xs
xsm
sm
md
lg

รพ.เซี่ยงไฮ้สั่งเจ้าหน้าที่พร้อมรับศึกหนัก คาดปลายปีประชากร 12.5 ล้านติดโควิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้เตรียมพร้อมรับศึกหนัก เนื่องจากคาดว่า ภายในปลายปีนี้ชาวเมืองประมาณ 12.5 ล้านคน หรือครึ่งหนึ่งของทั้งหมด 25 ล้านคนจะติดโควิด ขณะที่ไวรัสร้ายระบาดไปทั่วจีนโดยปราศจากการควบคุมเป็นส่วนใหญ่

ภายหลังการประท้วงทั่วประเทศและจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นไม่หยุดหย่อน ต้นเดือนนี้จีนประกาศกลับลำนโยบายกะทันหัน และเริ่มยุติมาตรการสำคัญหลายอย่างภายใต้นโยบายโควิดเป็นศูนย์

ถึงกระนั้น จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดอย่างเป็นทางการนับจากเริ่มระบาดเมื่อต้นปี 2020 ยังคงอยู่ที่ 5,241 คน ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ส่วนใหญ่

เมื่อวันพุธ (21 ธ.ค.) นับเป็นวันที่ 2 ติดกันที่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิดในจีน แม้พนักงานฌาปนสถานเผยว่า มีผู้ขอใช้บริการแน่นขนัดในสัปดาห์ที่ผ่านมา และทำให้ค่าบริการแพงขึ้นก็ตาม

ทางการจีนที่ลดเกณฑ์สำหรับการเสียชีวิตจากโควิดแคบลง ยืนยันว่า มีผู้ป่วยสะสม 389,306 คน แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนชี้ว่า ตัวเลขของทางการเชื่อถือไม่ได้เนื่องจากมีการตรวจหาผู้ติดเชื้อน้อยลงภายหลังการผ่อนคลายมาตรการจำกัด

เมื่อคืนวันพุธ (21 ธ.ค.) โรงพยาบาลเซี่ยงไฮ้ เต่อจี้โพสต์บนบัญชีวีแชต ประเมินว่า ขณะนี้เซี่ยงไฮ้มีผู้ป่วยโควิดราว 5.43 ล้านคน และคาดว่าช่วงปลายปีนี้จำนวนผู้ติดเชื้อจะอยู่ที่ 12.5 ล้านคน

โพสต์ดังกล่าวยังระบุว่า คริสต์มาสอีฟปีนี้ วันปีใหม่และเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงถือเป็นช่วงเวลาที่ไม่ปลอดภัย โดยในการต่อสู้ครั้งใหญ่นี้ บริเวณเกรทเตอร์เซี่ยงไฮ้ทั้งหมดจะพ่ายแพ้ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทุกคน ตลอดจนถึงสมาชิกครอบครัว และผู้ป่วยทั้งหมดจะติดโควิดอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง

ก่อนหน้านี้ เซี่ยงไฮ้ถูกล็อกดาวน์นาน 2 เดือนจนถึงวันที่ 1 มิถุนายน ทำให้ประชาชนมากมายเสียรายได้และมีปัญหาในการเข้าถึงข้าวของเครื่องใช้จำเป็น ระหว่างช่วงเวลานั้นมีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนและติดโควิดนับแสน

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า จีนอาจมีผู้เสียชีวิตจากโควิดกว่า 1 ล้านคนในปีหน้า เนื่องจากมีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำในหมู่ประชากรสูงวัยซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง

อัตราการฉีดวัคซีนของจีนขณะนี้อยู่ที่สูงกว่า 90% แต่อัตราการฉีดวัคซีนสำหรับกลุ่มวัยผู้ใหญ่ที่ได้รับเข็มกระตุ้นลดลงอยู่ที่ 57.9% และ 42.3% สำหรับประชากรอายุ 80 ปีขึ้นไป

ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในปักกิ่ง คลิปจากสถานีซีซีทีวีของรัฐบาลเผยให้เห็นผู้ป่วยสูงวัยจำนวนมากในแผนกผู้ป่วยวิกฤตหายใจผ่านหน้ากากออกซิเจน อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่ามีกี่คนที่ติดโควิด

ฮัน เสวีย รองผู้อำนวยการแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลดังกล่าว เปิดเผยกับซีซีทีวีว่า มีผู้ป่วยใหม่เข้ารับการรักษาวันละ 400 คน หรือ 4 เท่าจากสถานการณ์ปกติ และผู้ป่วยเหล่านั้นล้วนแล้วเป็นผู้สูงวัยที่มีโรคประจำตัว มีไข้ ติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และอาการหนักมาก

ขณะเดียวกัน เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ต้องการข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความรุนแรงของโรค อัตราการเข้าโรงพยาบาล และความต้องการแผนกผู้ป่วยวิกฤตเพื่อประเมินสถานการณ์การระบาดในจีนอย่างครอบคลุม นอกจากนี้ ยังสนับสนุนรัฐบาลจีนในการมุ่งเน้นการฉีดวัคซีนให้กลุ่มที่มีความเสี่ยงมากที่สุด

การกลับลำนโยบายของจีนส่งผลให้ระบบสาธารณสุขที่เปราะบางไม่มีเวลาเตรียมพร้อม โรงพยาบาลต่างๆ ขาดแคลนเตียงคนไข้และเลือด ร้านขายยาไม่มียาขาย และเจ้าหน้าที่ต้องเร่งสร้างคลินิกพิเศษ

เมืองขนาดเล็กที่อยู่ห่างไกลจากเมืองมั่งคั่งชายฝั่งด้านตะวันออกและใต้มีความเสี่ยงอย่างยิ่ง เช่น เมืองตงชวน ที่มีประชากร 700,000 คนในมณฑลส่านซีทางตะวันตกเฉียงเหนือ ประกาศเมื่อวันพุธเรียกบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมดที่ปลดเกษียณแล้วในรอบ 5 ปีที่ผ่านมากลับมาร่วมต่อสู้กับโควิด และบอกว่า ขณะนี้สถาบันการแพทย์ทุกระดับในเมืองล้วนเผชิญความกดดันอย่างหนัก

สื่อของทางการรายงานว่า รัฐบาลท้องถิ่นกำลังพยายามแก้ปัญหายาขาดแคลน ขณะที่บริษัทยาเพิ่มเวลาทำงานเพื่อเร่งผลิตยา ส่วนหนังสือพิมพ์โกลบัลไทมส์ของทางการจีนรายงานว่า เมืองต่างๆ ทั่วประเทศแจกจ่ายยาเม็ดไอบูโพรเฟนให้สถาบันการแพทย์และร้านค้าปลีก

นอกจากนี้ เยอรมนียังส่งวัคซีนของไบโอเอ็นเทค ล็อตแรกให้จีนเพื่อฉีดให้พลเมืองของตนที่อยู่ในจีน รวมทั้งพยายามผลักดันเพื่อให้พลเมืองชาติอื่นได้รับอนุญาตให้ฉีดวัคซีนของไบโอเอ็นเทค ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่วัคซีน mRNA ที่ว่ากันว่า มีประสิทธิภาพในการต้านทานโควิดมากที่สุดมีใช้ในจีน เนื่องจากที่ผ่านมาจีนอนุมัติให้ใช้เฉพาะวัคซีน 9 ตัวที่พัฒนาในประเทศเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น