xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) กู้ภัยดึงเด็ก 3 ขวบขึ้นจากกองหักพังที่ตุรกี ขณะทารกเพิ่งคลอดรอดตายปาฏิหาริย์ที่ซีเรีย ท่ามกลางตัวเลขดับจากแผ่นดินไหวพุ่งทะลุ 11,000 แล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชายผู้หนึ่งอุ้มร่างของเด็กทารกที่ดึงขึ้นมาจากกองปรักหักพังในเมืองฮาริม ในพื้นที่ของพวกกบฎที่จังหวัดอิดลิบ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ซึ่งติดต่อกับตุรกี เมื่อวันพุธ (8 ก.พ.) ทั้งนี้ยอดผู้เสียชีวิตของแผ่นดินไหวในตุรกี-ซีเรียคราวนี้พุ่งขึ้นทะลุหลัก 11,000 คนแล้ว
ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ของตุรกีติดต่อกับซีเรีย พุ่งทะลุหลัก 11,000 คนแล้วในวันพุธ (8 ก.พ.) ถือเป็นเหตุธรณีพิโรธซึ่งทำให้มีคนตายสูงที่สุดของโลกในรอบระยะเวลากว่าสิบปี และขณะที่มีเรื่องราวซึ่งสร้างความปลื้มปีติ อย่างการช่วยเหลือทารกแรกคลอดที่ยังมีชีวิตอยู่ออกมาจากกองซากปรักหักพังได้ราวกับปาฏิหาริย์ แต่ความหวังโดยรวมในการค้นหาผู้รอดชีวิตกำลังลดต่ำลงไปเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่ผ่านพ้นไป โดยส่วนหนึ่งเนื่องมาจากอากาศที่หนาวยะเยือก ถึงแม้พวกทีมกู้ภัยยังคงพยายามค้นหาสัญญาณชีพท่ามกลางอาคารเป็นพันๆ หลังซึ่งทลายลงมา







ประธานาธิบดีเรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน ของตุรกี ซึ่งเมื่อวันพุธ ออกไปเยี่ยมพวกผู้ประสบภัยที่ต้องพำนักกันตาม “เมืองเต็นท์” ในเมืองคาห์รามันมารัส อันเป็นบริเวณหนึ่งซึ่งประสบความสูญเสียหนักหน่วงที่สุด แถลงว่า เฉพาะในตุรกี ตัวเลขผู้เสียชีวิตผ่านหลัก 8,500 คนไปแล้ว ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของซีเรียระบุว่าจำนวนผู้วายชนม์จากแผ่นดินไหวคราวนี้ในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งรัฐบาลครอบครองอยู่ผ่านพ้นหลัก 1,200 คน ส่วนหน่วย “หมวกเหล็กสีขาว” ที่เป็นกลุ่มอาสาสมัครกู้ภัยในพื้นที่ของฝ่ายกบฏซีเรีย บอกว่าจำนวนคนตายในพื้นที่ของพวกเขาเวลานี้มีอย่างน้อยที่สุด 1,400 คน

เมื่อบวกกันแล้วตัวเลขรวมในตอนนี้จึงทะลุ 11,000 คนนับตั้งแต่ที่เกิดแผ่นดินไหวความรุนรแงระดับ 7.8 ครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ (6) แล้วต่อมายังเกิดการสั่นสะเทือนรุนแรงถึง 7.5 ในวันเดียวกัน ตลอดจนมีอาฟเตอร์ช็อกที่มีความรุนแรงมากอีกหลายๆ ครั้ง

แผ่นดินไหวครั้งใกล้ปัจจุบันที่สุดซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียหนักหน่วงกว่านี้ คือเมื่อปี 2011 ที่ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ในทะเลใกล้ๆ ญี่ปุ่น จนทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิซัดเข้าแดนอาทิตย์อุทัย โดยคราวนั้นมีผู้เสียชีวิตไปเกือบๆ 20,000 คน

เจ้าหน้าที่ชาวซีเรียหลายคนเผยว่า มีศพของชาวซีเรียกกว่า 100 คนซึ่งตายในเขตตุรกีขณะเกิดแผ่นดินไหวคราวนี้ ถูกลำเลียงกลับบ้านเพื่อฝัง มาเซน อัลลูช เจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งที่อยู่ทางฟากซีเรียของชายแดนกล่าวว่า ยังมีอีก 20 กว่าศพซึ่งกำลังอยู่ระหว่างทาง พร้อมบอกด้วยว่าพวกเขาเหล่านี้ทั้งหมดคือผู้ลี้ภัยซึ่งหลบหนีสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นในซีเรียมาหลายปีแล้ว

หลังจากอุบัติเหตุผ่านพ้นไปกว่า 2 วัน กำลังมีความวิตกกังวลกันเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับชะตากรรมของพวกที่ยังติดอยู่ในกองปรักหักพัง ถึงแม้มีเรื่องราวการช่วยเหลือกู้ภัยหลายๆ เรื่องซึ่งทำให้เกิดความหวัง ดังกรณีทารกรายหนึ่งที่ถูกดึงออกจากซากปรักหักพังในซีเรีย ในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่เมื่อวันจันทร์ (7) ขณะสายสะดือยังคงติดกับผู้เป็นแม่ที่วายชนม์ไปแล้วเนื่องจากแผ่นดินไหว

"เราได้ยินเสียงตอนที่เราขุดลงไป" คาลิล อัล-ซูวาดี ญาติคนหนึ่งเปิดเผยกับเอเอฟพี "เราเคลียร์ฝุ่นและพบทารกพร้อมกับสายสะดือ (ในสภาพสมบูรณ์) ดังนั้นเราจึงตัดมันและลูกพี่ลูกน้องของผมได้พาตัวหนูน้อยส่งโรงพยาบาล"

ทารกเพศหญิงรายนี้เป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวของครอบครัว ส่วนที่เหลือเสียชีวิตในเมืองจินเดย์ริส ที่อยู่ใต้การยึดครองของฝ่ายกบฏในซีเรีย

ในเมืองคาห์รามันมารัส ของตุรกี พวกเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็สามารถดึงเอาเด็กชายวัย 3 ขวบ ชื่อ อาริฟ คาน ออกมาจากกองหักพังได้สำเร็จ

“สำหรับตอนนี้ ชื่อที่ก่อให้เกิดความหวังในคาห์รามันมารัส ก็คือ อาริฟ คาน” ผู้สื่อข่าวของโทรทัศน์ตุรกีผู้หนึ่งประกาศ ขณะเรื่องราวการช่วยเหลืออย่างน่าตื่นตาตื่นใจคราวนี้ได้รับการถ่ายทอดออกอากาศไปทั่วประเทศ

การสร้างเรื่องปลุกปลอบใจให้เกิดความหวังเช่นนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางเสียงเรียกร้องรัฐบาลตุรกีให้จัดส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ประสบภัย ขณะที่ประธานาธิบดีแอร์โดอัน กล่าวยอมรับขณะอยู่ที่เมืองคาห์รามันมารัส ว่าการตอบรับสถานการณ์ของภาครัฐในช่วงแรกๆ ที่เกิดเหตุธรณีพิโรธคราวนี้ถือว่ามีปัญหา แต่ก็กล่าวว่าสิ่งต่างๆ ได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นแล้ว

เขาประกาศว่า ไม่มีใครที่จะ “ถูกทอดทิ้งเอาไว้ในถนน” โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือ

ทั้งนี้แผ่นดินไหวคราวนี้เกิดขึ้นในจังหวะเวลาที่ยากลำบากสำหรับนักการเมืองเก่ามากประสบการณ์อย่างแอร์โดอัน เนื่องจากตุรกีกำหนดจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในเดือนพฤษภาคมนี้ ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่จากปัญหาเงินเฟ้อหนัก ก็ทำให้คะแนนเสียงของเขาไม่สู้ดีอยู่แล้ว

ทางด้านทีมค้นหาที่เวลานี้มาจากกว่า 20 ประเทศได้เข้าร่วมกับบุคลากรฉุกเฉินของท้องถิ่นจำนวนหลายหมื่นคน ในการกู้ภัยค้นหาผู้รอดชีวิตตลอดจนให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่ความช่วยเหลือต่างๆ จากนานาชาติทั่วโลกก็หลั่งไหลเข้ามา อย่างไรก็ตาม จากขนาดของความเสียหายและอาฟเตอร์ช็อกแรงๆ ที่เกิดขึ้นมาเป็นระยะๆ รวมทั้งพื้นที่ประสบภัยซึ่งกระจายกว้าง ตลอดจนในหลายๆ บริเวณในซีเรียนั้นตกอยู่ในสภาพโดดเดี่ยวจากสงครามกลางเมืองที่ยังไม่ยุติ ทำให้ยังมีผู้คนจำนวนมากรอคอยความช่วยเหลือที่ยังไปไม่ถึง

พวกเจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เครื่องขุดเจาะอยู่เป็นระยะๆ ขณะที่คนอื่นๆ เลือกลุยผ่านกองปรักหักพังเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตหรือร่างผู้เสียชีวิต แต่จากอาคารเป็นพันๆ หลังที่พังลงมา ทำให้ไม่เป็นที่ชัดเจนว่ายังคงมีคนติดอยู่ใต้กองซากซีเมนต์อิฐหินมากน้อยเพียงใด

ในเมืองมาลัตยา ของตุรกี ศพจำนวนมากที่ห่อด้วยผ้าห่ม ถูกนำขึ้นมาวางเรียงรายบนพื้นดิน ขณะเจ้าหน้าที่รอรถขนศพมาลำเลียงออกไป ตามปากคำของ โอเซล ปิคัล อดีตนักหนังสือพิมพ์ผู้หนึ่ง ซึ่งเล่าว่า ได้เห็นศพจำนวน 8 ศพถูกดึงขึ้นมาจากกองหักพังของอาคารหลังหนึ่ง

ปิคาล ที่เข้าร่วมในความพยายามกู้ภัยด้วย กล่าวว่าเขาเชื่อว่ามีเหยื่อบางคนหนาวตาย ขณะที่อุณหภูมิดำดิ่งลงสู่ระดับ ลบ 6 องศาเซลเซียส

(ที่มา: เอพี, เอเอฟพี, เอเจนซีส์)


กำลังโหลดความคิดเห็น