การประท้วงต่อต้านจัดหาอาวุธแก่ยูเครนเพื่อทำสงครามกับรัสเซีย ดึงดูดผู้เข้าร่วมมากกว่า 10,000 คนในวันเสาร์ (25 ก.พ.) ความเคลื่อนไหวที่เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลและตำรวจประจำการกำลังพลจำนวนมากเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย
ความเคลื่อนไหวชุมนุมที่มีนักการเมืองฝ่ายซ้ายเยอรมนีคนดังรายหนึ่งเป็นแกนนำ มีขึ้น 1 วันตามหลังวาระครบรอบ 1 ปี ปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซีย เมื่อวันศุกร์ (24 ก.พ.) ซึ่งบรรดาพันมิตรตะวันตกทั้งหลายในโอกาสนี้ สัญญาจะมอบอาวุธเพิ่มเติม คว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ และแสดงจุดยืนสนับสนุนเคียฟ
"เราเรียกร้องนายกรัฐมนตรีเยอรมนีให้หยุดส่งมอบอาวุธเพิ่มเติมเดี๋ยวนี้เลย เพราะว่าทุกๆ วันมันต้องชดใช้ด้วยการสูญเสียชีวิตมากกว่า 1,000 คน และนำเราเข้าใกล้สงครามโลกครั้งที่ 3" ฝ่ายจัดการชุมนุมระบุบนเว็บไซต์
การประท้วงที่ใช้ชื่อว่า "ลุกฮือเพื่อสันติภาพ" บางส่วนจัดโดย ซาห์รา วาเก็นคเน็ชท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรค Die Linke พรรคการเมืองฝ่ายซ้ายของเยอรมนี
เยอรมนี เช่นเดียวกับสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่แก่ยูเครน "เจรจา ไม่เอาส่งมอบอาวุธเพิ่ม" ผู้ประท้วงรายหนึ่งชูป้ายประท้วง นอกจากนี้ ป้ายประท้วงอีกอันในฝูงชนมีใจความว่า "ไม่ใช่สงครามของเรา"
โฆษกตำรวจระบุว่ามีผู้เข้าร่วมชุมนุมบริเวณประตูบรันเดินบวร์ค ย่านในกลางเบอร์ลิน ราวๆ 10,000 คน
ตำรวจได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ 1,400 นาย เข้ารักษาความสงบเรียบร้อยและคอยบังคับใช้มาตรการห้ามสวมเครื่องแบบทหาร ชูธงชาติรัสเซีย และธงสหภาพโซเวียต ร้องเพลงกองทัพรัสเซียและชูสัญลักษณ์ต่างๆ ของฝ่ายขวา
อย่างไรก็ตาม โฆษกตำรวจเปิดเผยว่าไม่พบสัญญาณต่างๆ ว่ากลุ่มฝ่ายขวาทั้งหลายเข้าร่วมด้วย และบอกว่าการประท้วงเป็นไปอย่างสันติ ในขณะที่ คริสเตียน ลินด์เนอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเยอรมนี ต้องต่อต้านความเคลื่อนไหวครั้งนี้โดยสิ้นเชิง
"ใครก็ตามที่ไม่ยืนหยัดเคียงข้างยูเครน คือการเลือกอยู่ข้างผิดในประวัติศาสตร์" ลินด์เนอร์ กล่าว
(ที่มา : รอยเตอร์)