ทีมกู้ภัยในนิวยอร์ก ในวันจันทร์ (26 ธ.ค.) ยังคงพยายามอย่างหนักสำหรับช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดค้างจากสิ่งที่เจ้าหน้าที่ให้คำจำกัดความว่าเป็น "พายุหิมะแห่งศตวรรษ" ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนในรัฐแห่งนี้ไปแล้วอย่างน้อย 25 ราย ส่งผลให้ยอดรวมทั่วอเมริกาเพิ่มเป็นอย่างน้อย 47 คน และก่อความวุ่นวายด้านการเดินทางช่วงคริสต์มาสในสหรัฐฯ
สภาพอากาศพายุหิมะยังคงปกคลุมหลายพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ก่อไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง และมีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศแล้วอย่างน้อย 47 รายใน 9 รัฐ
ในรัฐนิวยอร์ก เจ้าหน้าที่บรรยายภาพสถานการณ์เลวร้ายสุดขั้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบัฟฟาโล ซึ่งขาวโพลนยาวนานหลายชั่วโมง ศพถูกพบในยานพาหนะและภายใต้กองหิมะ ในขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินต้องเข้าตรวจสอบรถยนต์ทีละคันเพื่อค้นหาผู้ขับขี่ที่ติดค้างเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย
พายุหิมะรุนแรง ลมกระโชกแรงและอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง บีบให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 15,000 เที่ยวทั่วสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึง 2,500 เที่ยวในวันจันทร์ (26 ธ.ค.)
เมืองบัฟฟาโล เป็นศูนย์กลางของวิกฤตครั้งนี้ และมันถูกฝังอยู่ภายใต้กองหิมะปริมาณมหาศาล "แน่นอนว่ามันเป็นพายุหิมะแห่งศตวรรษ" เคที โฮชุล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กบอกกับผู้สื่อข่าว พร้อมระบุว่า มันยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าสถานการณ์เลวร้ายสิ้นสุดลงแล้ว"
โฮชุล กล่าวต่อว่า บางเมืองทางตะวันตกของนิวยอร์กถูกล้อมรอบด้วยหิมะหนา 30 ถึง 40 นิ้ว (ราว 0.75 ถึง 1 เมตร) เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา
สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติ คาดการณ์ว่าจะมีหิมะตกลงมาอีกสูงสุด 14 นิ้วในวันจันทร์ (26 ธ.ค.) เพิ่มเติมจาก 7 นิ้วที่ทำให้เมืองแห่งนี้ถูกฝังอยู่ใต้หิมะอยู่ก่อนแล้ว
มาร์ค โพลอนคาร์ซ ผู้บริหารเขตอีรี เคาน์ตี กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่าเขา "ใจสลาย" ที่ต้องมารายงานเกี่ยวกับจำนวนผู้เสียชีวิตจากพายุหิมะที่เพิ่มเป็นอย่างน้อย 25 รายทั่วเคาน์ตี พร้อมยอมรับว่ายอดตายในอีรี เคาน์ตี มีความเป็นไปได้ที่จะมากกว่าครั้งที่เมืองบัฟฟาโลเจอพายุหิมะรุนแรงปี 1977 ซึ่งคราวนั้นมีผู้เสียชีวิตเกือบ 30 ราย
ด้วยคาดหมายวาจะมีหิมะตกลงมาเพิ่มเติมและพื้นที่ส่วนใหญ่ของบัฟฟาโลสัญจรผ่านไปมาไม่ได้ ทาง โพลอนคาร์ซ และโฮชุล ต่างเตือนประชาชนให้หลบอยู่แต่ในที่พักอาศัย
เจ้าหน้าที่จากกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ และทีมอื่นๆ เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในรถยนต์ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและบ้านเรือนที่ปราศจากไฟฟ้าออกมาได้แล้วหลายร้อยคน แต่เจ้าหน้าที่ยอมรับว่ามีอีกหลายคนที่ยังคงติดค้าง
จอช การ์เรีย เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเอรี เคาน์ตี เรียกพายุครั้งนี้ว่าเลวร้ายที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเห็นมา ด้วยทัศนวิสัยเป็นศูนย์ และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตอบสนองต่อสายด่วนแจ้งเหตุฉุกเฉฺนได้ "มันก่อความว้าวุ่นใจ เมื่อคุณรับสายด่วนฉุกเฉินจากครอบครัวที่มีเด็กๆ ที่บอกว่าพวกเขากำลังหนาวเหน็บ" เขาให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น
โฮชุล ซึ่งมีพื้นเพเป็นคนบัฟฟาโล บอกว่าเธอถึงกับตกตะลึงกับสิ่งที่เธอเห็นระหว่างเดินทางสำรวจเมืองแห่งนี้ "มันยังกับเขตสงคราม มียานพาหนะจอดอยู่ข้างทางในสภาพที่น่าช็อกมาก" พร้อมเผยว่าพบเห็นกองหิมะสูง 8 เมตรทับถมบ้านเรือนหลายหลัง รถกวาดหิมะและรถกู้ภัยถูกฝังอยู่ใต้หิมะ
สภาพอากาศรุนแรงทำให้อุณหภูมิทั้ง 48 รัฐที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกันของสหรัฐฯ ลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็งเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงชุมชนต่างๆ ในรัฐเทกซัส ซึ่งอยู่ติดชายแดนเม็กซิโก พื้นที่ซึ่งพวกคนเข้าเมืองบางส่วนต้องดิ้นรนหาที่หลบภัย
มีอยู่ช่วงหนึ่งของวันเสาร์ (24 ธ.ค.) ผู้บริโภคเกือบ 1.7 ล้านคนต้องอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ท่ามกลางความหนาวเหน็บ แม้ตัวเลขดังกล่าวลดลงอย่างมากในวันอาทิตย์ (25 ธ.ค.) แต่จนถึงเที่ยงวันของวันจันทร์ (26 ธ.ค.) ยังมีผู้บริโภคราว 50,000 คนตามแนวชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้
สืบเนื่องจากสถานีย่อยไฟฟ้าอยู่ในสภาพเยือกแข็ง จึงคาดหมายว่าชาวบ้านบางส่วนในอีรี เคาน์ตี คงต้องรอจนถึงวันอังคาร (27 ธ.ค.) ไฟฟ้าถึงสามารถกู้กลับมาได้ ท่ามกลางรายงานข่าวว่าสถานีย่อยแห่งหนึ่งจมอยู่ภายใต้กองหิมะหนาถึง 18 ฟุต
ท่าอากาศยานนานาชาติบัฟฟาโล ยังคงปิดบริการจนถึงวันอังคาร (27 ธ.ค.) และคำสั่งห้ามขับขี่ยังคงมีผลบังคับใช้ในเมืองแห่งนี้และพื้นที่ส่วนใหญ่ของอีรี เคาน์ตี
สภาพท้องถนนที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ ยังนำมาซึ่งการปิดเส้นทางการขนส่งที่พลุกพล่านที่สุดของประเทศหลายสาย ในนั้นรวมถึงถนนระหว่างรัฐสาย 70
บรรดาผู้ขับขี่ได้รับคำเตือนให้งดใช้รถใช้ถนน แม้ว่าช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาที่มีการเดินทางพลุกพล่านที่สุดในทุกๆ ปี
(ที่มา : เอเอฟพี)
