พาไปรู้จักกับเมืองโบราณ “เอเฟซุส” มรดกโลกในตุรกี ที่ในอดีตเคยเจอแผ่นดินไหวใหญ่จน “ห้องสมุดเซลซุส” พังถล่ม ก่อนที่จะบูรณะขึ้นมาใหม่จนกลายเป็นไฮไลท์และหนึ่งในสัญลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของตุรกี
เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ตุรกีและซีเรีย เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งมหันตภัยทางธรรมชาติที่สะเทือนใจคนทั้งโลก
แผ่นดินไหวใหญ่ครั้งนี้เกิดขึ้นถึง 2 ครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน ครั้งแรกเกิดขึ้นเวลา 04.17 น. ตามเวลาท้องถิ่น มีศูนย์กลางอยู่ใกล้เมืองกาซีอันเท็พ (Gaziantep) จังหวัดทางตอนใต้ของตุรกี ที่มีพรมแดนติดกับซีเรีย โดยมีความรุนแรงขนาด 7.8 แมกนิจูด มีความลึกลงไปใต้ดิน 17.9 กิโลเมตร ส่วนครั้งที่ 2 เกิดขึ้น เวลา 10.24 น. ตามเวลาท้องถิ่น มีศูนย์กลางอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี มีขนาดความรุนแรง 7.5 แมกนิจูด
เหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ครั้งนี้ สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับตุรกีและซีเรีย โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการแล้ว กว่า 7,800 คน คน (ข้อมูลของเช้าวันที่ 8 ก.พ.66) เป็นผู้เสียชีวิตในตุรกี 5,894 คน และในซีเรียอีกราว 1,932 คน ซึ่งทางองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ออกโรงเตือนว่าอาจมีผู้เสียชีวิตใน 2 ประเทศรวมแล้วมากกว่า 20,000 คน เลยทีเดียว
แผ่นดินไหวรุนแรงอันดับ 2 ของตุรกี
สำหรับตุรกีหรือทูร์เคียเป็นหนึ่งใน ประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวได้ง่ายและบ่อยครั้งมาก เฉลี่ยแล้วแผ่นดินไหว 2 ปี ต่อ 1 ครั้ง เนื่องจากตั้งอยู่บนแผ่นเปลือกโลกอนาโตเลียน (Anatolian Plate)
โดยเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่เมื่อวันที่ 6 ก.พ.2023 ที่ขนาด 7.8 ถือว่ามีความรุนแรงเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ของประเทศ นับตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูลมา
ขณะที่เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุด (อันดับ 1) ในประวัติศาสตร์ของตุรกี (นับตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูล) เกิดขึ้น เมื่อเดือน ธันวาคม ปี ค.ศ.1939 ที่เมืองเอร์ซินจาน (Erzincan) ทางตะวันออกของตุรกี ซึ่งมีความรุนแรงถึง 8.0 แมกนิจูด ทำให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 32,968 ราย บาดเจ็บอีกนับแสนคน และอาคารบ้านเรือนพังเสียหายมากกว่า 160,000 แห่ง
สำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในตุรกี นับจากอดีตถึงปัจจุบันนอกจากจะคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมากแล้ว ยังสร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือน สถาปัตยกรรมต่าง ๆ อีกมากมาย ดังเช่น เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เมือง “เอเฟซุส” (Ephesus) ในศตวรรษที่ 10 ที่สร้างความเสียหายให้กับสถาปัตยกรรมสำคัญที่ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลก และไฮไลท์สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของตุรกี
เมืองโบราณเอเฟซุส
เมืองเอเฟซุส (Ephesus) หรือ “เอเฟส” (Efes) ตั้งอยู่ในจังหวัดอิซเมียร์ ประเทศตุรกี เป็นเมืองโบราณเก่าแก่ ที่แม้ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่ากำเนิดขึ้นในสมัยใด แต่นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 14 ก่อนคริสตกาล
จากนั้นอีกนับพันปีต่อมากรีกและโรมันได้เข้ายึดครองเมืองนี้ติดต่อกันตามลำดับ ทำให้เอเฟซุส ได้รับอารยธรรมของกรีกและโรมันไปเต็ม ๆ
ต่อมาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1 เมืองเอเฟซุสภายใต้การปกครองของโรมันเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก โดยเฉพาะในสมัยของจักรพรรดิ “ออกุสตุส ซีซาร์” (Augustus Caesar) ผู้มีชัยเหนือ “มาร์กุส อันโตนิอุส” (Marcus Antonius) หรือที่รู้จักกันในนาม “มาร์ก แอนโทนี” (Marc Antony) ชู้รักของพระนางคลีโอพัตรา (Clopatra) เอเฟซุสถูกสถาปนาเป็นเมืองหลวงอันยิ่งใหญ่ โดยมีจารึกระบุไว้ว่าเอเฟซุส เป็น “มหานครแห่งแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย”
แต่...เมื่อมีสูงสุดย่อมก็ย่อมมีวันเสื่อมถอย หลังจากนั้นเอเฟซุสก็ถูกทั้งไฟสงคราม โรคระบาด แผ่นดินไหว และกาลเวลากลืนกินจนสิ้นสภาพหายไป
กระทั่งในปี ค.ศ.1869 มีการขุดค้นทางโบราณคดี พบว่าหลายส่วนของเมืองโบราณแห่งนี้ ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ถึงสมบูรณ์มาก โดยเฉพาะสิ่งก่อสร้างในยุคกรีก-โรมัน
จากนั้นเอเฟซุสก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งในฐานะ “เมืองโบราณเอเฟซุส” แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศตุรกี ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกจำนวนมากปักหมุดไว้สำหรับทริปไปเยือน “แดนไก่งวง”
ห้องสมุดเซลซุส ไฮไลท์เมืองเอเฟซุส ที่เคยพังทลายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
ปัจจุบันเอเฟซุสเป็นหนึ่งในเมืองโบราณที่มีสภาพสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก (เทียบกับเมืองอื่นๆในยุคเดียวกัน) ในปี ค.ศ. 2015 องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศขึ้นทะเบียนเมืองโบราณเอเฟซุสเป็นมรดกโลก ซึ่งปัจจุบันที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศตุรกี
เมืองโบราณเอเฟซุสเต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งอารยธรรมกรีก-โรมันอันสุดคลาสสิคที่ยังคงอยู่คู่กับตุรกี ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันมากมายผ่านงานสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม รวมไปถึงผ่านทางความเชื่อต่าง ๆ
เมืองโบราณแห่งนี้ มีสิ่งน่าสนใจให้ชมกันอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
-“โรงละครเล็ก” หรือ “โอเดียน” (Odeon) ที่ตั้งตระหง่านโดดเด่น มีลักษณะโค้งครึ่งวงกลมไล่เสต็ปขึ้นไปให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปถ่ายรูปกันอย่างจุใจ
-“จัตุรัสโดมิเชียน” (Domitian) ที่มีสิ่งน่าสนใจหลากหลายให้ชมกัน อาทิ แท่นบูชาแบบโรมัน รูปสลักเฮอคิวลีส ประตูเฮราคลีส และ รูปสลักเทพธิดา “ไนกี” เทพีแห่งชัยชนะ ที่เป็นดาวเด่นของจัตุรัสแห่งนี้
-“ถนนคูเรตีส” (Curetes)เป็นถนนหลักกลางเมืองที่ทอดยาวลดระดับไปตามสภาพพื้นที่ ซึ่งบนถนนสายนี้มีวิหารฮาเดรียนเป็นจุดชวนชมสำคัญ
-“วิหารฮาเดรียน” (Hadrian) สร้างขึ้นราว ค.ศ. 138 ปัจจุบันเหลือเพียงส่วนด้านหน้าของอาคาร และรูปสลักต่าง ๆ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ นำโดยรูปสลัก “นางเมดูซ่า” ซึ่งเราสามารถจ้องมองได้ ไม่กลายเป็นหินแน่นอน
-“ห้องน้ำโบราณ” ห้องน้ำสาธารณะแบบโรมัน ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจกันมาก เพราะเป็นส้วมโล่ง ๆ มี “แป้นถ่าย” เป็นแผ่นหินเจาะรูพอเหมาะเรียงเป็นแถวติด ๆ กันให้นั่งถ่ายทุกข์กันแบบไม่มีการแบ่งชาย-หญิง แต่อย่างใด
-“โรงละคร” (Theater) อันยิ่งใหญ่อลังการ มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโรงละครโบราณในตุรกี เป็นโรงละครโค้ง มีลานแสดงตรงกลาง สามารถจุคนได้ กว่า 30,000 คน ซึ่งปัจจุบันยังคงสามารถใช้งานได้ดีอยู่
-“ห้องสมุดเซลซุส” (Celsus) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 117 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 125 ปัจจุบันด้านในห้องสมุดเหลือเพียงลานโล่ง ๆ
ในขณะที่ส่วนด้านหน้าของห้องสมุดที่ปัจจุบันมีสภาพดูค่อนข้างสมบูรณ์นั้น เป็นการบูรณะขึ้นมาใหม่ โดยครั้งหนึ่งห้องสมุดแห่งนี้ได้เคยถูกชาวกอธ (Goth) เผาทำลายในปี ค.ศ. 262 ทำให้ส่วนที่เป็นอาคารไม้ถูกทำลายหมด เหลือเพียงส่วนอาคารด้านหน้าที่สร้างจากหินอ่อนต่อมาในศตวรรษที่ 10 ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเมืองเอเฟซุส ทำให้อาคารห้องสมุดด้านหน้าพังทลายลงมา
จากนั้นในปี ค.ศ. 1970 ได้มีการบูรณะซ่อมแซมอาคารด้านหน้าของห้องสมุดเซลซุสขึ้นมาใหม่ มีลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้น โดดเด่นไปด้วยเสากรีกอันเป็นแบบแผนสวยงามตามรูปแบบสถาปัตยกรรมคลาสสิค มีทางเข้า 3 ช่องเป็นประตูโค้ง มีรูปเทพีสลักอย่างสวยงามตั้งประดับอยู่ทั้ง 2 ด้านซ้าย-ขวา และระหว่างบานประตูรวม 4 องค์ โดยแต่ละองค์สลักเสลาสวยงามน่ายลยิ่งนัก
ขณะที่ฝั่งตรงข้ามของห้องสมุดเป็นที่ตั้งสำนักนางโลมหรือ “ซ่องโสเภณี” โดยมีอุโมงค์ลับใต้ดินจากห้องสมุดเดินทะลุไปถึงกันได้ ซึ่งนี่ถือเป็นหนึ่งในซ่องนางโลมที่เก่าแก่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว
สำหรับห้องสมุดเซลซุสปัจจุบันนอกจากจะเป็นสถานที่ไฮไลท์สำคัญของเมืองโบราณเอเฟซุสแล้ว ยังเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของประเทศตุรกี ที่ครั้งหนึ่งเคยประสบชะตากรรมพังทลายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในตุรกี ซึ่งเราก็ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ตุรกีและซีเรีย เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2023
นอกจากนี้ยังภาวนาขอให้ฝันร้ายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็ววัน