คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของผู้นำเกาหลีเหนือ ออกมาแถลงเตือนวานนี้ (22 พ.ย.) ว่า สหรัฐฯ อาจเผชิญ “วิกฤตการณ์ด้านความมั่นคงที่ร้ายแรงยิ่งกว่าเดิม” จากการที่พวกเขาผลักดันให้องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ลงมติประณามการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ของเกาหลีเหนือ
คำเตือนจาก คิม โยจอง มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่ ลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น กล่าวในเวทีประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นว่า สหรัฐฯ เตรียมแจกจ่ายคำแถลงของประธานาธิบดีซึ่งมีเนื้อหาประณามการยิงขีปนาวุธและพฤติกรรมบ่อนทำลายเสถียรภาพอื่นๆ ของเกาหลีเหนือ และในการประชุมครั้งนี้ โธมัส-กรีนฟิลด์ ยังได้อ่านคำแถลงร่วมของ 14 ประเทศซึ่งสนับสนุนให้ใช้มาตรการสกัดกั้นความก้าวหน้าในโครงการอาวุธของโสมแดง
คิม โยจอง ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นสตรีผู้มีอำนาจสูงสุดในเกาหลีเหนือรองจาก คิม จองอึน ผู้เป็นพี่ชาย วิจารณ์สหรัฐฯ ว่าเผยแพร่ “คำแถลงร่วมที่น่ารังเกียจ” ร่วมกับอังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
เธอเปรียบสหรัฐฯ ว่าไม่ต่างอะไรกับ “สุนัขที่เห่าด้วยความกลัว” และเกาหลีเหนือถือว่าคำแถลงร่วมที่อเมริกาเป็นตัวตั้งตัวตี “เข้าข่ายละเมิดอธิปไตย และเป็นการยั่วยุทางการเมืองที่รุนแรง”
“สหรัฐฯ ควรจำไว้ด้วยว่า ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามปลดอาวุธ (เกาหลีเหนือ) มากขนาดไหน ก็ไม่มีทางปิดกั้นสิทธิของเราในการปกป้องตนเอง และยิ่งพวกเขากระทำการต่อต้านเกาหลีเหนือมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเผชิญวิกฤตด้านความมั่นคงที่ร้ายแรงมากขึ้นเท่านั้น” คำแถลงของ คิม โยจอง ซึ่งเผยแพร่ผ่านสื่อทางการเกาหลีเหนือ ระบุ
คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นได้มีการเรียกประชุมฉุกเฉินในวันจันทร์ (21) เพื่อกำหนดมาตรการตอบโต้การยิงทดสอบ ICBM ของเกาหลีเหนือเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (18) ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การยิงทดสอบขีปนาวุธแบบถี่ยิบเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าเปียงยางต้องการปรับปรุงคลังแสงนิวเคลียร์ให้มีความทันสมัย ซึ่งจะช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองทางการทูตในอนาคต
ขีปนาวุธที่โสมแดงยิงทดสอบเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (18) ยังรวมถึงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป “ฮวาซอง-17” ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบางคนชี้ว่า ความสำเร็จในการยิงด้วยมุมที่สูงชัน (steep-angle launch) เป็นข้อพิสูจน์ว่า ขีปนาวุธรุ่นนี้อาจมีศักยภาพพอที่จะโจมตีแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ ได้หากยิงในวิถีมาตรฐาน (standard trajectory)
เกาหลีเหนืออ้างว่าการทดสอบขีปนาวุธถือเป็น “สิทธิอันชอบธรรม” ของพวกเขาในการที่จะป้องกันตนเอง และตอบโต้การซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ที่เปียงยางมองว่าเป็นการ “ซ้อมรุกราน”
คิม โจยอง ระบุด้วยว่า การที่คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นถึงขั้นต้องเปิดการประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือเรื่องที่เกาหลีเหนือยิง ICBM แต่กลับ “เอาหูไปนา เอาตาไปไร่” กับการซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ สะท้อนให้เห็นว่าองค์กรแห่งนี้มีพฤติกรรม “สองมาตรฐาน”
เธอย้ำว่าเกาหลีเหนือจะ “ไม่อดทนกับความพยายามลิดรอนสิทธิในการป้องกันตนเอง” และ “จะใช้มาตรการตอบโต้จนถึงที่สุด” เพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ
ด้าน โซ ซอนฮุย (Choe Son Hui) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ ก็ออกมากล่าวเมื่อวันจันทร์ (21) ว่า อันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการใหญ่ยูเอ็น กำลังทำตัวเป็น “หุ่นเชิดของสหรัฐอเมริกา”
ที่มา : AP