นครใหญ่ 2 แห่งของจีน คือ กว่างโจว และฉงชิ่ง ประกาศผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิด-19 ในวันพุธ (30 พ.ย.) หนึ่งวันหลังจากพวกผู้ชุมนุมประท้วงเกิดปะทะกับตำรวจที่ กว่างโจว ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง เสมือนเป็นควันหลงที่ยังตกค้างอยู่ หลังจากระลอกการแสดงความไม่พอใจซึ่งกระจายไปทั่วประเทศจีนช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ยุติลงเป็นส่วนใหญ่
ฉงชิ่ง มหานครทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือที่มีฐานะเทียบเท่ามณฑล จะอนุญาตให้ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับคนที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีเงื่อนไขต่างๆ ตามที่กำหนดไว้ สามารถกักตัวอยู่ที่บ้านได้ ไม่ต้องไปอยู่ในศูนย์กักตัว เจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งของนครแห่งนี้กล่าว
ส่วนนครกว่างโจว ซึ่งเป็นจุดที่โควิดระบาดหนักในระลอกล่าสุด ก็เช่นเดียวกัน ประกาศการผ่อนปรนในวันพุธ โดยรวมไปถึงการยกเลิกคำสั่งล็อกดาวน์ชั่วคราวในหลายๆ เขตของเมือง ทั้งนี้ถือเป็นความพยายามในการปฏิบัติให้เป็นไปตามคำชี้แนะฉบับใหม่ที่ออกมาตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งมุ่งที่จะลดภาระของประชาชนจากการใช้นโยบายโควิดต้องเป็นศูนย์อย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ดี จากการที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ๆ ทั่วประเทศในปัจจุบันยังคงทำลายสถิติสูงสุดอยู่ จึงดูแทบไม่มีโอกาสที่จะมีการประกาศเปลี่ยนนโยบายโควิดอย่างชนิดมโหฬาร
พร้อมกันนั้น สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มีผู้ประท้วงบางคนและพวกผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงชาวต่างประเทศบางรายเชื่อว่า การถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันพุธของอดีตประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน ผู้ที่นำประเทศเข้าสู่ทศวรรษแห่งการเติบโตขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่รางรวดเร็วภายหลังเหตการณ์ปราบปรามการประท้วงผู้เรียกร้องประชาธิปไตยที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 1989 อาจกลายเป็นจุดปลุกระดมให้เกิดการประท้วงจุดใหม่ขึ้นมา โดยอาศัยเรื่องการไว้อาลัยให้แก่ เจียง เป็นเหตุผลข้ออ้างสำหรับการออกมาชุมนุมกัน
ในขณะที่ประกาศเรื่องยกเลิกล็อกดาวน์ในหลายๆ เขตของกว่างโจวเมื่อวันพุธนั้น ทางการนครแห่งนี้ไม่ได้เอ่ยถึงการประท้วงซึ่งเกิดขึ้นในคืนวันอังคาร โดยที่เขตที่เกิดความรุนแรงก็ยังคงถูกบังคับใช้กฎควบคุมอันเข้มงวด
คลิปวิดิโอบันทึกเหตุการณ์ปะทะกันคราวนั้น ซึ่งมีผู้โพสต์บนทวิตเตอร์ มีอยู่คลิปหนึ่งเห็นตำรวจปราบจลาจลหลายสิบคนอยู่ในชุดป้องกันเชื้อโรคสีขาว และชูโล่ป้องกันขึ้นเหนือศีรษะ ตั้งขบวนเดินไปข้างหน้ามุ่งสู่สิ่งที่ดูเหมือนเป็นกำแพงกั้นพื้นที่ล็อกดาวน์ซึ่งถูกรื้อถอนลงมา ขณะที่มีวัตถุต่างๆ ปลิวมายังพวกเขา
จากคลิปวิดีโอนี้ ยังมองเห็นว่าในเวลาต่อมา ตำรวจได้พาตัวผู้คนกลุ่มหนึ่งที่เข้าแถวและต่างถูกใส่กุญแจมือ เดินจากไป
ส่วนวิดีโออีกคลิปหนึ่งแสดงให้เห็นผู้คนขว้างปาวัตถุต่างๆ ใส่ตำรวจ แล้วยังมีวิดีโอคลิปที่สามแสดงให้เห็นกระสุนก๊าซน้ำตากำลังตกลงมากลางฝูงชนกลุ่มเล็กๆ บนถนนแคบๆ ทำให้ผู้คนพากันวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง
รอยเตอร์สามารถพิสูจน์ยืนยันได้ว่า วิดีโอเหล่านี้บันทึกไว้จากเขตไห่จู ของนครกว่างโจว ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุไม่สงบอันเนื่องจากโควิดมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน แต่ไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าคลิปเหล่านี้ถ่ายไว้เมื่อใด หรือเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างที่คลิปพยายามจะเล่าไว้จริงหรือไม่ รวมทั้งอะไรคือชนวนทำให้เกิดการปะทะกัน
โพสต์หลายๆ ชิ้นทางสื่อสังคมระบุว่า การปะทะเกิดขึ้นในคืนวันอังคาร โดยมีสาเหตุจากการทะเลาะวิวาทในเรื่องมาตรการล็อกดาวน์
เหตุการณ์ที่กว่างโจวในคืนวันอังคาร เกิดขึ้นหลังจากเกิดการประท้วงเรียกร้องยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ปะทุขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในเมืองใหญ่หลายแห่งทั่วประเทศจีน โดยเฉพาะปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ และทางการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วด้วยการส่งตำรวจจำนวนมากคุมเชิงตามจุดชุมนุมในสองเมืองใหญ่ดังกล่าว ส่งผลให้สถานการณ์เงียบสงบลงตลอดทั้งวันจันทร์และวันอังคาร (28-29 พ.ย.)
ทางด้าน ไชน่า ดิสเซนต์ มอนิเตอร์ ที่ดำเนินการโดย ฟรีดอมเฮาส์ ซึ่งได้เงินสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ อ้างการประเมินของตนว่า ระหว่างวันเสาร์ถึงวันจันทร์ที่ผ่านมามีการประท้วงอย่างน้อย 27 จุดในจีน ขณะที่กลุ่มคลังสมอง เอเอสพีไอ ของออสเตรเลียระบุว่า มีการประท้วง 43 จุดใน 22 เมือง
นอกจากการประกาศผ่อนปรนมาตรการคุมเข้มโควิดของ ฉงชิ่ง และกว่างโจว แล้ว ก่อนหน้านี้ พวกเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแห่งชาติยังออกมาแถลงว่า จีนจะสนองตอบต่อ “ความกังวลห่วงใยอันเร่งด่วน” ที่สาธารณชนเสนอขึ้นมา รวมทั้งบอกด้วยว่ากฎระเบียบในเรื่องโควิดควรต้องบังคับใช้ด้วยความยืดหยุ่น ให้สอดคล้องกับเงื่อนไขต่างๆ ของท้องถิ่น
ทางด้าน คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน ก็ประกาศเร่งรัดการรณรงค์ฉีดวัคซีนโดยเฉพาะในหมู่ผู้สูงวัยที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ และถือเป็นอุปสรรคสำคัญในการผ่อนคลายมาตรการสกัดโควิด
ทั้งนี้ หลายฝ่ายในจีนหวั่นกลัวกันว่า การเปิดประเทศโดยที่ประชาชนจำนวนมากไม่มีภูมิคุ้มกันอย่างสมบูรณ์ อาจทำให้มีผู้ติดเชื้อล้มป่วยเป็นจำนวนมากมายจนระบบสาธารณสุขของจีนรับมือไม่ไหว ตลอดจนอาจมีผู้เสียชีวิตจากโควิดเกินล้านคน
กระนั้น ในอีกด้านหนึ่ง ทางการจีนก็ยังเริ่มต้นสืบเสาะหาตัวพวกที่ไปเข้าร่วมการประท้วงระลอกนี้ รวมทั้งส่งสัญญาณว่าจะไม่อดทนกับการประท้วงอีกต่อไป โดยในวันอังคาร คณะกรรมการกลางด้านกิจการการเมืองและกฎหมายของพรรคคอมมิวนิสต์ ออกคำแถลงระบุว่า จีนจะกวาดล้างการแทรกซึมและก่อวินาศกรรมของกลุ่มพลังปรปักษ์ รวมถึงจะไม่ปล่อยให้มีการกระทำผิดกฎหมายที่ก่อกวนความสงบเรียบร้อยโดยเด็ดขาด
อนึ่ง วันพุธจีนรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมง ว่ามีจำนวน 37,612 คน ลดลงจากสถิติสูงสุดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ตัวเลขเหล่านี้ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับในชาติตะวันตกตอนช่วงที่โควิดระบาดหนัก
(ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)