เละเพราะเชื่อลมปาก! แฉยูเครนพร้อมรับสถานะเป็นกลาง แต่ถูก 'บอริส จอห์นสัน' ยุให้สู้ต่อ

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เมื่อเดือนมีนาคม พร้อมรับเงื่อนไขบางประการของรัสเซียเพื่อสันติภาพ จากการเปิดเผยของ พ.อ.ดักลาส แม็คเกรเกอร์ นายทหารปลดเกษียณแห่งกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งกล่าวอ้างระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเร็วๆ นี้ พร้อมกล่าวโทษอดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร บอริส จอห์นสัน ขัดขวางเจรจาหาทางออก

ระหว่างที่พวกผู้แทนยูเครนและรัสเซียนั่งพูดคุยบนโต๊ะเจรจาในอิสตันบูล ในเดือนมีนาคม มีข่าวปรากฏออกมาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการบรรลุข้อตกลงที่จะได้เห็นเคียฟละทิ้งความทะเยอทะยานเข้าร่วมนาโต้ และเห็นพ้องรับสถานะเป็นกลาง แลกเปลี่ยนกับการที่รัสเซียถอนกำลังกลับไปยังแนวสู้รบก่อนเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม ไม่กี่วันหลังจากนั้น เซเลนสกี อ้างว่าเขาหลบหลักฐานเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมสงครามในดินแดนที่กองกำลังรัสเซียล่าถอยออกไป และการเจรจาถูกยกเลิก

ขณะให้สัมภาษณ์กับ มิชาเอล วลาฮอส นักประวัติศาสตร์ด้านการทหาร ที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์ (10 ธ.ค.) แม็คเกรเกอร์ อ้างว่า สหราชอาณาจักรอยู่เบื้องหลังที่ทำให้การเจรจาสันติภาพจบลงอย่างกะทันหัน "เรามีหลักฐานว่าในช่วงปลายเดือนมีนาคม เซเลนสกีเคยพูดว่า เราอาจอยู่ด้วยสถานะเป็นกลาง และพอคำพูดนั้นได้ยินไปถึงวอชิงตันและลอนดอน ผู้คนก็เริ่มเดือดดาล"

"บอริส จอห์นสัน เป็นตัวแทนผลประโยชน์ของวอชิงตัน เขาบอกว่าไม่มีทาง เราจะสนับสนุนคุณไปจนจบสิ้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และคุณต้องยืนหยัดต่อสู้เพื่อทุกตารางนิ้วของยูเครน"

แม็คเกรเกอร์ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายแรกที่ออกมาบ่งชี้ว่า เซเลนสกี เคยพร้อมสำหรับสันติภาพในเดือนมีนาคม โดยก่อนหน้านี้ ฟิโอนา ฮิลล์ ทูตระดับอาวุโสของสหรัฐฯ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการอาวุโสด้านยุโรปและรัสเซียของสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เขียนในเดือนกันยายน ว่า ในการพูดคุยที่อิสตันบูล ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องใน "ข้อตกลงชั่วคราวหนึ่ง"

ในเดือนพฤษภาคม สื่อมวลชนยูเครนระบุว่าแรงกดดันของจอห์นสันที่มีต่อเคียฟ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจรจาที่พังครืนลง โดยนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรรายนี้เดินทางเยือนเคียฟในวันที่ 9 เมษายน และตามรายงานของหนังสือพิมพ์พราฟดาของยูเครน ระบุเขาได้บอกกับเจ้าหน้าที่ยูเครนว่า "แม้ยูเครนพร้อมลงนามในข้อตกลงบางอย่างในคำรับประกันกับปูติน แต่พวกเขา (ตะวันตก) ไม่พร้อม"

เวลานี้ความขัดแย้งลากยาวมานานเกือบ 10 เดือนแล้ว เซเลนสกีประกาศห้ามเจรจากับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย และประกาศกร้าวว่าจะทวงทุกแคว้น ทั้งโดเนตสก์ ลูฮันสก์ เคียร์ซอน และซาโปริซเซีย ซึ่งลงประชามติเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซียในเดือนกันยายน คืนกลับมา นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนยังประกาศทวงคืนไครเมียด้วยเช่นกัน ในขณะที่แคว้นแห่งนี้ถูกรัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนตั้งแต่ปี 2014

ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน เผยว่ารัสเซียคงเปิดกว้างสำหรับการเจรจา แต่แนะนำในเดือนตุลาคมว่า มหาอำนาจตะวันตกจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย โดยชี้ว่าข้อตกลงหนึ่งใดที่มีแค่ยูเครน อาจโดนยกเลิกในทันทีตามคำสั่งของตะวันตก

(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)