กองทัพจีนเปิดเผยว่าได้ปฏิบัติการ "ซ้อมรบโจมตี" ในทะเลและน่านฟ้ารอบๆ ไต้หวันเมื่อวันอาทิตย์ (25 ธ.ค.) ตอบโต้ในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าพฤติกรรมยั่วยุจากสหรัฐฯ และเกาะปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตยแห่งนี้
ไต้หวัน ซึ่งจีนกล่าวอ้างเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน บอกว่าการซ้อมรบดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นว่า ปักกิ่งกำลังทำลายสันติภาพในภูมิภาค และกำลังพยายามข่มขู่ประชาชนชาวไต้หวัน
จีนจัดการซ้อมรบรอบๆ ไต้หวันในเดือนสิงหาคม ตามหลังการเดินทางเยือนเกาะแห่งนี้ของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น และในวันเสาร์ (24 ธ.ค.) ปักกิ่งประณามอเมริกาต่อกฎหมายให้อำนาจป้องกันประเทศ (National Defense Authorization Act : NDAA) ซึ่งเป็นกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ของสหรัฐฯ ที่มีบทบัญญัติสำคัญๆ รวมถึงการเพิ่มความช่วยเหลือด้านการทหารแก่ไต้หวัน
ในถ้อยแถลงสรุป กองบัญชาการยุทธภูมิตะวันออกของกองทัพปลดแอกประชาชนจีนเปิดเผยว่า พวกเขาได้ทำการลาดตระเวนร่วมเพื่อการพร้อมรบและฝึกยิงโจมตีร่วมรอบๆ ไต้หวัน แต่ไม่ได้ระบุตำแหน่งของการซ้อมรบอย่างชัดเจน
"นี่คือการตอบโต้อย่างแน่วแน่ต่อสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายในปัจจุบัน อันเนื่องจากการสมคบคิดและยั่วยุจากสหรัฐฯ และไต้หวัน" กองบัญชาการยุทธภูมิตะวันออกของกองทัพปลดแอกประชาชนจีนระบุโดยไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม "กองกำลังยุทธภูมิจะใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นปกป้องอำนาจอธิปไตยของประเทศและบูรณภาพแห่งดินแดนด้วยความแน่วแน่"
ด้านกระทรวงกลาโหมของไต้หวัน ตอบโต้กลับว่า พฤติกรรมของจีน "เป็นอีกครั้งที่เน้นย้ำว่าพวกเขามีความคิดคลี่คลายความเห็นต่างด้วยการใช้กำลัง ทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค"
ถ้อยแถลงของกระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุต่อว่า "ความร่วมมือระหว่างไต้หวันและสหรัฐฯ จะส่งเสริมอินโด-แปซิฟิกที่เสรี เปิดกว้าง มีสันติภาพและเสถียรภาพ และไต้หวันจะเดินหน้ายกระดับด้านการทหารสอดคล้องกับภัยคุกคามจากศัตรู และความจำเป็นในด้านป้องกันตนเอง"
"พฤติกรรมข่มขู่ของกองทัพคอมมิวนิสต์จีน แน่นอนว่ามีเป้าหมายข่มขู่ประชาชนของเรา และมันไม่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีใดๆ แก่จีน ในเวทีระหว่างประเทศ" ถ้อยแถลงกล่าว
ไตัหวันคร่ำครวญมาช้านานเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางทหารของจีนซ้ำแล้วซ้ำเล่าในบริเวณใกล้เคียง ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา หรือนานกว่านั้น ในขณะที่ปักกิ่งหาทางกดดันให้ไทเปยอมรับอำนาจอธิปไตยของจีน
สหรัฐฯ เป็นผู้จัดหาอาวุธและเป็นผู้สนับสนุนระหว่างประเทศรายสำคัญที่สุดของไต้หวัน แม้ทั้งสองฝ่ายไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการระหว่างกัน ทั้งนี้ การที่สหรัฐฯ ขายอาวุธแก่ไต้หวัน เป็นบ่อเกิดแห่งความระคายเคืองในความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตันมาช้านาน
กองทัพไต้หวันถือว่ามีขนาดเล็กจิ๋วมากเมื่อเทียบกับกองทัพขาดมโหฬารของจีน ขณะที่กองทัพอากาศของพวกเขาตกอยู่ภายใต้ความตึงเครียดอย่างหนัก จากการที่ได้เห็นฝูงบินรบของจีนล่วงล้ำเข้ามาใกล้เกาะแห่งนี้บ่อยครั้ง
จีนไม่เคยปฏิเสธเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการใช้กำลังรวมชาติไต้หวัน ส่วนไต้หวันโต้แย้งอย่างแข็งกร้าวต่อคำกล่าวอ้างอำนาจอธิปไตยของปักกิ่ง โดยบอกว่ามีเพียงประชาชน 23 ล้านคนของเกาะแห่งนี้เท่านั้น ที่จะเป็นผู้ตัดสินอนาคตของตนเอง
(ที่มา : รอยเตอร์)
