เอาคืน! มอสโกระดมยิงขีปนาวุธถล่มทั่วยูเครน แค้นเคียฟส่งโดรนโจมตีฐานทัพในแผ่นดินรัสเซีย

ยูเครนระบุรัสเซียยิงห่าขีปนาวุธระลอกใหม่ในวันจันทร์ (5 ธ.ค.) ทำลายบ้านเรือนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและก่อไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ ในขณะที่มอสโกกล่าวหาว่าเคียฟส่งโดรนโจมตีฐานทัพอากาศ 2 แห่งของพวกเขาที่อยู่ภายในดินแดนของรัสเซีย ไกลออกไปจากแนวหน้าหลายร้อยกิโลเมตร

การโจมตีระลอกใหม่ในยูเครนด้วยห่าขีปนาวุธ เป็นไปตามที่คาดหมายไว้หลายวันแล้ว และมันเกิดขึ้นในขณะที่มาตรการดับไฟฉุกเฉินของยูเครนเพิ่งจะสิ้นสุดลง หลังความเสียหายจากการถูกโจมตีระลอกก่อนหน้านี้ได้รับการซ่อมแซมแล้ว ทั้งนี้ การโจมตีระลอกใหม่ทำให้หลายพื้นที่ของยูเครนกลับสู่ความมืดมิดและหนาวเหน็บอีกครั้ง ท่ามกลางอุณหภูมิลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็งศูนย์องศาเซลเซียส

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เผยว่ามีผู้เสียชีวิต 4 รายในเหตุโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซีย พร้อมอ้างในบรรดาขีปนาวุธทั้งหมด 70 ลูกของมอสโก ทางเคียฟสามารถสอยร่วงได้เป็นส่วนใหญ่ และเวลานี้เจ้าหน้าที่ด้านพลังงานได้เริ่มงานกู้คืนอุปทานไฟฟ้าแล้ว

กระทรวงกลาโหมของรัสเซียเผยว่าโดรนของรัสเซียโจมตีฐานทัพอากาศ 2 แห่งในเมืองรยาซาน และซาราตอฟ ทางภาคกลางตอนใต้ของรัสเซีย ส่งผลให้กำลังพลเสียชีวิต 3 นายและบาดเจ็บ 4 คน เครื่องบินได้รับความเสียหาย 2 ลำ เนื่องจากโดนเศษซากโดรนที่พวกเขาสอยร่วงนั้นตกลงมาใส่

ยูเครนไม่กล่าวอ้างโดยตรงว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีดังกล่าว แต่ถ้ามันเป็นฝีมือของพวกเขาจริง นั่นเท่ากับว่าหนนี้ เคียฟได้ปฏิบัติการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซียมากที่สุด นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์

หนึ่งในเป้าหมายที่ถูกโจมตีนั้น ได้แก่ ฐานทัพอากาศเอ็นเจลส์ใกล้เมืองซาราตอฟ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 730 กิโลเมตร และเป็นฐานประจำการของฝูงบินทิ้งระเบิดของกองกำลังนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์แห่งรัสเซีย

"รัฐบาลเคียฟ เพื่อตัดขาดการใช้งานเครื่องบินพิสัยไกลของรัสเซีย ได้พยายามโจมตีด้วยอากาศยานไร้คนขับที่ผลิตโดยโซเวียต เล็งเป้าหมายท่าอากาศยานทางทหารดยากิเลโว ในแคว้นรยาซาน และในท่าอากาศยานเอ็นเจลส์ ในแคว้นซาราตอฟ" กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุ

ถ้อยแถลงของกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุต่อว่า โดรนเหล่านั้นซึ่งบินด้วยความสูงระดับต่ำ ถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศสกัดไว้และยิงร่วง อย่างไรก็ตาม มีรายงานกำลังพลเสียชีวิต 3 รายที่ฐานทัพในรยาซาน ห่างจากมอสโก ไปทางตะวันออกเฉียงใต้แต่ราวๆ 185 กิโลเมตร

กระทรวงกลาโหมรัสเซียประณามเหตุโจมตีด้วยโดรนครั้งนี้ว่าเป็นการกระทำก่อการร้าย ที่เล็งเป้าหมายก่อความปั่นป่วนวุ่นวายแก่การบินระยะไกลของพวกเขา

ในถ้อยแถลง กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุ ในเรื่องนี้ รัสเซียตอบโต้ด้วยปฏิบัติการโจมตีขนานใหญ่ถล่มระบบควบคุมการทหารและเป้าหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องระบบป้องกันตนเอง ศูนย์การติดต่อสื่อสาร หน่วยพลังงานและหน่วยทหารของยูเครน ด้วยอาวุธที่มีความแม่นยำสูง ยิงจากอากาศและทะเล ในสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเข้าเป้าทุก 17 เป้าหมายที่กำหนดไว้

แต่กองทัพอากาศยูเครนอ้างว่าสามารถสอยร่วงขีปนาวุธ 60 ลูกจากทั้งหมด 70 ลูกที่รัสเซียยิงออกมาในวันจันทร์ (5 ธ.ค.) ในปฏิบัติการโจมตีระลอกล่าสุดที่ดำเนินการต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ โดยมีเป้าหมายถล่มโครงสร้างพื้นฐานอันสำคัญของยูเครน เพื่อตัดไฟ ตัดน้ำและความร้อนในหลายพื้นที่ของยูเครน

ด้วยที่แคว้นซาราตอฟ อยู่ห่างจากดินแดนของยูเครนที่อยู่ใกล้ที่สุด ถึงอย่างน้อยๆ 600 กิโลเมตร พวกผู้สัดทัดกรณีชาวยูเครนพากันแสดงความคิดเห็นบนสื่อสังคมออนไลน์ว่า หากยูเครนสามารถโจมตีได้ลึกเข้ามาในดินแดนของรัสเซียขนาดนั้น นั่นหมายความว่าเคียฟอาจมีศักยภาพโจมตีมอสโกได้เช่นกัน

ที่ผ่านมา เหตุระเบิดลึกลับที่ก่อความเสียหายแก่คลังอาวุธและคลังเชื้อเพลิงของรัสเซีย เกิดขึ้นแต่ในเฉพาะภูมิภาคต่างๆ ที่อยู่ใกล้กับยูเครน เช่นเดียวกับในแคว้นไครเมีย แหลมในทะเลดำ ที่รัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014 ที่ก่อความเสียหายแก่เครื่องบินรบอย่างน้อยๆ 7 ลำ

เคียฟไม่เคยออกมากล่าวอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดเหล่านั้น โดยบอกแต่เพียงว่ามันเป็นกรรมตามสนองสำหรับการรุกรานของรัสเซีย

มอสโกโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของยูเครนมาเกือบทุกสัปดาห์นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคม หลังจากกองกำลังของพวกเขาถอยร่นออกจากแนวหน้าของบางสมรภูมิ

หนล่าสุดนี้ ตำรวจในมอลโดวาเผยว่าได้รับรายงานการพบเศษชิ้นส่วนขีปนาวุธตกในดินแดนของพวกเขาที่อยู่ใกล้ชายแดนยูเครน ส่วนคีรีโล ทีโมเชนโก รองหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบประธานาธิบดียูเครน ระบุว่าในแคว้นซาโปริซเซีย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คนและบ้านเรือนถูกทำลายได้หลายหลัง

นอกจากนี้ พวกเจ้าหน้าที่เผยว่าที่ตั้งทางพลังงานหลายแห่งในแคว้นเคียฟและวินนีตเซีย ทางภาคกลางของยูเครน แคว้นโอเดซา ทางภาคใต้และแคว้นซูมี ทางภาคเหนือ ก็ถูกโจมตีด้วยเช่นกัน

โอเลกซีย์ คูเลบา ผู้ว่าการแคว้นเปิดเผยว่าราว 40% ของแคว้นเคียฟต้องอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่ขณะเดียวกันเขาได้กล่าวยกย่องระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนที่ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม

รัสเซียระบุว่า การโจมตีระลอกแล้วระลอกเล่าออกแบบมาเพื่อลดทอนศักยภาพด้านการทหารของยูเครน แต่ทางยูเครนระบุชัดเจนว่ามันเล็งเป้าหมายเล่นงานพลเรือน และเข้าองค์ประกอบของการก่ออาชญากรรมสงคราม

(ที่มา : รอยเตอร์)