‘มาเลเซีย’ อึมครึม หวั่นพรรคอิสลามครองอำนาจ ขณะ ‘อันวาร์’ ดอดคุยศัตรูเก่า ‘อัมโน’ หวังจัดตั้งรัฐบาล

“อันวาร์ อิบรอฮิม” ผู้นำฝ่ายค้านของมาเลเซีย ซึ่งอายุที่มากขึ้นกัดกร่อนความหวังยาวนานของเขาที่จะได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศเสียที เมื่อวันจันทร์ (21 พ.ย.) ประกาศหันมาพึ่งพากลุ่มแนวร่วมนำโดย “พรรคอัมโน” ศัตรูเก่าที่คราวนี้แพ้เลือกตั้งหลุดลุ่ยจากกรณีคอร์รัปชันสุดอื้อฉาว ทั้งนี้ เพื่อแข่งขันจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่กับอดีตนายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน ที่ทำท่าได้เปรียบหลังไม่มีผู้ชนะที่ครองเสียงข้างมากชัดเจน ขณะที่ตลาดการเงินชวนกันร่วงเนื่องจากกังวลว่า พรรคพาส ซึ่งเป็นพรรคแนวทางเคร่งครัดหลักศาสนาอิสลาม ในกลุ่มของมูย์ยิดดิน มีคะแนนนิยมดีขึ้นมาก และจะมีอิทธิพลสูงขึ้นในการกำหนดนโยบายของประเทศ

ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับรัฐบาลชุดใหม่ของมาเลเซีย ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันเสาร์ (19) ไม่มีพรรคหรือกลุ่มแนวร่วมใดๆ ได้ครองเสียงข้างมาก หรือที่เรียกกันว่า สภาวะ “สภาแขวน” ยังคงยืดเยื้อต่อไปอย่างน้อยอีกหนึ่งวัน หลังจากสมเด็จพระราชาธิบดีอัล-สุลต่าน อับดุลเลาะห์ ขยายเส้นตายจากบ่ายวันจันทร์ (21) เป็นวันอังคาร (22) เพื่อให้พรรคต่างๆ รวบรวมกลุ่มพันธมิตรซึ่งสามารถครองเสียงข้างมากในรัฐสภา

การเมืองมาเลเซียหลังการเลือกตั้งยังคงเผชิญความไร้เสถียรภาพต่อไป ภายหลังช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 3 คน และการดำเนินการตัดสินใจทางการเมืองที่จำเป็นเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศมีอันต้องล่าช้าออกไปอีก

ด้านนักลงทุนออกมาแสดงปฏิกิริยาแง่ลบต่อผลการเลือกตั้งที่ชี้ถึงความไร้เสถียรภาพ โดยในวันจันทร์ ทั้งค่าเงินริงกิตและตลาดหุ้นกัวลาลัมเปอร์ตกลงตามๆ กัน

การที่พรรคแพน-มาเลเซียน อิสลามิก (พาส) ซึ่งส่งเสริมการตีความใช้กฎหมายอิสลามอย่างเข้มงวด และเป็นพรรคสำคัญภายในกลุ่มแนวร่วมที่นำโดยอดีตนายกรัฐมนตรียัสซิน ได้คะแนนเพิ่มขึ้นอย่างมากในการเลือกตั้งคราวนี้ทำให้นักลงทุนหวาดหวั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายต่อการพนันและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ในวันจันทร์ (21) อันวาร์ ซึ่งเวลานี้อายุ 75 ปี เปิดเผยว่า ได้พบกับผู้นำบางคนของแนวร่วมบาริซัน เนชันแนล ซึ่งมีพรรคสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) เป็นแกนนำ เพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจับมือเป็นพันธมิตรจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ แต่ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ และเสริมว่า บาริซันจะพบกับกลุ่มการเมืองอื่นๆ ก่อนตัดสินใจเช่นเดียวกัน

แต่เวลาต่อมา กลุ่มแนวร่วมของอันวาร์ ออกคำแถลงระบุว่า ได้เข้าสู่ขั้นตอนการเจรจาอย่างจริงจังกับบาริซัน เนชันแนลแล้ว

ทั้งนี้ แม้กลุ่มบาริซันซึ่งนำโดยอัมโน ที่กุมอำนาจในมาเลเซียมายาวนานแต่ช่วงหลังๆ ชื่อเสียงแปดเปื้อนจากคดีทุจริต ประสบความปราชัยยับเยินที่สุดในประวัติศาสตร์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ขณะนี้ยังคงมีบทบาทสำคัญในการชี้ขาดว่า ใครจะได้เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากได้ที่นั่งในสภา 30 ที่นั่ง ซึ่งเป็นที่ต้องการของทั้งอันวาร์ และมูห์ยิดดิน ในการรวบรวมเสียงสนับสนุนให้ได้อย่างน้อย 112 ที่นั่งสำหรับการครองเสียงข้างมากในสภา

เวลานี้กลุ่มแนวร่วมที่ประกอบด้วยพรรคและกลุ่มหลากหลายชาติพันธุ์ของอันวาร์นั้นได้ 82 ที่นั่ง ส่วนกลุ่มของมูห์ยิดดินได้ 73 ที่นั่ง แต่ได้การสนับสนุนจากพรรคเล็กอีก 2 พรรคทำให้มีที่นั่งทั้งหมด 101 ที่นั่ง

หาก อัมโน หันมาสนับสนุน อันวาร์ ในครั้งนี้ จะถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ โดยเมื่อตอนที่ อันวาร์ ลาออกจากอัมโนในช่วงปลาย 1990 เขาได้เริ่มรณรงค์เคลื่อนไหวปฏิรูปเพื่อต่อต้านการทุจริต ซึ่งกระทำโดย อัมโน นอกจากนั้นอันวาร์ยังถูกจำคุก 10 ปีจากข้อหารักร่วมเพศและทุจริต ซึ่งเขายืนยันว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง

นอกจากนั้น กลุ่มแนวร่วมของอันวาร์ ยังต่อต้านโครงการยืนยันสิทธิความสำคัญของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวมาเลย์ ของอัมโน อีกด้วย

ในอีกด้านหนึ่ง นักวิเคราะห์จำนวนมากกังวลว่า พาส อาจได้เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลและมีอิทธิพลต่อนโยบายของประเทศ

เมื่อปี 2017 พรรคนี้เคยแสดงอิทธิพลบังคับยกเลิกเทศกาลเบียร์สดในกัวลาลัมเปอร์ ปีต่อมา ผู้หญิง 2 คนที่ถูกตัดสินว่ามีพฤติกรรมรักร่วมเพศถูกเฆี่ยนต่อหน้าคนกว่า 100 คนในรัฐที่พาสเป็นรัฐบาลท้องถิ่น

พวกนักวิจารณ์เตือนมานานหลายปีแล้วว่า กลุ่มอนุรักษนิยมอิสลามอาจแทรกซึมเข้าไปมีบทบาทในสังคมและการเมืองของมาเลเซียมากขึ้นเรื่อยๆ และระบุว่า กลุ่มหัวรุนแรงกำลังบ่อนทำลายแนวทางแบบสายกลางซึ่งเป็นลักษณะเด่นของของศาสนาอิสลามในมาเลเซียมาแต่ไหนแต่ไร

(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)