เอพี - พระราชาธิบดีมาเลเซียหารือกับสมาชิกรัฐสภาในวันพุธ (23 พ.ย.) และเตรียมปรึกษาสมาชิกราชวงศ์จาก 9 รัฐเพื่อสรรหานายกรัฐมนตรีและผ่าทางตันทางการเมือง ขณะที่ตำรวจยกระดับการรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญ หลังมีการโพสต์ข้อความสนับสนุนกลุ่มการเมืองของมูห์ยิดดิน และเตือนว่า อาจเกิดความไม่สงบด้านเชื้อชาติหากแนวร่วมหลากหลายชาติพันธุ์ของอันวาร์ได้ชัยชนะ
ปากาตัน ฮาราปัน หรือกลุ่มพันธมิตรแห่งความหวังของผู้นำฝ่ายค้าน อันวาร์ อิบราฮิม กวาดคะแนนเลือกตั้งสูงสุดโดยได้ที่นั่งในสภา 82 ที่นั่ง แต่ไม่ครบ 112 ที่นั่งสำหรับการเป็นพรรคเสียงข้างมาก ขณะที่เปอริกาตัน เนชันแนล หรือกลุ่มพันธมิตรแห่งชาติของอดีตนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน ได้ 73 ที่นั่ง สภาวะสภาแขวนที่เกิดขึ้นขณะนี้ฟื้นวิกฤตผู้นำครั้งใหม่หลังจากมาเลเซียมีนายกรัฐมนตรีถึง 3 คน นับจากปี 2018
พรรคการเมืองที่ได้ที่นั่งในสภาสูงสุดจากการเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ (19 พ.ย.) คือพรรคแพน-มาเลเซียน อิสลามิก หรือพาส พันธมิตรหัวรุนแรงในกลุ่มเปอริกาตันของมูห์ยิดดิน ที่ได้ที่นั่ง 49 ที่นั่ง มากกว่าปี 2018 กว่า 2 เท่า โดยพาสสนับสนุนกฎหมายอิสลาม ปกครอง 3 รัฐ และเป็นพรรคการเมืองใหญ่ที่สุดในขณะนี้
และขณะที่การสรรหานายกรัฐมนตรียังดำเนินต่อไป อาคริล ซานี อับดุลเลาะห์ ซานี ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย แถลงในวันพุธว่า ได้ยกระดับการรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ทั่วประเทศเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและความสงบเรียบร้อย โดยก่อนหน้านี้ ตำรวจเตือนว่าจะจัดการขั้นเด็ดขาดกับผู้ใช้โซเชียลมีเดียที่จุดชนวนการต่อต้านเชื้อชาติและศาสนา จากการโพสต์ข้อความเตือนว่า อาจเกิดปัญหาด้านเชื้อชาติหากกลุ่มการเมืองหลากหลายชาติพันธุ์ของอันวาร์ได้ชัยชนะ
ทั้งนี้ ประชากร 33 ล้านคนของมาเลเซียเป็นชาวมาเลย์มุสลิมถึง 2 ใน 3 นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มชาติพันธุ์ขนาดใหญ่คือคนเชื้อสายจีนและอินเดีย
กลุ่มประชาสังคมและองค์กรสิทธิมนุษยชนเผยว่า ตรวจพบความพยายามบนโซเชียลมีเดียในการสนับสนุนกลุ่มพันธมิตรของมูห์ยิดดิน และสร้างภาพว่า อันวาร์ และพรรคเดโมเครติก แอ็กชัน (ดีเอพี) หนึ่งในกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน และเป็นพรรคการเมืองของคนเชื้อสายจีน เป็นปีศาจ
กลุ่มอิสลามิกมักป้ายสีดีเอพีเป็นปีศาจเพื่อเตือนชาวมาเลย์เกี่ยวกับการครอบงำทางการเมืองของชนกลุ่มน้อยเชื้อสายจีนหากกลุ่มพันธมิตรของอันวาร์ชนะการเลือกตั้ง
กลุ่มประชาสังคมและองค์กรสิทธิมนุษยชนเสริมว่า โพสต์ดังกล่าวกล่าวหาดีเอพีเป็นตัวการทำให้เกิดความรุนแรงในปี 1969 ที่มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน ส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อสายจีน
ทั้งนี้ โครงการยืนยันสิทธิความสำคัญของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวมาเลย์ที่ให้สิทธิพิเศษด้านการจ้างงาน ที่พักอาศัย และการศึกษาแก่ชาวมาเลย์ ริเริ่มขึ้นหลังเหตุการณ์ความไม่สงบในปี 1969 เพื่อให้โอกาสชาวมาเลย์ลดช่องว่างด้านความมั่งคั่งกับชนเชื้อสายจีนที่เชี่ยวชาญการทำธุรกิจ
กลุ่มประชาสังคมและองค์กรสิทธิมนุษยชนสำทับว่า ในเวลาต่อมาโพสต์ข้อความก็พัฒนาเป็นวิดีโอที่มีภาพอาวุธและข้อความเตือนชาวมาเลย์ให้ระวังดีเอพี และปากาตัน ฮาราปัน และขู่ว่าอาจเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นอีก
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า พระราชาธิบดีสุลต่าน อับดุลเลาะห์ สุลต่าน อาหมัด ชาห์ เสนอแนวทางรัฐบาลเอกภาพหลังหารือกับผู้นำทั้ง 2 คนเมื่อวันอังคาร แต่มูห์ยิดดินปฏิเสธแนวคิดนี้ และในวันพุธพระราชาธิบดีมาเลเซียได้พบกับกลุ่มพันธมิตรกลุ่มที่ 3 ที่นำโดยพรรคสหมาเลย์แห่งชาติ หรืออัมโน และกลุ่มการเมืองทรงอิทธิพลอีกกลุ่มจากเกาะบอร์เนียว
อาห์หมัด ซาฮิด ฮามิดี ประธานอัมโน เปิดเผยกับมาเลเซียกินี เว็บพอร์ทัลข่าวออนไลน์ว่า พระราชาธิบดีขอให้กลุ่มแนวร่วมแห่งชาติของตนเข้าร่วมรัฐบาลเอกภาพ และเขาจะหารือเพิ่มเติมกับแกนนำที่มีอำนาจตัดสินใจและสมาชิกสภา 30 คนที่ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ในช่วงค่ำวันพุธ โดยก่อนหน้านี้กลุ่มแนวร่วมแห่งชาติประกาศว่า จะไม่สนับสนุนผู้นำของพรรคใดๆ และจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านต่อไป
ทางด้านสำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ว่า สุลต่านอับดุลเลาะห์จะประชุมกับสมาชิกราชวงศ์จาก 9 รัฐเพื่อหาทางผ่าทางตันทางการเมืองอย่างรอบคอบ
กลุ่มพันธมิตรเพื่อการปฏิรูปของอันวาร์เคยชนะการเลือกตั้งในปี 2018 และสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกนับจากมาเลเซียประกาศเอกราชจากอังกฤษในปี 1957 แต่สุดท้ายรัฐบาลของอันวาร์ล่ม หลังจากมูห์ยิดดินแปรพักตร์ไปจับมือกับอัมโนตั้งรัฐบาลใหม่
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลของมูห์ยิดดินเผชิญปัญหารุมเร้าจากการแก่งแย่งภายใน เขาลาออกหลังจากเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้เพียง 17 เดือน โดยหลังจากนั้น พระราชาธิบดีทรงเลือกอิสลามิล ซาบรี ผู้นำอัมโน เป็นนายกรัฐมนตรี
สำนักข่าวเอพีระบุว่า ชาวมาเลย์ในชนบทจำนวนมากที่กลัวเสียสิทธิภายใต้ระบอบพหุนิยมของอันวาร์ และเบื่อหน่ายการทุจริตและการต่อสู้ในอัมโน ตัดสินใจเลือกกลุ่มการเมืองของมูห์ยิดดินแทนในการเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์