xs
xsm
sm
md
lg

‘แฮร์รี’โปรโมทหนังสือ SPARE ให้สัมภาษณ์ทีวีถล่มวังอังกฤษว่าไม่เต็มใจสมานฉันท์ - ‘วิลเลียม’โดนหนักสุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์อังกฤษไม่ค่อยอยากจะวาดหวังว่า ในหนังสือบันทึกความทรงจำของเจ้าชายแฮร์รี เรื่อง SPARE ที่จะวางแผงกันวันอังคารหน้า (10 มกราคม 2023) จะมีการนำเสนอหัวข้อการแฉพระราชวงศ์อังกฤษในแชปเตอร์ใหม่ๆ ที่จะได้ซี้ดซ้าดแซ่บกัน โดยคาดกันว่าอย่างเก่งที่สุดคงจะเป็นเพียงการเพิ่มเติทรายละเอียดให้แก่ข้อกล่าวหาเดิมๆ กระนั้นก็ตาม มีการปล่อยข่าวว่า SPARE อาจมีรายละเอียดเพื่อโจมตีเจ้าฟ้าชายวิลเลียมผู้เป็นพระเชษฐา มากกว่าใคร เพราะขัดแย้งหมางใจกันหนักหนา ในเวลาเดียวกัน ข่าวที่ปล่อยกันออกมา บอกด้วยว่าสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ผู้ทรงเป็นพระราชบิดาของเจ้าชายแฮร์รี จะไม่ถูกพระราชโอรสตั้งข้อกล่าวหาถล่มอย่างดุเดือดหรือรุนแรง
เปิดปีใหม่ - เปิดโจมตีรอบใหม่ เจ้าชายแฮร์รี พระราชโอรสพระองค์เล็กของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรทรงเปิดศักราช 2023 ด้วยการเชือดเฉือนครอบครัวของพระองค์ครั้งล่าสุดผ่านการประทานสัมภาษณ์ออกโทรทัศน์ช่องไอทีวีของอังกฤษ ควบคู่กับช่องซีบีเอสของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเรื่องนี้เป็นกิจกรรมส่งเสริมการขายหนังสือบันทึกความทรงจำ ชื่อเรื่องว่า SPARE ที่มีกำหนดวางแผงอย่างแน่นอน ณ อังคาร 10 มกราคม 2023 ขณะที่บทสัมภาษณ์เวอร์ชั่นแฉหมดเปลือกเพื่อโปรโมทหนังสือจะออกอากาศในช่วงสองวันก่อนที่ SPARE จะลงแผงพรึ่บ หรือก็คือ วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม 2023

เทรลเลอร์ของคลิปสัมภาษณ์ถูกปล่อยออกมาแล้วเมื่อวันปีใหม่ 1 มกราคม เป็นที่ฮือฮาของท่านผู้ชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่มุมที่ว่า เมื่อทรงถล่มทะลวงพระราชวงศ์อันเป็นครอบครัวของพระองค์จนกระทั่งเยินยู่ยี่แล้ว ดยุกแห่งซัสเซกซ์ทรงหักมุมมากล่าวว่า พระองค์ต้องการพระราชบิดาและพระเชษฐากลับคืนมาเป็นดั่งเดิม เดอะซัน สื่อหัวสีค่ายยักษ์รายงาน

ในอันที่จะโปรโมทหนังสือ SPARE เจ้าชายแฮร์รีทรงประทานสัมภาษณ์แฉหมดเปลือกแก่สองสถานีโทรทัศน์เจ้ายักษ์ระดับโลก ได้แก่ รายการของทอม แบรดบีแห่งไอทีวีของอังกฤษ และรายการ 60มินิตส์ โดย แอนเดอร์สัน คูเปอร์ แห่งซีบีเอสของสหรัฐอเมริกา

เทรลเลอร์จากทั้งสองค่ายถูกปล่อยออกมาอย่างห้าวเป้งดุดัน โดยในส่วนของไอทีวี เจ้าชายแฮร์รีกล่าวหาว่าพระราชตระกูลของพระองค์ “ไม่แสดงความเต็มใจจะสมานฉันท์” นอกจากนั้น เจ้าชายแฮร์รียังกล่าวหาว่าพระญาติของพระองค์ทรงปล่อยข่าวเล่นงานพระองค์ ตลอดจนพระชายาเมแกน เดอะซันนำเสนออย่างนั้น

ยิ่งกว่านั้น พระราชโอรสกษัตริย์ผู้ปราศจากคำนำหน้าพระนามว่า His Royal Highness (HRH) ยังทรงกล่าวกับแอนเดอร์สัน คูเปอร์ แห่งรายการ 60มินิตส์ ในทางด้อยค่านโยบายของอดีตสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่ว่า “ไม่มีการบ่น ไม่มีการอธิบาย” โดยเจ้าชายแฮร์รีพูดว่านโยบายดังกล่าว “เป็นแค่คำขวัญ”

พร้อมกันนี้ ปรินซ์แฮร์รีเชือดเฉือนพระราชตระกูลด้วยข้อกล่าวหาว่า พระราชตระกูลปล่อยข่าวไปยังสื่อมวลชนเพื่อเล่นงานพระองค์และพระชายาเมแกน และทรงโจมตีด้วยข้ออ้างว่าพระราชตระกูลไม่ช่วยปกป้องพระองค์กับพระชายา อีกทั้งยังปล่อยประโยคติเตียนจาบจ้วงว่าการที่พระราชตระกูลเลือกที่จะนิ่งเงียบ (ไม่ออกโรงโต้กับสื่อมวลชน) เป็นการทรยศ

ใช่แต่เท่านั้น ดยุกแห่งซัสเซกซ์โวยด้วยว่าพระองค์กับพระชายาเมแกนถูกป้ายสีให้เป็น “ตัวผู้ร้าย”

อย่างไรก็ตาม ในบทสัมภาษณ์ชุดใหม่ที่เจ้าชายแฮร์รีประทานสัมภาษณ์แก่ทีวีอังกฤษและทีวีสหรัฐฯ เพื่อโปรโมทหนังสือบันทึกความทรงจำ พระองค์ก็ทรงหักมุมมาบอกว่าพระองค์ปรารถนาจะได้เสด็จพ่อและเสด็จพี่ของพระองค์กลับคืนมาเป็นดั่งเดิม แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์อังกฤษต่างไม่เชื่อ เดอะซันรายงาน

ภาพบรรยากาศการสนทนาระหว่างเจ้าชายแฮร์รีกับ ทอม แบรดบี พิธีกรรายการนิวส์ฟรอนท์แมนแอนด์พัล ของสถานีไอทีวีในอังกฤษ ซึ่งข่าวบอกว่าคลิปสัมภาษณ์ที่จะนำออกอากาศมีความยาวทั้งสิ้น 90 นาที ทางช่องไอทีวีของอังกฤษ
“ผมต้องการครอบครัว ผมไม่ต้องการสถาบัน”

การเชือดเฉือนพระเกียรติยศแห่งพระราชตระกูล แล้วมาบอกว่าอยากให้ความสัมพันธ์กับเสด็จพ่อตลอดจนเสด็จพี่ กลับมาดีดั่งเดิม ทำเอาบรรดาผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์มึนตึ้บ ทั้งนี้ แหล่งข่าววงในของเดอะซันกล่าวว่า “ยื่นกิ่งโอลีฟเพื่อสมานฉันท์ พร้อมกับย่ำยีพระราชตระกูล เป็นวิธีสร้างความปรองดองที่ประหลาดทีเดียว”

สำหรับบทสัมภาษณ์ที่ทรงประทานให้กับแอนเดอร์สัน คูเปอร์ แห่งรายการ 60มินิตส์ ของสถานีซีบีเอสในสหรัฐฯ มีความยาว 60 นาที ส่วนบทสัมภาษณ์ที่ให้กับทอม แบรดบี แห่งรายการนิวส์ฟรอนท์แมนแอนด์พัล ของสถานีไอทีวีในอังกฤษ มีความยาว 90 นาที

ค่ายไอทีวีได้ปล่อยเทรลเลอร์ทีเด็ดของบทสัมภาษณ์ออกมาระลอกหนึ่งแล้ว ซึ่งเจ้าชายแฮร์รี ราชนิกูลอังกฤษวัย 38 พรรษา ทรงตำหนิติเตียนไปถึงพระราชสำนักบัคกิงแฮมว่า

“มันไม่จำเป็นจะต้องออกมาเป็นแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยข่าวหลุดข่าวรั่วและการสร้างเรื่องโกหกต่างๆ ไปให้สื่อมวลชนทำข่าว ผมแค่ต้องการครอบครัว ผมไม่ได้ต้องการสถาบันกษัตริย์ แต่พวกนั้นคอยแต่จะทำให้พวกเราเป็นผู้ร้าย พวกนั้นไม่เคยเต็มใจจริงๆ ที่จะสร้างความสมานฉันท์ ผมอยากได้เสด็จพ่อกลับคืนมา ผมอยากได้เสด็จพี่กลับคืนมา”

พร้อมนี้ ปรินซ์แฮร์รีทรงบอกว่า “ผมต้องการครอบครัว ผมไม่ได้ต้องการสถาบัน”

ทั้งหลายทั้งปวงของการกล่าวโทษโจมตียังไม่ชัดเจนว่า ประโยคของเจ้าชายแฮร์รีที่ว่า “พวกเขารู้สึกราวกับว่าเป็นการดีที่จะทำให้พวกผมเป็นตัวผู้ร้าย” นั้น ปรินซ์ทรงหมายถึงสื่อมวลชนหรือหมายถึงพระราชวงศ์

ทั้งนี้ ดยุกแห่งซัสเซกซ์ทรงกรีดความรู้สึกของพระญาติอย่างรุนแรงเมื่อทรงกล่าวหาว่า “พวกนั้นไม่ได้แสดงความเต็มใจที่จะสมานฉันท์เลย” ในเมื่อทรง“รุนแรง”ถึงปานนี้ ประโยคงดงามที่ว่าผมอยากได้เสด็จพ่อกลับคืนมา ผมอยากได้เสด็จพี่กลับคืนมา จะเหลือคุณค่าอันใด

แหล่งข่าวใกล้ชิดสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์บอกกับเดอะซันว่า “ประตูยังเปิดรอ” ไว้ให้เจ้าชายแฮร์รี “ผู้ซึ่งยังทรงเป็นพระราชโอรสที่รักยิ่ง” ในเวลาเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าฟ้าชายวิลเลียมกับพระอนุชานั้นเปราะบางอย่างยิ่ง “ประหนึ่งจะแขวนอยู่บนเส้นด้าย”

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ เป็นสุดยอดพระราชบิดาผู้อดทนและเปี่ยมเมตตาต่อพระราชโอรส พระองค์ทรงระมัดระวังที่จะไม่ตามใจจนเกินไป แต่ขณะเดียวกันพระองค์ทรงเปิดประตูรอต้อนรับเจ้าชายแฮร์รี เมื่อพระราชโอรสผู้เป็นที่รักยิ่งสามารถเข้าใจในความรักของพ่อ และพร้อมแก่การเริ่มต้นกันใหม่

ในหนังสือบันทึกความทรงจำ เจ้าชายแฮร์รีจะเล่าถึงความรักความผูกพันที่ทรงมีกับเจ้าหญิงไดอานา ผู้เป็นพระมารดา นอกจากนั้น พระองค์ทรงให้สัมภาษณ์ด้วยว่า ทรงปรารถนาที่จะได้เสด็จพ่อและเสด็จพี่กลับคืน
“จะมีข่าวหลุดข่าวรั่ว และการสร้างเรื่องเท็จไปให้สื่อมวลชน ซึ่งทำให้ผมและพระชายาเสียหาย”

ความร้อนแรงปรอทแตกแห่งถ้อยคำของเจ้าชายแฮร์รี ยังสร้างความร้าวรานขึ้นไปอีก เมื่อทรงตอบคำถามของแอนเดอร์สัน คูเปอร์ แห่ง 60มินิตส์ของซีบีเอส ว่าในเมื่อพระองค์ประกาศตอนที่ลาออกจากพระราชกิจแห่งสำนักพระราชวัง ทรงบอกว่าต้องการความเป็นส่วนตัว แล้วไฉนจึงทรงเข้าไปหาสื่อมวลชนและนำเรื่องในครอบครัวพระราชวงศ์ไปเล่าสู่สาธารณชนครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งนี้ เจ้าชายแฮร์รีตอบว่า “ทุกๆ คราที่ผมพยายามจะดำเนินการเป็นการภายใน ก็จะต้องเกิดข่าวหลุดข่าวรั่ว และการสร้างเรื่องเท็จไปให้สื่อมวลชนทำข่าว ซึ่งทำให้ผมและพระชายาเสียหาย”


เชิญชมเทรลเลอร์ความยาว 60 วินาที ที่มุ่งจะกระตุ้น ‘ต่อมอยาก’ ของประชาชนให้ไปติดตามชมคลิปบทสัมภาษณ์เรื่องหนังสือแฉหมดเปลือก(บันทึกความทรงจำของเจ้าชายแฮร์รี) โดยเป็นบทสัมภาษณ์ที่เจ้าชายประทานแก่รายการ 60มินิตส์ของสถานีโทรทัศน์ของซีบีเอส สหรัฐอเมริกา ในเทรลเลอร์นี้เจ้าชายทรงเปิดพระทัยถึงสาเหตุที่พระองค์ทรงหมั่นเข้าหาสื่อมวลชน และนำเรื่องในครอบครัวพระราชวงศ์ไปเล่าให้สาธารณชนรับทราบครั้งแล้วครั้งเล่า

“คุณทราบมั้ย คำขวัญในพระราชวงศ์มีอยู่ว่า ‘ไม่มีการบ่น ไม่มีการอธิบาย’ แต่นั่นเป็นแค่คำขวัญ” ดยุกแห่งซัสเซกซ์กล่าวกับแอนเดอร์สัน คูเปอร์ ไปอย่างนั้น พร้อมกับตั้งข้อกล่าวหาว่าในพื้นที่หลังไมค์ มีการบ่นและการอธิบายตลอดจนการสรุปข้อมูลไปยังสื่อมวลชนเสมอๆ ในแบบที่ว่า “ไม่จบไม่สิ้น”

เจ้าชายแฮร์รีพูดในรายการ 60มินิตส์ของค่ายซีบีเอสของ สหรัฐฯ ด้วยว่า “พวกนั้นจะป้อนข้อมูลหรือไม่อย่างนั้นก็นั่งสนทนากับผู้สื่อข่าว แล้วผู้สื่อข่าวก็นำไปเขียนสกู๊ปเขียนข่าวตามนั้น และไปลงท้ายเรื่องว่าพวกเขาติดต่อไปยังพระราชวังบัคกิงแฮมเพื่อขอคอมเมนต์

“แต่อันที่จริงคือข่าวและสกู๊ปทั้งหมดนั่นก็คือคอมเมนต์จากพระราชวังบัคกิงแฮมล่ะครับ”

เจ้าชายแฮร์รีให้สัมภาษณ์ราวกับว่านักข่าวเป็นเผ่าพันธุ์ที่หัวอ่อน ว่าได้ ใช้งานได้ และราวกับว่าตลอดหลายๆ สิบปีที่ผ่านมา สถาบันพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ไม่ได้อยู่ในแรงกดดัน การวิจารณ์ และการตรวจสอบของสื่อมวลชนราวกับจะถอนหงอกกันเลยทีเดียว

ปรินซ์ผู้ทรงเป็นนักสาวไส้ให้กากิน ทำการสรุปกลับมาที่ปัญหาส่วนตัวของพระองค์ว่า “เสร็จแล้วผมกับพระชายาก็ถูกบอกตลอด 6 ปีว่า ‘เราไม่สามารถออกคำแถลงเพื่อปกป้องเธอกับเมแกนได้’”

เจ้าชายแฮร์รีกล่าวในคำให้สัมภาษณ์อย่างนั้น โดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์จริงว่าเอกสารแถลงการณ์จากพระราชวังบัคกิงแฮมหนึ่งแผ่นไม่สามารถหยุดยั้งการปฏิบัติงานของสื่อมวลชนได้ และหากฝืนข้อเท็จจริงนี้ ประเด็นที่ถูกตรวจสอบขุดคุ้ยก็จะยืดยาวและขยายใหญ่ร้อนแรงโดยไม่จำเป็น ทั้งนี้สื่อมวลชนจะตรวจสอบพระราชนิกูลอย่างไม่ลดราวาศอกกันจริงจังอย่างเหลือเกิน เพราะสื่อมวลชนมิใช่ผู้ที่จะยอมรับคำสั่งหรือคำร้องขอจากพระราชวงศ์ ดังเห็นได้จากหลากหลายกรณี อาทิ กรณีสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 กับคุณนายวอลลิส ซิมป์สัน ที่ส่งผลให้คิงเอ็ดเวิร์ดต้องยอมสละพระราชบัลลังก์ไปในที่สุด

ดยุกแห่งซัสเซกซ์ทรงประทานความรักอันลึกซึ้งแก่พระชายาเมแกน ทุกสิ่งอย่างที่ดัชเชสเมแกนปรารถนา พระองค์จะพยายามตอบสนอง แต่เมื่อมาถึงเรื่องปมปัญหาที่ดัชเชสปีนเกลียวกับสื่อมวลชน ตลอดจนยอมรับไม่ได้กับนโยบายของพระราชสำนักที่จะไม่โต้ตอบกับนักข่าว ดยุกจึงทรงเรียกร้องให้พระราชสำนักช่วยแก้ปัญหา แต่ดยุกไม่ประสบความสำเร็จ ความสัมพันธ์ที่มีพระราชวงศ์จึงย่ำแย่มากขึ้นเรื่อยๆ และลงเอยเป็นการตัดสินพระทัยที่จะก้าวออกจากการปฏิบัติพระกรณียกิจของพระราชสำนัก ตลอดจนลาจากประเทศอังกฤษ ไปประทับอยู่ในสหรัฐฯ
การนิ่งเงียบของพระราชสำนักถูกปรินซ์แฮร์รีชี้เป็นการทรยศ

ในภาพยนตร์ซีรีส์ แฮร์รีกับเมแกน บนเน็ตฟลิกซ์ เจ้าชายแฮร์รีทรงแฉว่าในปี 2019 ที่พระองค์อยู่ในช่วงหารือระดับสุดยอดที่พระตำหนักแซนดริงแฮม ว่าจะตีจากพระราชสำนักหรือไม่และอย่างไร นั้น ได้มีข่าวกระฉ่อนออกไปว่าพระองค์และพระเชษฐาแตกร้าวรุนแรง พระองค์พบว่าสำนักพระราชวังบัคกิงแฮมออกหนังสือแถลงปฏิเสธข่าวไปยังสื่อมวลชน โดยจัดทำเป็นหนังสือที่ลงพระนามนามร่วมกันระหว่างพระองค์กับพระเชษฐา แต่พระองค์มิได้ทราบเรื่อง อีกทั้งมิได้เคยอนุญาตให้ลงนามของพระองค์

ข้อกล่าวอ้างนี้มีความถูกต้องเพียงใดนั้น ยังไม่มีการพิสูจน์ทราบ แต่ปรินซ์แฮร์รีตั้งข้อกล่าวหาขึ้นว่าพระราชสำนักโกหกเพื่อช่วยปกป้องภาพลักษณ์ของพระเชษฐา แต่พระราชสำนักปฏิเสธที่จะออกหนังสือมาปกป้องพระองค์กับพระชายา

“ในเมื่อคุณดำเนินการให้แก่สมาชิกแห่งพระราชวงศ์องค์นั้นองค์นี้ได้ (แต่คุณไม่ดำเนินการให้ผม) เรื่องก็ย่อมไปถึงจุดที่ว่า เมื่อคุณนิ่งเงียบ นั่นคือการทรยศ”

ในการประทานสัมภาษณ์แก่รายการ 60มินิตส์ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ดยุกแห่งซัสเซกซ์ทรงแฉถึงความขัดแย้งหนักหนาที่ระอุอยู่ในความสัมพันธ์กับพระญาติ โดยมีการตั้งข้อกล่าวหาเล่นงานเจ้าฟ้าชายวิลเลียม ปรินซ์แห่งเวลส์ บรรยากาศดีงามระหว่างพระเชษฐาพระอนุชากลายเป็นอดีตไปหมดสิ้น
มุ่งถล่ม “ปรินซ์วิลเลียม” แบบจัดเต็ม และจะเผยข้อมูลใหม่เกี่ยวกับมรณกรรมของเสด็จแม่ไดอานา

เทปสัมภาษณ์ความยาว 60 นาทีนี้ ซีบีเอสการันตีว่า แฉจริง และยันด้วยว่าหนังสือ SPARE ของท่านดยุกแห่งซัสเซกซ์มีการแฉอย่างระเบิดระเบ้อกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเล่าถึงความขัดแย้งทั้งปวงที่เจ้าชายแฮร์รีทรงมีอยู่กับเจ้าฟ้าชายวิลเลียม

เดอะซันคาดว่าเจ้าชายแฮร์รีน่าจะเปิดกรุขุดเอาสารพัดความไม่พึงพอใจที่เคยมีต่อพระเชษฐาขึ้นมาเล่าไว้ใน SPARE โดยคงจะไม่พลาดที่จะแตะไปถึงความรู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะพระองค์ต้องรับบทเป็นตัวสำรองขององค์รัชทายาทแห่งพระราชบัลลังก์ อันเป็นปมคลาสิกที่มักเกิดขึ้นในระหว่างสองศรีพี่น้อง โดยฝ่ายน้องจะมองว่าพระเชษฐาทรงประสูติก่อนนิดเดียว ก็ได้สิทธิทั้งปวงไว้ในสองพระหัตถ์

ด้านเดอะซันเดย์ไทมส์ชี้ว่า วิลเลียม ปรินซ์ออฟเวลส์ จะโดนโจมตีหนักสาหัสกว่าใครในหนังสือบันทึกความทรงจำของดยุกแห่งซัสเซกซ์ โดยจะขุดเอาการต่อสู้ขับเคี่ยวระหว่างกันทั้งในอดีตและปัจจุบันมาบรรจุไว้แบบว่าอัดแน่นมาก แหล่งข่าวที่รู้ละเอียดถึงเนื้อหาในหนังสือ SPARE บอกเดอะซันเดย์ไทมส์ว่าความร้ายแรงดังกล่าวอาจส่งผลให้พระเชษฐาและพระอนุชาไม่สามารถกลับมาฟื้นความสัมพันธ์กันได้เลย พร้อมนี้ เจ้าหญิงเคทจะทรงถูกหางเลขบ้าง

นับจากเดือนธันวาคม 2022 ที่มีการสตรีมมิ่งภาพยนตร์ซีรีส์เรื่อง แฮร์รีและเมแกน โดยเชือดเฉือนเจ้าฟ้าชายวิลเลียมเลือดสาดซึ่งล้วนเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐานรองรับ อาทิ การกล่าวหาว่าเจ้าพนักงานของปรินซ์วิลเลียมนำเรื่องราวของดยุกแฮร์รีและดัชเชสเมแกนไปใส่มือสื่อมวลชน ส่งผลให้ปรินซ์ออฟเวลส์ทรงตัดขาดช่องทางการติดต่อกับพระอนุชาโดยไม่ทรงมีกำหนดที่จะพูดจากับพระอนุชาอีก เดอะซันเดย์ไทมส์รายงานอย่างนั้น

อย่างไรก็ตาม SPARE จะไม่จาบจ้วงสมเด็จพระราชบิดานักหนา กล่าวคือ ดีกว่าที่คาดๆ กันมากเลย แหล่งข่าวรายดังกล่าวซึ่งขอไม่เปิดเผยนามแจ้งไว้อย่างนั้น และที่แน่ๆ คือหนังสือเล่มนี้ดุเดือดกว่าที่พระราชวงศ์อังกฤษเตรียมใจไว้

ในด้านของเจ้าหญิงไดอานา ผู้เป็นพระมารดา แหล่งข่าวรายเดิมเล่าว่าบันทึกความทรงจำของดยุกแห่งซัสเซกซ์จะแตะไปถึงความทุกข์ฝังใจกรณีมรณกรรมของเจ้าหญิงไดอานา ผู้เป็นพระมารดา

ส่วนสื่อยักษ์ค่ายไอทีวีบอกว่าเจ้าชายแฮร์รีจะทรงเล่าในตอนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ว่าทรงมีความสัมพันธ์พระมารดา-พระโอรสที่อบอุ่นพระทัยอย่างไรบ้าง พร้อมกับจะเผยข้อมูลที่ไม่เคยได้ยินได้ทราบกันมาก่อนซึ่งเกี่ยวข้องกับมรณกรรมของพระมารดาซึ่งล่วงลับด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในปี 1997

แหล่งข่าวของเดอะซันเดย์ไทมส์ให้ข้อมูลว่าปรินซ์ออฟเวลส์ จะถูกโจมตีหนักหนาสาหัสกว่าใครในหนังสือบันทึกความทรงจำของดยุกแห่งซัสเซกซ์ โดยจะมีการขุดเอาการต่อสู้ขับเคี่ยวระหว่างกันทั้งในอดีตและปัจจุบันมาบรรจุในหนังสือแบบว่าอัดแน่นมาก ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์เรียกความร้าวฉานระหว่างครอบครัวของปรินซ์แห่งเวลส์ กับครอบครัวของดยุกแห่งซัสเซกซ์ว่าสงครามระหว่างพระราชนิกูลวินเซอร์
ด้าน เอียน รัมซีย์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายผลิตรายการของไอทีวี การันตีความแซ่บความใหม่ของเรื่องเล่าจากเจ้าชายแฮร์รีว่าจะมีรายละเอียดมากมายที่สาธารณชนไม่เคยได้รับทราบมาก่อน

นอกจากนั้น สื่อเจ้าเก่าแก่ของอังกฤษ เดอะไทมส์ ซึ่งให้ข้อมูลแถมไว้ว่า ทอม แบรดบี แห่งไอทีวี ที่ได้เป็นผู้สัมภาษณ์เจ้าชายแฮร์รีนั้น รู้จักและคุ้นเคยกับเจ้าชายแฮร์รีมาตั้งแต่ที่เจ้าชายยังทรงเป็นหนุ่มทีนเอจ ทั้งนี้ เดอะไทมส์ ชี้ว่าเรื่องเล่าในหนังสือบันทึกความทรงจำของดยุกแห่งซัสเซกซ์ “น่าจะเจ็บแสบแผดร้อนกว่าในภาพยนตร์ซีรีส์ทางเน็ตฟลิกซ์” แต่แทนที่จะเน้นถึงการแยกวงออกจากพระราชตระกูลซึ่งปรากฏอย่างมากมายในซีรีส์เรื่องแฮร์รีแอนด์เมแกน หนังสือ SPARE จะโฟกัสที่วัยเด็กของเจ้าชาย ซึ่งทำให้พระราชวงศ์อังกฤษลุ้นกันมากว่าจะมีการแตะไปถึงควีนคามิลลา พระราชมารดาเลี้ยงของเจ้าชายแฮร์รี อย่างหนักหนาสาหัสหรือไม่และเพียงใด

อนึ่ง สำนักพระราชวังบัคกิงแฮมแจ้งตอบสื่อมวลชนทั้งหลายว่าไม่มีความประสงค์จะให้ความเห็นใดๆ

ทั้งนี้ สามารถติดตามชม Harry: The Interview ที่จะเล่าถึงเนื้อหาของหนังสือแฉ เรื่อง SPAREออกอากาศทางช่อง ITV1 กับ ITVX ในวันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม 2023 เวลา 9.00 น. ของประเทศอังกฤษ หรือก็คือ 16.00 น.ของประเทศไทย

ในส่วนของกระแสตอบรับต่อหนังสือบันทึกความทรงจำของเจ้าชายแฮร์รี เรื่อง SPARE ที่จะได้เห็นกันในวันอังคารหน้านั้น ฝ่ายต่างๆ คาดว่าจะครองความเป็นเบสต์เซลเลอร์ของสารพัดลิสต์ได้อย่างง่ายดาย โดยสกายนิวส์รายงานว่า SPARE ติดอันดับที่ 1 ของหนังสือเล่มที่ออกใหม่ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากมายแห่งค่ายแอมะซอน

ดยุกแห่งซัสเซกซ์กล่าวว่าทรงไม่ประสงค์จะนำรายได้ทั้งหมดที่เกิดจากผลกำไรของหนังสือไปใช้เป็นการส่วนพระองค์ โดยจะบริจาค 1.5 ล้านดอลลาร์ไปยังองค์กรกุศล Sentebale ที่พระองค์ร่วมก่อตั้งเพื่อส่งเสริมสนับสนุนเด็กและเยาวชนในเลโซโทและบอตสวานา ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางเนื่องจากได้รับผลกระทบจากเชื้อเอชไอวี/เอดส์ นอกจากนั้น จะบริจาค 300,000 ปอนด์ ไปยังองค์กร WellChild ซึ่งทรงเป็นองค์อุปถัมภ์มานานกว่า 15 ปี

โดย รัศมี มีเรื่องเล่า

(ที่มา: ไอทีวี ซีบีเอส เดอะซัน เดอะซันเดย์ไทมส์ เดอะไทมส์ อินไซเดอร์ วีเมนส์เฮลท์ เรดิโอไทมส์ สกายนิวส์ เอพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น