กองกำลังฝ่ายยูเครนเข้าโจมตศูนย์บัญชาการของวากเนอร์กรุ๊ป กลุ่มทหารรับจ้างที่ทำงานให้รัสเซีย ส่งผลให้ทหารรับจ้างจำนวนมากเสียชีวิต ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ ในยูเครนตะวันออก ซึ่งเวลานี้ต้องลี้ภัย ภายหลังถูกกองกำลังรัสเซียยึดดินแดนในแคว้นไปเกือบหมด ออกมากล่าวอ้างในวันอาทิตย์ (11 ธ.ค.)
เซอร์ฮี ไกได ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ของฝ่ายเคียฟ ให้สัมภาษณ์สถานีทีวีของยูเครน ว่า กองกำลังยูเครนโจมตีโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองคาดิฟา ทางด้านตะวันตกของเมืองลูฮันสก์ในวันเสาร์ (10) พร้อมกับโพสต์ภาพทางแพลตฟอร์มสื่อสังคมเทเลแกรม ซึ่งแสดงให้เห็นอาคารหลังหนึ่งที่พังทลายเกือบทั้งหมด
ไกไดอ้างว่า โรงแรมดังกล่าวเป็นศูนย์บัญชาการของกลุ่มวากเนอร์ และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่คือทหารรับจ้าง
ทั้งนี้ บีบีซี และสำนักข่าวรอยเตอร์ที่รายงานคำพูดของไกโด ต่างบอกว่า ไม่สามารถตรวจสอบยืนยันอย่างอิสระได้ว่า กลุ่มวากเนอร์อยู่ในโรงแรมดังกล่าวจริง
ไกไดไม่ได้ระบุตัวเลขผู้เสียชีวิต แต่อ้างว่า พวกที่รอดชีวิตอย่างน้อย 50% น่าจะตายก่อนได้รับการรักษา เนื่องจากก่อนหน้านี้รัสเซียได้ขโมยอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปหมดแล้วแม้แต่ในแคว้นลูฮันสก์
สื่อบางแห่งของยูเครนรายงานโดยอ้างคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่า โรงแรมที่ถูกโจมตีปิดให้บริการมาระยะหนึ่งแล้ว
ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับข่าวนี้
ทั้งนี้ กลุ่มวากเนอร์เป็นผู้รับเหมาสัญญาการทหารเอกชนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเครมลิน และเป็นที่รู้กันว่า ทหารรับจ้างของวากเนอร์สู้รบอยู่ในบางพื้นที่ของยูเครน รวมทั้งได้รับการว่าจ้างในหลายประเทศในแอฟริกา กลุ่มนี้ยังถูกกล่าวหาบ่อยครั้งว่าก่ออาชญากรรมสงครามและละเมิดสิทธิมนุษยชน
ก่อนหน้านี้ ไกไดเคยอ้างว่ากองทัพยูเครนโจมตีเป้าหมายอื่นๆ หลายแห่งในลูฮันสก์ ซึ่งรวมถึงศูนย์บัญชาการของวากเนอร์ในเมืองโปปาสนา เมื่อเดือนสิงหาคม
รายงานข่าวการโจมตีศูนย์บัญชาการของกลุ่มวากเนอร์คราวนี้ เกิดขึ้นขณะที่มีการสู้รบทางภาคใต้ของยูเครนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรัสเซียระดมโจมตีเมืองโอเดสซา และยูเครนถล่มเป้าหมายในเมืองเมลิโตโปลที่มอสโกยึดครองอยู่
อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี เผยว่า ท่าเรือในโอเดสซาสามารถเปิดทำการอีกครั้ง หลังถูกรัสเซียส่งโดรนถล่มโรงไฟฟ้า 2 แห่งเมื่อวันเสาร์ และทางการกำลังเร่งซ่อมแซมเพื่อให้ประชาชน 1.5 ล้านคนมีไฟฟ้าใช้
ผู้นำยูเครนเสริมว่า พื้นที่อื่นๆ ที่เผชิญความยากลำบากอย่างยิ่งด้านพลังงาน ยังมีกรุงเคียฟ และปริมณฑล 4 แคว้นทางตะวันตก และแคว้นดนิโปรเปตรอฟสก์ตอนกลางของประเทศ
อย่างไรก็ดี ในช่วงคืนวันอาทิตย์ (11) ที่ผ่านมาไม่มีรายงานว่ารัสเซียเข้าโจมตี หรือต้องมีการดับไฟฟ้า
ขณะเดียวกัน เซเลนสกีเร่งดำเนินการทางการทูตด้วยการหารือทางโทรศัพท์กับผู้นำสหรัฐฯ ฝรั่งเศส และตุรกี ก่อนการประชุมจี7 และสหภาพยุโรป (อียู) ในวันจันทร์ (12) ที่อาจมีการตกลงเพิ่มมาตรการแซงก์ชันรัสเซีย
ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวกับเซเลนสกีระหว่างการหารือทางโทรศัพท์เมื่อวันอาทิตย์ว่า เป้าหมายสำคัญที่สุดของวอชิงตันในการช่วยเหลือยูเครนคือการยกระดับการป้องกันภัยทางอากาศ ขณะที่เซเลนสกีขอบคุณไบเดนสำหรับความช่วยเหลือทางทหารและทางการเงินอย่างมากมายชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนที่อเมริกามอบให้เคียฟ
นอกจากนั้น ระหว่างให้สัมภาษณ์รายการ “60 มินิตส์” ของเครือข่ายโทรทัศน์ซีบีเอส เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ยังประกาศว่า วอชิงตันให้การสนับสนุนทางทหารและเศรษฐกิจของยูเครนรวมมูลค่ากว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ และจะให้การสนับสนุนต่อไป อีกทั้งย้ำว่า การทำให้สงครามสิ้นสุดลงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่อเมริกาสามารถทำได้เพื่อเศรษฐกิจโลก
ทางด้านสำนักงานประธานาธิบดีตุรกีแถลงว่า ประธานาธิบดีตัยยิป แอร์โดอัน หารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน โดยเรียกร้องให้รัสเซียยุติความขัดแย้งในยูเครนโดยเร็ว
อนึ่ง สัปดาห์ที่แล้ว ปูตินประกาศว่า ความไว้ใจต่อตะวันตกที่ใกล้หมดลงอาจทำให้การเจรจาเกี่ยวกับยูเครนยากขึ้น และเตือนว่า สงครามอาจยืดเยื้อต่อไป
(ที่มา : บีบีซี, รอยเตอร์)