แตกกันเสียแล้ว?? ยูเครนสับสนเรื่องเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีกลาโหม สะท้อนความไม่ลงรอยกันในหมู่ชนชั้นนำของเคียฟ

ยูเครนปล่อยข้อมูลข่าวสารที่ยังสับสนไม่มีความแน่นอนเมื่อวันจันทร์ (6 ก.พ.) เกี่ยวกับชะตากรรมของรัฐมนตรีกลาโหม ทำให้ตำแหน่งที่ทรงความสำคัญมากในการทำสงครามกับรัสเซียตำแหน่งนี้ ตกอยู่ในความปั่นป่วนผันผวน ขณะที่เคียฟเองเร่งประโคมข่าวว่าต้องรีบรับมือกับการรุกใหญ่ระลอกใหม่ของมอสโก

การที่คำถามเกี่ยวกับรัฐมนตรีกลาโหม โอเลคซีย์ เรซนิคอฟ ถูกปล่อยค้างเอาไว้อย่างไม่มีความแน่นอนเช่นนี้ ถือเป็นสัญญาณปรากฎต่อสาธารณชนครั้งแรกของความปั่นป่วนร้ายแรงในคณะผู้นำยามสงครามของยูเครน ซึ่งจวบจนถึงเวลานี้ได้แสดงออกซึ่งความสามัคคีกันอย่างโดดเด่นตลอดช่วงเลาเกือบๆ 1 ปีของการรับมือกับการโจมตีทางทหารอย่างหนักหน่วงของฝ่ายรัสเซีย

หนึ่งวันหลังประกาศออกมาว่า เรซนิคอฟ จะถูกโยกย้ายออกไป เดวิด อาราคาเมีย พันธมิตรระดับท็อปคนหนึ่งของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี้ ก็ดูเหมือนถอยหลังกลับอย่างน้อยที่สุดก็ในเวลานี้ โดยพูดใหม่ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวบุคลากรในด้านกลาโหมของประเทศในสัปดาห์นี้

อาราคาเมีย ซึ่งเป็นหัวหน้าของกลุ่มสมาชิกรัฐสภาที่สังกัดพรรคของเซเลนสกี้ ได้ระบุก่อนหน้านี้ว่า คีรีโล บูดานอฟ เจ้ากรมการข่าวกรองทหาร จะมาเป็นรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ ขณะที่ตัวเรซนิคอฟจะไปกินตำแหน่งรัฐมนตรีอุตสาหกรรมทางยุทธศาสตร์

แต่ปรากฏว่าตัวเซเลนสกี้เองยังคงเงียบเฉยในประเด็นนี้ และเรซนิคอฟออกมาพูดในวันอาทิตย์ (5) ว่าเขาไม่เคยได้รับแจ้งมาก่อนเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวใดๆ ในเรื่องนี้เลย รวมทั้งเขายังปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งด้านอุตสาหกรรมทางยุทธศาสตร์ด้วย ถ้าหากได้รับข้อเสนอเช่นนี้จริง

ความสับสนคราวนี้บังเกิดขึ้นหลังจากช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เซเลนสกี้ ได้ดำเนินการกำจัดกวาดล้างคณะผู้นำของเคียฟครั้งใหญ่ ซึ่งถือเป็นการปรับปรุงครั้งมโหฬารที่สุดนับแต่ที่รัสเซียรุกราน ทั้งนี้มีพวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคถูกถอดออกจากตำแหน่ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงถูกส่งไปบุกค้นบ้านของอภิมหาเศรษฐีผู้หนึ่งซึ่งเคยได้ชื่อว่าสนิทสนมกับเซเลนสกี้ ด้านพนักงานอัยการก็ประกาศข่าวคดีทุจริตมหึมาในบริษัทน้ำมันและโรงกลั่นรายใหญ่ที่สุดของประเทศ แล้วยังมีอดีตเจ้าหน้าที่ยูเครนหลายรายถูกสั่งเพิกถอนสัญชาติ

เซเลนสกี้พยายามพูดโน้มน้าวว่าการปราบปรามกวาดล้างเช่นนี้ถือเป็นโอกาสสำหรับการสาธิตว่า เคียฟสามารถที่จะดูแลรักษาเงินช่วยเหลือมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์จากฝ่ายตะวันตกได้อย่างปลอดภัย ทว่ามันก็มีความเสี่ยงที่จะสั่นคลอนเสถียรภาพของคณะผู้นำหลังจากระยะเวลาร่วม 1 ปีที่ชนชั้นทางการเมืองของเคียฟรวมพลังกันได้อย่างเหนียวแน่นในการต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย

เวลาเดียวกัน เคียฟก็ออกข่าวว่ากองกำลังฝ่ายรัสเซียกำลังรุกคืบหน้าเข้ามาได้เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนในสมรภูมิที่สู้รบกันอย่างดุเดือดในภาคตะวันออก โดยที่ เซอร์ฮีย์ ไกได ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกของยูเครน เพิ่งออกมาพูดทางทีวีว่า รัสเซียกำลังส่งทั้งกำลังพลสำรองและอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าไปยังอาณาบริเวณดังกล่าว โดยเวลานี้กองทหารรัสเซียไม่ได้ระดมยิงปืนครกปืนใหญ่และจรวดหลายลำกล้องตลอด 24 ชั่วโมงอีกแล้ว แต่กำลังเตรียมตัวสำหรับการเปิดการรุกขนาดใหญ่ ซึ่ง ไกได บอกว่าอาจจะเป็นเวลาไหนก็ได้หลังจากวันที่ 15 ก.พ.ไปแล้ว

พันธมิตรตะวันตกไว้วางใจ

เรซนิคอฟ ซึ่งเวลานี้อายุ 56 ปี เป็นทนายความโดยอาชีพ เขากลายเป็นหน้าตาของยูเครนในการประชุมระหว่างประเทศหลายๆ ครั้ง เมื่อพวกชาติพันธมิตรให้คำมั่นที่จะจัดส่งอาวุธมูลค่าหลายพันหลายหมื่นล้านดอลลาร์ไปให้ และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเป็นมิตรในเมืองหลวงต่างๆ ของฝ่ายตะวันตก เป็นต้นว่าที่ปารีส ซึ่งเขาเพิ่งเดินทางไปเยือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี้เอง

ถึงแม้กระทรวงกลาโหมยูเครนถูกสอบสวนเรื่องการคอร์รัปชั่น โดยเฉพาะข้อกล่าวหาที่ว่าทางกระทรวงลงนามจัดซื้ออาหารมาเลี้ยงทหารในราคาที่แพงเว่อ แต่ตัวเรซนิคอฟไม่ได้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดใดๆ

ระหว่างประกาศก่อนหน้านี้เรื่องแผนเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีกลาโหม อาราคาเมียระบวา กองทัพยูเครนในยามสงครามควรได้รับการกำกับดูแลจากผู้ที่มีภูมิหลังด้านกลาโหมหรือความมั่นคง “สงครามบงการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในนโยบายบุคลากร” เขาเขียนเช่นนี้ทางแอปเทเลแกรม

ทว่า มีไคโล โปโดลยัค ที่ปรึกษาของเซเลนสกี้ ออกมาย้ำเมื่อวันอาทิตย์ว่า พวกชาติพันธมิตรเคารพยกย่องเรซนิคอฟ เขาเป็นผู้มีประสิทธิผลอย่างยิ่งในการติดต่อสื่อกับพวกพันธมิตร

“การเจรจาใดๆ ไม่ไช่เป็นเพียงเรื่องของสูตรทางคณิตศาสตร์ แต่ยังเป็นความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และความไว้วางใจ โชคร้าย วันนี้พวกเรากำลังสูญเสียความไว้วางใจในตัวพวกเขาไปมากทีเดียว” โปโดลยัค บอก

(ที่มา: รอยเตอร์)