เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวหาสหรัฐฯ และนาโต้ กำลังมีบทบาทโดยตรงและอันตรายในสงครามยูเครน และวอชิงตันได้เปลี่ยนเคียฟกลายเป็นภัยคุกคามมอสโกที่ไม่อาจเพิกเฉยได้
นอกจากนี้ ระหว่างการแถลงประจำปีในกรุงมอสโก เมื่อวันพฤหัสบดี (1 ธ.ค.) ลาฟรอฟยังกล่าวหาสหรัฐฯ และนาโต้ กำลังพยายามโหมกระพือความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ และพยายามล้มล้างทุกองค์กรที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการทูต เช่น องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือ (OSCE) ในยุโรป และ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในเอเชีย
"เวลานี้ทะเลจีนใต้เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่นาโต้อยากจะขยายสถานการณ์ความตึงเครียดให้ลุกลามบานปลาย แบบเดียวกับที่พวกเขาทำในยูเครน" ลาฟรอฟกล่าว "เรารู้ว่าจีนคร่ำเคร่งกับการยั่วยุดังกล่าวมากแค่ไหนเราเข้าใจว่านาโต้กำลังเล่นกับไฟในภูมิภาคต่างๆ เหล่านี้ ที่คุกคามและก่อความเสี่ยงแก่สหพันธรัฐรัสเซีย มันอยู่ใกล้ชายฝั่งของเราและทะเลของเรา เช่นเดียวกับดินแดนของจีน"
ลาฟรอฟ ระบุต่อว่า มันเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงรัสเซียกำลังยกระดับความร่วมมือด้านการทหารกับจีน และทำการซ้อมรบร่วม "ข้อเท็จจริงคือสมาชิกของนาโต้ภายใต้การนำของสหรัฐฯ กำลังพยายามก่อสถานการณ์ปะทุที่นั่น ตามหลังเหตุการณ์ในยุโรป อย่างที่ทุกคนเข้าใจ"
รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียไม่ได้มอบหลักฐานสนับสนุนคำกล่าวอ้างของเขา แต่พาดพิงถึงรูปแบบรวมตัวพันธมิตร AUKUS ระหว่างสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย
นอกจากนี้ เขายังกล่าวหานาโต้พยายามลากอินเดีย เข้าสู่สิ่งที่เขาเรียกว่าพันธมิตรต่อต้านรัสเซียและจีน ในช่วงเวลาที่ตะวันตกกำลังพยายามสกัดอิทธิพลของรัสเซีย
ขณะเดียวกัน ลาฟรอฟ ได้กล่าวปกป้องปฏิบัติการของรัสเซียที่ใช้ขีปนาวุธ โดรน และการโจมตีทางอากาศทำลายโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน การโจมตีที่ทางเคียฟและตะวันตกกล่าวหาว่าเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม
"เราตัดขาดโรงไฟฟ้าในยูเครน ที่เปิดทางให้พวกคุณ (ตะวันตก) ผลิตอาวุธสังหารเข้าสู่ยูเครน เพื่อเข่นฆ่าชาวรัสเซีย" ลาฟรอฟกล่าว "ดังนั้น จงอย่าพูดว่าสหรัฐฯ และนาโต้ไม่ได้มีส่วนร่วมในสงครามนี้ คุณมีส่วนร่วมโดยตรง ในนั้นไม่ใช่แค่ส่งมอบอาวุธ แต่ยังฝึกฝนบุคลากร คุณฝึกฝนทหารยูเครนในดินแดนของคุณ"
คำแถลงด่าทอตะวันตกอันยืดยาวของลาฟรอฟ มีขึ้นในขณะที่ปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ล่วงเลยเข้าสู่เดือนที่ 10 แล้ว และการสู้รบในภาคตะวันออกยังคงเป็นไปอย่างดุเดือด ส่วนบรรดาเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต่างๆ ของยูเครน ยังคงพยายามอย่างหนักในการกู้คืนไฟฟ้ากลับมา หลังจากเกิดไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง ผลจากปฏิบัติการโจมตีของรัสเซีย
ลาฟรอฟกล่าวหาตะวันตกด้วยว่ากำลังใช้ความขัดแย้งทำลายรัสเซีย "การพูดจาของตะวันตก ในความสนใจหาทางออกอย่างสันติรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งไม่ประทับใจเราเท่าไหร่" เขากล่าว "ตะวันตกแสดงออกอย่างเปิดเผยว่าพวกเขาไม่ได้แค่ต้องการเห็นรัสเซียพ่ายแพ้ในสมรภูมิรบ แต่พวกเขายังบอกว่ารัสเซียควรถูกทำลายในฐานะผู้เล่นรายหนึ่งเช่นกัน และบางส่วนถึงขั้นจัดประชุมพิเศษ กะเก็งว่ารัสเซียจะแตกเป็นเสี่ยงๆ มากน้อยแค่ไหนและใครจะเป็นผู้ควบคุมส่วนนั้นๆ"
ความเห็นของเขาดูเหมือนเป็นการพาดพิงข้อเท็จจริงที่ว่า มีนักการเมืองตะวันตกบางส่วนบอกว่า พวกเขาต้องการหาทางรับประกันว่ารัสเซียจะไม่สามารถเป็นภัยคุกคามบรรดาประเทศเพื่อนบ้านได้อีกต่อไป และความเห็นของนักการเมืองยูเครนบางคนที่กะเก็งว่ารัสเซียจะคงความสมัครสมานในฐานะประเทศเดียวได้อีกนานแค่ไหน
แม้ ลาฟรอฟ จะใช้เวลาส่วนใหญ่ของการแถลงไปที่การวิพากษ์วิจารณ์ตะวันตก แต่เขาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่ารัสเซียเปิดรับความเป็นไปได้ของการเจรจา กับทั้งยูเครนและสหรัฐฯ
"รัสเซียพร้อมฟังทุกคนที่ต้องการพูดคุยหารือ" เขากล่าว พร้อมระบุว่า รัสเซียไม่เคยเบือนหนีความเป็นไปได้ใดๆ ในการติดต่อระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯและประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย และได้แสดงถึงความตั้งใจนี้ไปแล้ว ในการขานรับผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศส ที่ต้องการพูดคุยหารือในประเด็นยูเครน
ยูเครนยืนกรานมาตลอดว่าพวกเขาจะพร้อมเจรจาก็ต่อเมื่อรัสเซียถอนกำลังทั้งหมดออกจากดินแดนของพวกเขา ในนั้นรวมถึงไครเมีย ที่มอสโกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014 และกล่าวหารัสเซียว่าจะใช้โต๊ะเจรจาเพื่อจุดประสงค์เดียว นั่นคือโอกาสของการซื้อเวลาเพื่อคืนชีพกองทัพของพวกเขา
(ที่มา : รอยเตอร์)
