสเซียเป็นเจ้าของ) และอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ของรัสเซีย เพิ่มแรงกดดันในด้านการทหารและภาคธนาคาร" เซเลนสกีเขียนบนทวิตเตอร์

ไม่นานหลังจากอียูเห็นพ้องกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ ลงโทษกรณีทำสงครามในยูเครน ทางบริษัท PKN Orlen กลุ่มพลังงานของโปแลนด์ แถลงในวันเสาร์ (25 ก.พ.) ว่ารัสเซียได้หยุดจ่ายน้ำมันผ่านท่อลำเลียงดรูซบา ภายใต้สัญญาสุดท้ายที่คิดเป็น 10% ของความต้องการของทาง Orlen

"การส่งมอบผ่านท่อลำเลียงดรูซบามาโปแลนด์ หยุดลงโดยฝ่ายรัสเซีย" บริษัทโปแลนด์ระบุในถ้อยแถลงที่ส่งถึงสำนักข่าวเอเอฟพี อย่างไรก็ตาม Orlen กล่าวว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่ออุปทานที่ป้อนแก่ลูกค้าชาวโปแลนด์ และบอกว่าเวลานี้การส่งมอบน้ำมันทั้งหมดจะมาจากการลำเลียงทางทะเล

จนถึงตอนนี้ทาง PKN Orlen นำเข้าน้ำมันคิดเป็นสัดส่วน 10% ของความต้องการผ่านท่อลำเลียงแห่งนี้ที่ป้อนน้ำมันมาจากรัสเซีย ส่วนที่เหลือมาจากประเทศอื่นๆ ผ่านเส้นทางทางทะเล

โปแลนด์ยอมรับเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ว่าพวกเขายังคงซื้อน้ำมันรัสเซียคิดเป็นสัดส่วน 10% ของอุปทานทั้งหมด แม้ยืนกรานหนักแน่นว่าจะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียหนักหน่วงขึ้น

ก่อนหน้านี้ โปแลนด์เคยประกาศเมื่อปีที่แล้วว่า "มีแผนสุดโต่ง" จะหยุดนำเข้าน้ำมันรัสเซียทั้งหมดภายในช่วงสิ้นปี 2022 อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีช่วยรายหนึ่งบอกกับรัฐสภา ว่าโปแลนด์ยังคงมีสัญญาตามกฎหมายฉบับหนึ่งที่ทำไว้กับ Tatneft บริษัทรัสเซีย นั่นหมายความโปแลนด์ยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซีย 200,000 ตันในแต่ละเดือน

รัฐมนตรีช่วยว่าการรายนี้บอกว่า Orlen บริษัทแห่งรัฐ ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะหยุดซื้้อน้ำมันรัสเซียอย่างเร็วที่สุดทันทีที่มาตรการคว่ำบาตรของอียูมีผลบังคับใช้

เขากล่าวว่าทาง Tatneft ไม่สามารถยกเลิกสัญญาปัจจุบันได้ เนื่องจากมันจะบังคับให้วอร์ซอต้องจ่ายเงินชดเชยแก่บริษัทรัสเซีย

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา โปแลนด์มีอุปทานน้ำมันและก๊าซที่หลากหลาย และจากคำกล่าวของรัฐมนตีช่วยว่าการรายนี้ระบุว่า ข้อตกลงของ Tatneft เป็นสัญญาทางพลังงานกับรัสเซียเพียงฉบับเดียวที่เหลืออยู่

โครงข่ายท่อลำเลียงดรูซบา (มิตรภาพ) เริ่มเปิดใช้งานมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1960 มันสูบน้ำมันอูราลของรัสเซียป้อนสู่ยุโรป โดยสาขาทางเหนือผ่านโปแลนด์ และสาขาทางใต้ผ่านยูเครน

(ที่มา : รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น