ในปี 2023 นี้เทศกาลสุดยิ่งใหญ่ของเมืองเวนิส หวนคืนกลับมาอีกครั้งอย่างเต็มรูปแบบ มีผู้เข้าชมหลายพันคนเดินทางมาร่วมงานที่เต็มไปด้วยสีสัน ผู้ชมเรียงรายตามริมคลองและสะพานของแกรนด์คาแนลเพื่อชมการแสดงแสงสีอันสดใส และนักเต้นระบำสวมหน้ากากบนเรือหลายสิบลำ
โดยคอนเซปต์ของปีนี้ คือ 'Take your time for the Original sign' ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มดาวและจักรราศี
เทศกาลนี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณในศตวรรษที่ 11 จัดขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะของกองทัพเวเนเชียนที่มารวมตัวกันบริเวณจัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค และต่อมาก็กลายเป็นเทศกาลอย่างเป็นทางการ
ในช่วงศตวรรษที่ 18 ถือเป็นยุคที่รุ่งเรืองมากของการสวมหน้ากาก ผู้คนในสาธารณรัฐเวนิสสวมหน้ากากออกจากบ้านนานถึงปีละ 8 เดือน เมืองจะเต็มไปด้วยเสน่ห์ลึกลับน่าค้นหาเมื่อผู้คนไม่ว่ายากดีมีจนซ่อนหน้าตาสถานะของตนไว้ภายใต้หน้ากาก แลใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงแบบไม่ต้องแคร์ใคร
แต่ทว่าในช่วงเวลาหนึ่งเทศกาลนี้ กลายเป็นสิ่งต้องห้ามตามกฎจักรพรรดิโรมัน กลายเป็นเรื่องผิดกฎหมายในปี ค.ศ. 1797 คำสั่งโดยจักรพรรดิฟรานซิสที่ 2
จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1979 รัฐบาลอิตาลีตัดสินใจฟื้นฟูเทศกาลนี้กลับมาอีกครั้งเพื่อรักษาวัฒนธรรมโบราณให้คงอยู่กับเมืองเวนิส รวมทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว เทศกาลเวนิสคาร์นิวัลจึงกลับมาเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก่อนจะกลายเป็นงานเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่นิยมมากที่สุดงานหนึ่งของโลก
งานในปีนี้ จะจัดไปจนถึงวันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์
หน้ากากที่สวมในคาร์นิวัลของเวนิสแบ่งออกเป็นหลายประเภท ได้แก่
หน้ากากแบบ Commedia dell’Arte ซึ่งเป็นละครตลกในยุคศตวรรษที่ 16-18 ของอิตาลี จะเป็นหน้ากากที่ทำขึ้นตามตัวละครเช่นตัวตลกอย่าง ฮาร์เลควิน กับ ปิเอโรต์
หน้ากากแฟนตาซี ประดิษฐ์ขึ้นตามจินตนาการของช่างทำหน้ากาก ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะการออกแบบในประวัติศาสตร์
หน้ากากแบบดั้งเดิมของชาวเวนิส เช่น หน้ากากขาวปลายแหลมคล้ายปากนก ซึ่งเป็นหน้ากากที่พวกหมอเคยใช้ในสมัยที่กาฬโรคระบาดครั้งใหญ่ช่วงศตวรรษที่ 14 และจะใส่สมุนไพรเอาไว้ที่ปลายแหลม
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline