xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ ได้ทีขย่ม! ชี้จีนปราบปรามผู้ประท้วงเป็นสัญญาณความอ่อนแอของคอมมิวนิสต์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันพุธ (30 พ.ย.) ระบุความเคลื่อนไหวปราบปรามผู้ประท้วงต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์โควิด-19 ของจีน แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของผู้นำคอมมิวนิสต์

ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์ บลิงเคน กล่าวว่า ประชาชนในทุกประเทศควรมีสิทธิแสดงออกถึงความผิดหวังผ่านการประท้วงอย่างสันติ "ในทุกประเทศที่เราเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น และเห็นรัฐบาลใช้มาตรการปราบปรามขนานใหญ่เพื่อหยุดยั้งมัน นั่นไม่ใช่สัญญาณแห่งความเข้มแข็ง แต่มันเป็นสัญญาณแห่งความอ่อนแอ" บลิงเคน ซึ่งอยู่ในโรมาเนีย เพื่อร่วมประชุมนาโต้ ระบุ

บลิงเคน ซึ่งมีแผนเดินทางเยือนจีนในปีหน้า ท่ามกลางความตึงเคียดที่ดูคลี่คลายลงระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นกรณีที่ว่าการประท้วงจะส่งผลกระทบต่อสถานะส่วนตัวของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง หรือไม่

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ รายนี้ กล่าวว่า นโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีน ซึ่งเป็นชนวนเหตุเบื้องต้นของการประท้วง "เป็นบางอย่างที่เราจะไม่ทำ" พร้อมระบุสหรัฐฯ ได้มุ่งเน้นไปที่การฉีดวัคซีน ตรวจเชื้อและรักษา "จีนจำเป็นต้องคิดหาหนทางในการเดินหน้าจัดการกับโควิด หนทางเดินหน้าที่จำเป็นต้องมอบคำตอบด้านความจำเป็นทางสุขภาพ แต่ก็ต้องมอบคำตอบเกี่ยวกับความต้องการของประชาชนด้วยเช่นกัน"

บลิวเคน ถูกถามเกี่ยวกับสถานการณ์ในจีน หลังจากเบื้องต้นรัฐบาลหรัฐฯ มีท่าทีนิ่งเฉย โดยทำเนียบขาวบอกเพียงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังจับตาสถานการณ์การประท้วงอย่างใกล้ชิด

ไบเดนพบปะกับ สี ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งประธานาธิบดีทั้ง 2 ต่างสัญญาว่าจะมองหาหนทางคลี่คลายความตึงเครียดระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจ

ความโกรธเคืองต่อนโยบายโควิด-19 เป็นศูนย์ของจีน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการล็อกดาวน์ผู้คนจำนวนมากและบีบรัดเศรษฐกิจของประเทศ คือชนวนเหตุของการประท้วง และเหตุการณ์ไฟไหม้เข่นฆ่าชีวิตผู้คนในเมืองอุรุมชี เมืองเอกของมณฑลซินเจียง ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ โหมกระพือความเดือดดาลมากขึ้นไปอีก เนื่องจากประชาชนกล่าวโทษข้อจำกัดสกัดโควิด-19 ว่าเป็นต้นตอที่ทำให้เหยื่อติดอยู่ภายในอาคารที่ถูกไฟโหมไหม้

อย่างไรก็ตาม พวกผู้ประท้วงเรียกร้องปฏิรูปการเมืองอย่างครอบคลุมด้วยเช่นกัน และมีบางส่วนถึงขั้นเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลาออกจากตำแหน่ง

ด้วยมาตรการควบคุมข่าวสารอันเข้มข้นของจีนและข้อจำกัดด้านการเดินทางที่ยังมีผลบังคับใช้ ทำให้การตรวจสอบจำนวนการประท้วงทั่วประเทศนั้นเป็นงานท้าทายอย่างมาก กระนั้นการชุมนุมอย่างกว้างขวางเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ถือเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ยากมากในจีน

ในการส่งสัญญาณจะใช้แนวทางอดทนเป็นศูนย์กับพวกผู้ประท้วง หน่วยงานด้านความมั่นคงสูงสุดของจีนในวันอังคาร (29 พ.ย.) เรียกร้องให้ปราบปรามในสิ่งที่พวกเขาให้คำจำกัดความเป็นกองกำลังของฝ่ายศัตรู

คำเตือนมีขึ้นตามหลังการประจำการตำรวจจำนวนมากทั่วกรุงปักกิ่งและเมืองเซี่ยงไฮ้ในวันอังคาร (29 พ.ย.) ในท่าทีที่ดูเหมือนว่าจะเข้าปราบปรามการประท้วงในเมืองเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ในที่อื่นๆ ยังพบเห็นการชุมนุมทั้งในวันจันทร์ (28 พ.ย.) และวันอังคาร (29 พ.ย.)

ไชน่า ดิสเซนต์ มอนิเตอร์ ที่ดำเนินการโดย ฟรีดอมเฮาส์ ซึ่งได้เงินสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ อ้างการประเมินของตนว่า ระหว่างวันเสาร์ถึงวันจันทร์ที่ผ่านมามีการประท้วงอย่างน้อย 27 จุดในจีน ขณะที่กลุ่มคลังสมอง เอเอสพีไอ ของออสเตรเลียระบุว่า มีการประท้วง 43 จุดใน 22 เมือง

ที่มหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดของฮ่องกง แกนนำหลายสิบคนในวันอังคาร (29 พ.ย.) ตะโกนประท้วงต่างๆ ในนั้นรวมถึง "มอบเสรีภาพให้เรา หรือมอบความตายให้เรา" ส่วนอีกคนตะโกนว่า "เราไม่ใช่กองกำลังต่างชาติ เราเป็นพลเมืองจีน จีนควรมีความเห็นที่แตกต่าง" ขณะที่อีกคนชูป้ายข้อความไว้อาลัยเหยื่อไฟไหม้ในอุรุมชี

หัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงของเกาะฮ่องกง ออกมาเคลื่อนไหวตอบโต้พวกผู้ชุมนุม โดยเตือนในวันพุธ (30 พ.ย.) ว่าพวกผู้ประท้วงเสี่ยงกระทำผิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของเขตบริหารพิเศษแห่งนี้ ที่กำหนดโดยปักกิ่งในปี 2020

สถานการณ์ความไม่สงบล่าสุดในจีนดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก โดยผู้คนทั้งตั้งแต่ในเมลเบิร์นไปจนถึงวอชิงตัน ออกมาแสดงออกถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับพวกผู้ชุมนุม

แม้พวกผู้นำจีนยังคงมุ่งมั่นในนโยบายโควิด-19 เป็นศูนย์ แต่พบเห็นสัญญาณบางอย่างที่พวกเจ้าหน้าที่หน่วยงานกลางอาจกำลังหาทางออกจากนโยบายที่เข้มงวดนี้ โดยคณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติของจีน แถลงในวันอังคาร (29 พ.ย.) ว่าจะรื้อฟื้นความพยายามยกระดับอัตราการฉีดวัคซีนในหมู่คนชรา ซึ่งตอนนี้ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ในขณะที่มันถูกมองว่าเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการผ่อนปรนมาตรการอันเข้มงวดทั้งหลาย

(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น