ร่างกายไร้วิญญาณรายแล้วรายเล่าถูกกอบกู้ออกซากปรักหักพังของอาคารสูงหลายพันแห่ง ที่ถล่มลงมาพังยับเยินคาพื้นพสุธาในมหาวิบัติแผ่นดินไหวที่ตุรกีต่อเนื่องถึงซีเรีย และคร่าชีวิตมนุษย์ไปไม่น้อยกว่า 8,754 ราย ขณะที่บรรดาทีมนักกู้ภัยยังทำงานเข้มแข็งต่อเนื่อง 3 วันแล้ว ด้วยหัวใจเปี่ยมความหวังที่จะพบเหยื่อธรณีพิโรธที่ยังรักษาลมหายใจไว้ได้
เพราะแต่ละคราที่ชีวิตเล็กๆ หนึ่งชีวิตถูกช่วยออกมานั้น มันคือความสุขมหาศาลที่แชร์ร่วมกันทั้งในจุดเกิดเหตุ ไปจนถึงชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศและทั่วโลก
ทารกแรกเกิดร่างกระจ้อยร่อยยังประคองหายใจไว้ได้อย่างทรหดในท่ามกลางอากาศหนาวจัด ขณะถูกพบอยู่กับศพคุณแม่ ภายในช่องว่างระหว่างบรรดาแผงคอนกรีตเพดานและพื้นของอาคารอพาร์ตเมนต์ถล่มในเมืองจินเดริส ทางตอนเหนือของประเทศซีเรียติดชายแดนตุรกี เมื่อวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2023 เอพีรายงาน
ประชาชนร่วมใจช่วยกันขุดค้นหาผู้รอดตายในอาคารที่อยู่อาศัยแห่งนี้ ซึ่งพังถล่มจมปฐพี เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนมหาศาลของธรณีพิโรธ และได้พบเด็กทารกแรกเกิด เพศหญิง ซึ่งร้องไห้ซบอยู่กับขาของคุณแม่ โดยคุณแม่ซึ่งเสียชีวิตแล้ว น่าจะคลอดน้องออกมาช่วงที่ติดค้างบาดเจ็บอยู่ในซากปรักหักพังของบ้านในอพาร์ตเมนต์ ญาติๆ และแพทย์ให้ข้อมูลแก่เอพี พร้อมระบุนามของคุณแม่ว่า อัฟราอา อาบู ฮาดิยะ
เด็กหญิงแบเบาะวัยไม่ถึงหนึ่งวันโดยยังมีสายรกติดอยู่กับกายและเชื่อมโยงอยู่กับคุณแม่ ได้รับความช่วยเหลือออกจากซากอิฐหักและคอนกรีตอันป่นปี้ นำส่งโรงพยาบาลในเมืองจินเดริส โดยอาการของน้องคือปางตาย เพราะต้องทนทุกข์กับความหนาวทารุณนานหลายชั่วโมงโดยไม่มีผ้าพันกายให้ความอบอุ่น อีกทั้งไม่ได้รับอาหารใดๆ ทั้งสิ้น
กว่าที่ยัยหนูจะได้รับความช่วยเหลือ เวลาได้เคลื่อนผ่านไปสู่ช่วงบ่ายจัดแล้ว หรือก็คือมากกว่า 10 ชั่วโมงหลังเกิดมหาวิบัติภัยแผ่นดินไหว ณ 04.17 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยเมื่อกลุ่มประชาชนนักกู้ภัยสามารถนำตัวน้องออกจากกองอิฐและเศษปูน หญิงนักกู้ภัยชาวบ้านได้ช่วยตัดสายสะดือ แล้วรีบเร่งพาน้องนำส่งโรงพยาบาลเด็กในเมืองอัฟริน ซึ่งอยู่ติดกับเมืองหายนะจินเดริส
ดร.ฮานิ มาอารูฟ นายแพทย์เจ้าของไข้ให้สัมภาษณ์แก่เอพีว่า น้องถึงมือหมอในสภาพบอบช้ำทีเดียว และต้องเข้าตู้อบเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย
ในวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ขณะหนุ่มนักกู้ภัยชาวบ้านนำตัวยัยหนูทารกน้อยออกจากซากปรักหักพังของอาคารอพาร์ตเมนต์ สายรกที่ยังติดอยู่กับตัวน้องห้อยโตงเตงน่าสงสารเป็นที่สุด และต่อมาจึงมีคนนำผ้าห่มมาคลุมร่างกายของน้องให้คลายจากความหนาวเย็น
คุณหมอมาอารูฟ ให้ข้อมูลว่าอุณหภูมิของน้องลดต่ำเหลือแค่ 35 องศาเซลเซียส และน้องมีรอยฟกช้ำหลายจุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณหลังซึ่งช้ำมากเป็นบริเวณกว้าง แต่สภาพโดยรวมนับว่าแข็งแรง
พร้อมกันนี้ คุณหมอมาอารูฟ บอกว่าทารกน้อยรายนี้มีน้ำหนักตัว 3.175 กิโลกัม อันเป็นระดับเดียวกับทารกแรกเกิดตามปกติ ซึ่งแสดงว่าน้องใกล้จะถึงกำหนดคลอดแล้ว
“จุดที่น่าเป็นห่วงสำหรับทารกรายนี้คือ อาการช้ำที่แผ่นหลังเพราะถูกของแข็งกระทบกระแทก เราต้องรอดูว่ากระดูกสันหลังของน้องมีปัญหาอะไรหรือไม่” คุณหมอมาอารูฟบอกอย่างนั้น โดยบอกด้วยว่าน้องสามารถขยับขาและแขนได้เป็นปกติ
คุณแม่อาบู ฮาดิยะ น่าจะครองสติได้อย่างเข้มแข็งขณะที่ติดค้างและบาดเจ็บอยู่ในซากอาคารถล่ม เธอจึงสามารถคลอดลูกสาวให้พ้นออกจากร่างได้อย่างปลอดภัย และคงจะสิ้นใจหลังจากนั้นไม่นาน คุณหมอมาอารูฟ กล่าว พร้อมกับวิเคราะห์ว่ากว่าที่ทารกน้อยจะถึงโรงพยาบาลเด็ก น้องคงจะถือกำเนิดมาหลายชั่วโมงแล้วโดยปราศจากเครื่องกันหนาว ทั้งนี้ คุณหมอประมาณการจากระดับอุณหภูมิของร่างกายน้องซึ่งลดต่ำลงจากระดับปกติหลายเซลเซียส
หากทารกวัยหนึ่งวันรายนี้ถือกำเนิดก่อนแผ่นดินไหว น้องอาจจะเอาชีวิตไม่รอด เพราะน้องต้องอยู่ในสภาพอากาศหนาวจัดนานเกินไป
“ถ้ายัยหนูได้รับความช่วยเหลือช้ากว่านี้อีกหนึ่งชั่วโมง ยัยหนูคงตายไปแล้ว เพราะร่างกายจะสูญเสียความอบอุ่นเกินกว่าจะทนทานได้น่ะครับ” คุณหมอมาอารูฟ บอกกับเอพีอย่างนั้น
ชะตากรรมของทารกน้อยน่าสงสารอย่างที่สุด น้องเหลือตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ กล่าวคือ
ณ นาทีที่แผ่นดินไหวถล่มเมืองจินเดริสช่วงรุ่งสางของวันจันทร์ เป็นจังหวะเดียวกับที่คุณแม่อาบู ฮาดิยะ และสามีกับลูกๆ 4 คน กำลังวิ่งจะออกให้พ้นอาคารอพาร์ตเมนต์ แต่โครงสร้างอาคารถูกแรงสั่นสะเทือนเล่นงานอย่างจัง และยุบฮวบถล่มลงมาบนร่างกายของสมาชิกครอบครัวทั้ง 6 ราย โดยศพของพวกเขาอยู่ใกล้จะถึงทางออกอาคาร
ในวันรุ่งขึ้น อังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ ร่างไร้ลมหายใจของคุณแม่อาบู ฮาดิยะ และสามี กับลูกๆ ทั้ง 4 ได้พักผ่อนนิรันดร์กาลในสุสานนอกเมืองจินเดริส ในเวลาเดียวกัน ทารกน้อยวัย 2 วันกลายเป็นเด็กกำพร้า ถูกทิ้งไว้ลำพังบนโลกกว้าง เพราะเธอเป็นผู้รอดชีวิตเพียงรายเดียวของครอบครัว
เรื่องราวของทารกน้อยถูกเล่าขานต่อๆ กันไปทั่ว
ยิ่งกว่านั้น ปาฏิหาริย์แห่งการรอดตายของยัยหนู ได้จุดประกายความหวังใหญ่หลวงให้แก่บรรดาคณะนักกู้ภัยที่เป็นทีมภายในประเทศตุรกีและซีเรีย ตลอดจนทีมช่วยเหลือจากประเทศต่างๆ เอพีรายงาน
หลังแผ่นดินไหวอุบัติ ใบหน้าเปี่ยมสุขในรูปถ่าย ถูกแทนที่ด้วยภาพคุณพ่อจับมือบอบบางของลูกสาวซึ่งตายในซากอาคารถล่ม
ในประเทศตุรกี เมซุต ฮันเซอร์ คุณพ่อหัวใจสลาย นั่งสงบและเกาะกุมมือบอบบางของศพลูกสาวไว้อย่างนุ่มนวล ราวกับจะถ่ายทอดพลังความรักไปสู่ดวงวิญญาณของน้องเพื่อไม่ให้น้องว้าเหว่ในเส้นทางชีวิตหลังความตาย ในขณะเดียวกัน คุณพ่ออดทนรอความช่วยเหลือในการกอบกู้ร่างไร้วิญญาณของน้องอิร์มัค สาวน้อยวัยเพียง 15 ปี ซึ่งถูกแผงคอนกรีตหนักร่วงจากเพดานห้องลงมาทับร่างจนเสียชีวิต และจึงต้องจากอ้อมกอดคุณพ่อไปก่อนวัยอันควร
น้องอิร์มัค สิ้นใจในบ้านคอนโดมิเนียมของครอบครัวที่เมืองคาห์รามันมารัส ทางภาคใต้ซีกตะวันออกของตุรกี ซึ่งถล่มพังลงในระหว่างภัยพิบัติแผ่นดินไหวความรุนแรงไม่น้อยกว่าระดับ 5.6 โดยมีเพียงมือบอบบางของน้องที่พ้นออกจากแผงเพดานคอนกรีตมรณะ
ขณะที่บรรดาทีมนักกู้ภัยระดมกำลังเข้าค้นหาผู้รอดชีวิต ประชาชนก็นำเครื่องมือขุดเจาะมาช่วย รวมทั้งร่วมมือร่วมใจใช้สองมือเปล่ายกชิ้นคอนกรีตใหญ่ๆ เพื่อเคลียร์ทางเข้าไปให้ถึงจุดที่คาดว่ามีผู้ติดค้างอยู่ข้างใต้
แต่สำหรับกรณีของน้องอิร์มัค เมื่อความช่วยเหลือดั้นด้นไปถึง น้องสิ้นใจแล้ว และกลายเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตกว่าหมื่นรายจากเหตุธรณีพิโรธ อันร้ายแรงที่สุดในรอบ 84 ปี นับจาก ค.ศ.1939
บรรยากาศโศกสลด เสียงร่ำไห้ และหิมะโปรยบนซากอาคารแตกหัก ปกคลุมบรรดาเมืองเหยื่อแผ่นดินไหว
ในเมืองต่างๆ ซึ่งอยู่ในแนวแผ่นดินไหว เช่น เมืองอันตาเกีย เมืองสำคัญแหล่งโบราณสถานงดงามเก่าแก่ของตุรกี ชาวเมืองต้องเรียงรายร่างผู้เสียชีวิตไปวางเรียงตามทางเดินริมถนน เพื่อให้ญาติพี่น้องสะดวกในการชี้ตัวและขอนำไปประกอบพิธีทางศาสนา
เมืองสำคัญด้านอารยธรรม เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว อย่างนครกาซีอันเตป ซึ่งได้รับความเสียหายร้ายแรงที่สุด เพราะเป็นจุดศูนย์กลางแห่งแผ่นดินไหวครั้งนี้ ตลอดจนเมืองอื่นๆ อีก 9 เมือง ถูกประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัตินาน 3 เดือน เพื่อเปิดทางให้งบประมาณความช่วยเหลือหลั่งไหลเข้าไปเยียวยาและกอบกู้วิถีชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนรวมกว่า 13 ล้านรายที่คาดว่าได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมแห่งภัยธรรมชาติครั้งนี้
ในเมืองดิยาร์บาเกียร์ ซึ่งอยู่เหนือขึ้นไปในภาคกลางของประเทศ อาคารที่ได้รับความเสียหายรุนแรงอย่างยิ่งเป็นอพาร์ตเมนต์ 8 ชั้น ซึ่งมีผู้คนติดค้างในอาคารมากมาย เพราะแผ่นดินไหวอุบัติในเวลารุ่งสาง
“อพาร์ตเมนต์หลังนี้ถล่มยุบลงไปเหมือนขนมเค้กงานแต่งงานคร้บ คนในอพาร์ตเมนต์ยังหลับกันสนิทตอนที่แผ่นดินสะเทือน” นักกู้ภัยนายหนึ่งให้สัมภาษณ์
ความช่วยเหลือจากทั่วโลกหลั่งไหลเข้าไปยังตุรกี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นขาประจำที่รุดเข้าไปในทุกครั้งที่ตุรกีเผชิญกับธรณีพิโรธ ทั้งทีมนักกู้ภัยและบรรดาสุนัขดมกลิ่น
แต่สิ่งที่ไม่มีใครปรารถนาจะให้เข้าไป คือ หิมะและคลื่นอากาศหนาวเย็นทารุณ ณ อุณหภูมิแห่งจุดเยือกแข็ง
เหยื่อแผ่นดินไหวที่เป็นลูกเล็กเด็กแดงมีมากมายเหลือเกิน ที่ซีเรียขาดเครื่องจักรขนาดใหญ่ให้ใช้ขุดเจาะลงไปช่วยผู้ติดค้างในซากอาคารถล่ม
เด็กหญิงตัวน้อยวัยกระเตาะกระแตะ 18 เดือนนามว่า รากาด อิสมาอิล ถูกช่วยออกจากกองพะเนินของซากคอนกรีตในอาการน่าเป็นห่วง มีบาดแผลหลายจุดและเสียขวัญอย่างที่สุด น้องเป็นเหยื่อในเขตเมืองอาซาซซึ่งอยู่ในการยึดครองของฝ่ายกบฏซีเรีย ทางตอนเหนือของประเทศ เมื่อวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2023 เดอะซันรายงาน
น้องได้รับขนมปังหนึ่งก้อนและให้นั่งพักพิงในผ้าห่ม น้องทรหดและอดทนต่ออากาศอันหนาวเย็นได้อย่างเหลือเกิน
คุณลุงอาบู ฮัสซัม ของน้องอิสมาอิลให้สัมภาษณ์แก่นักข่าวเดอะซันว่า
“คุณพ่อของยัยหนูน่าจะหลังหักล่ะครับ ตอนนี้พวกเขาเหลือกันแค่ 2 คน เพราะอีก 3 คนคือ คุณแม่น้อง พี่สาว 5 ขวบ กับพี่ชาย 4 ขวบของน้องเสียชีวิตกันทั้งหมด”
ครอบครัวทั้งหลายของเหยื่อธรณีพิโรธพยายามสื่อสารและให้กำลังใจแก่ญาติพี่น้องที่ยังติดในซากปรักหักพัง
นูร์กูล อาทัย ชาวเมืองอันตาเกีย เล่าว่าเธอได้ยินเสียงคุณแม่อออกมาจากข้างใต้ของซากอาคาร แต่ท้องถิ่นตรงนี้ยังไม่มีทีมกู้ภัยเข้าไปช่วย และผู้คนก็ไม่มีเครื่องมือขนาดใหญ่
“ถ้าสามารถยกแผงคอนกรีตพ้นไป เราก็จะสามารถเข้าไปช่วยแม่ได้ค่ะ” อาตายี ให้สัมภาษณ์อย่างนั้น
“แม่ฉันอายุ 70 ปี แม่คงไม่สามารถประคองสังขารได้อีกกี่มากน้อย” สาวใหญ่อันตาเกียกล่าว
ในคลิปจากโทรศัพท์มือถือของคนในจุดเกิดเหตุ มีเสียงสตรีรายหนึ่งร้องอ้อนวอนของความช่วยเหลือ แล้วชายเจ้าของคลิปพูดเล่าว่า “อย่างที่คุณนะครับ มีร่างของศพร่างหนึ่งถูกทิ้งไว้ไม่มีใครเข้าไปเคลื่อนย้าย และมีเสียงของคุณยายดังออกมาจากด้านล่างของตึกถล่มนี้”
เสียงของสตรีรายเดิมดังขึ้นอีก ตามด้วยเสียงตีรัวบนโลหะ แต่ผู้คนก็ไม่สามารถเปิดทางเข้าไปช่วยคุณยายท่านนี้ได้
นอกจากนั้น ยังมีการส่งคลิปเสียงโอดครวญขอความช่วยเหลือผ่านโทรศัพท์มือถือออกมาจากเหยื่อหลายรายที่ติดค้างอยู่ใต้ซากอาคารถล่ม
นักข่าวตุรกี อิบราฮิม ฮาสโกโลกลู บอกกับเดอะซันว่าเขาได้รับวิดีโอมากมายร้องขอความช่วยเหลือ บางรายให้พิกัดมาเลยว่าพวกเขาติดอยู่ตรงไหน แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรที่จะช่วยเหลือแก้ไขได้เลย
ชาวตุรกีหลายพันรายจากภาคเหนือของประเทศที่ไม่ได้ประสบกับภัยพิบัติ พากันขึ้นเครื่องบินเดินทางมายังบรรดาเมืองในภาคใต้ที่ถูกธรณีพิโรธเล่นงานหนักหนา บ้างมาเพื่อเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือ และบ้างมาตามหาญาติพี่น้อง กับมางานศพของเหยื่อแผ่นดินไหว
11,224 เหยื่อแผ่นดินไหว คือ เสียชีวิต & อีก 8,000 รายที่ติดใต้ซากอาคารถล่ม พ้นออกมาได้
ล่าสุด ยอดผู้เสียชีวิตจากมหาวิบัติแผ่นดินไหวในตุรกีมากมายถึง 8,754 ราย ประธานาธิบดีเรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน ประกาศในวันนี้ (8 กุมภาพันธ์) ซึ่งเมื่อรวมกับจำนวนผู้เสียชีวิตในซีเรียอีก 2,470 ราย จำนวนผู้เสียชีวิตที่ยืนยันแล้วจึงอยู่ที่ 11,224 ราย เดอะการ์เดียนรายงาน
ภัยแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 84 ปี เริ่มอุบัติขึ้นด้วยความรุนแรงหฤโหดระดับ 7.8 ใกล้นครกาซีอันเตป ในวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2023 ณ เวลา 04.17 น. ของประเทศตุรกี ขณะที่พายุฤดูหนาวก็โหมกระหน่ำซ้ำเติมเข้าไป ส่งผลให้อาคารจำนวนประมาณ 5,700-11,000 แห่งทรุดตัวถล่มจมธรณี เป็นแนวแห่งความพินาศย่อยยับยาวหลายร้อยกิโลเมตรตลอดแนวชายแดนตุรกีกับซีเรีย เดอะซันรายงาน
หลังจากนั้น ยังมีแผ่นดินไหวตามมาอีกด้วยระดับความรุนแรง 7.5 ภายในวันเดียวกัน กับอีกหนึ่งซีรีส์ที่ระดับ 5.6 ในวันอังคารที่ 7 พร้อมกัรนี้ ยังมีหลายซีรีส์ของอาฟเตอร์ช็อกรวม 285 ครั้ง
ในจำนวนอาคารต่างๆ ที่ถล่มไม่น้อยกว่า 11,302 แห่งตลอดแนวแผ่นดินไหวนั้น ผู้ติดค้างในซากปรักหักพังเหล่านี้ได้รับความช่วยเหลือออกมาได้แล้วมากกว่า 8,000 ราย ขณะที่ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บสูงลิ่วมากกว่า 20,426 ราย
ในเวลาเดียวกันผู้คนไร้ที่พักพิงมีมหาศาลในระดับ 380,000 ราย โดยต้องไปอาศัยในอาคารที่ยังมั่นคงแข็งแรง เช่น อาคารพักพิงชั่วคราวที่จัดสรรโดยหน่วยงานราชการ โรงแรมต่างๆ อีกทั้งพื้นที่อนุเคราะห์ของห้างสรรพสินค้า สนามกีฬา สุเหร่า และศูนย์ชุมชนทั้งหลาย พร้อมกันนี้ กระทรวงคมนาคมของตุรกียังเปิดให้เข้าประชาชน 3,400 รายเข้าไปพักอาศัยในตู้ขบวนรถไฟเป็นกรณีฉุกเฉินแบบชั่วคราว
สถานการณ์ในพื้นที่ประสบแผ่นดินไหวในตุรกียังสาหัสอย่างหนัก ถนนและสะพานจำนวนมากถล่มและยุบตัว ทางหลวงไฮเวย์ระหว่างนครกาซีอันเตปกับอาดานา ซึ่งเป็นเมืองที่กลุ่ม 10 เมืองเสียหายยับเยินสูงสุดของประเทศ เสียหายวินาศ มีการหักและแยกขาดจากกันด้วยแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว
นอกจากนั้น เดอะการ์เดียนรายงานด้วยว่าผู้ต้องขังอย่างน้อย 20 รายในคุกควบคุมเชลยฝ่ายอิสลามิกสเตท (ไอเอส) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย สามารถหลบหนีออกมาได้ ในเมื่อบริเวณดังกล่าวประสบเหตุแผ่นดินไหวกับวิกฤตอาฟเตอร์ช็อกหลายซีรีส์ จึงเกิดเหตุจลาจลนำไปสู่การแหกคุกได้จำนวนหนึ่ง
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา : เอพี เดอะซัน เดอะการ์เดียน )