xs
xsm
sm
md
lg

‘ไบเดน’ เรียกร้อง ‘สี’ เบรกโสมแดงทดสอบนิวเคลียร์ แต่ยอมรับ 'ไม่รู้จีนจะทำได้แค่ไหน'

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (14 พ.ย.) ว่า ตนได้ย้ำกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนว่าปักกิ่งมีพันธกรณีที่จะต้องป้องปรามไม่ให้เกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ขณะเดียวกัน ก็ยอมรับว่า “ไม่มั่นใจ” ว่าจีนจะสามารถกล่อมเปียงยางได้แค่ไหน

ไบเดน และ สี ได้เปิดการประชุมทวิภาคีนาน 3 ชั่วโมงเศษเมื่อวันจันทร์ (14) ก่อนที่การประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ที่บาหลีจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นการพบปะซึ่งหน้าครั้งแรกนับตั้งแต่ ไบเดน ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีที่แล้ว

ผู้นำสหรัฐฯ ระบุในงานแถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า ตนได้ย้ำเตือน สี ว่าสหรัฐฯ “จะทำในสิ่งที่จำเป็น” เพื่อปกป้องตนเองและชาติพันธมิตรอย่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่น หากเกาหลีเหนือรื้อฟื้นการทดสอบนิวเคลียร์อีกครั้งหลังจากที่ระงับไปตั้งแต่ปี 2017

ไบเดน ระบุด้วยว่า มาตรการตอบโต้ของสหรัฐฯ “อาจจะสร้างความไม่พอใจต่อจีนมากขึ้น” ทว่าไม่ได้มีเจตนาพุ่งเป้าไปที่จีนโดยตรง

เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์กับสื่อก่อนที่ซัมมิตไบเดน-สีจะเริ่มขึ้นว่า ผู้นำสหรัฐฯ มีแผนจะเตือน สี ว่า หากเกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าพัฒนาและทดสอบขีปนาวุธต่อไป อเมริกาอาจจำเป็นต้อง “เสริมกำลังทหาร” ในภูมิภาค ซึ่งเป็นสิ่งที่จีนคงจะไม่ต้องการให้เกิดขึ้น

ไบเดน เผยว่า ตนได้บอกกับ สี “ว่าผมเชื่อว่าพวกเขา (จีน) มีพันธกรณีที่จะต้องพยายามแสดงออกอย่างชัดเจน” ต่อเกาหลีเหนือว่าพวกเขาไม่ควรจะเดินหน้าทดสอบนิวเคลียร์

รัฐบาลโสมแดงงัดเอาขีปนาวุธสารพัดรุ่นออกมายิงทดสอบถี่ยิบในปีนี้ ขณะที่วอชิงตันก็เตือนมานานหลายเดือนแล้วว่า การทดลองระเบิดนิวเคลียร์ครั้งใหม่ของเปียงยางอาจเกิดขึ้นได้ “ทุกเวลา”

เมื่อถามว่าจีนจะมีความสามารถโน้มน้าวเกาหลีเหนือได้มากน้อยเพียงใด? ไบเดน ตอบว่า เขาเองก็ไม่มั่นใจว่าปักกิ่งจะสามารถ “ควบคุม” เพื่อนบ้านและพันธมิตรรายนี้ได้

“มันยากที่จะบอกว่าจีนมีศักยภาพเพียงพอหรือไม่... แต่ผมก็มั่นใจว่าจีนคงไม่ต้องการให้เกาหลีเหนือทำในสิ่งที่จะกระพือความตึงเครียดมากไปกว่านี้” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว

ทั้งนี้ หากโสมแดงทดสอบนิวเคลียร์ขึ้นมาจริงๆ ไบเดน ระบุว่า “เราจำเป็นจะต้องทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อปกป้องตนเองมากขึ้น และไม่ใช่การเป็นปฏิปักษ์ต่อจีนโดยตรง หากแต่เพื่อส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังเกาหลีเหนือ สหรัฐฯ จะปกป้องชาติพันธมิตร ตลอดจนดินแดนและศักยภาพของอเมริกา”

ในบรรดาขีปนาวุธที่โสมแดงยิงทดสอบในปีนี้ยังรวมถึงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ที่สามารถโจมตีได้ถึงแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ ขณะที่เจ้าหน้าที่อเมริกันกล่าวหาจีนและรัสเซียว่าคอยโอบอุ้มเปียงยาง และไม่ปฏิบัติตามมติคว่ำบาตรของสหประชาชาติเท่าที่ควรจะเป็น

แดเนียล รัสเซลล์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกในยุคของประธานาธิบดี บารัค โอบามา เชื่อว่าจีนมีอิทธิพลพอที่จะควบคุมพฤติกรรมของเกาหลีเหนือได้

“โอกาสที่สหรัฐฯ จะเสริมจุดยืนทางทหารร่วมกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในลักษณะของพันธมิตร 3 ฝ่าย อาจมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นให้ปักกิ่งต้องพยายามคุมเกาหลีเหนือ มากกว่าแค่คำวิงวอนของนักการทูตสหรัฐฯ” เขาให้ความเห็น

คริสโตเฟอร์ จอห์นสโตน ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกจากศูนย์เพื่อยุทธศาสตร์และระหว่างประเทศศึกษา (CSIS) ชี้ว่า จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาทำให้เห็นว่าจีนมีแนวโน้มที่จะช่วยกดดันเกาหลีเหนือมากขึ้น หากพวกเขารู้สึกว่าสหรัฐฯ กำลังเตรียมทำบางสิ่งบางอย่างที่จะไม่เป็นประโยชน์ต่อจีน

“มันจะเวิร์กไหม? ก็อาจจะไม่ และก็ไม่แน่ว่าจีนจะสามารถหยุดการทดสอบนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือได้ แต่อย่างน้อยก็เป็นการเตือนจีนให้ตระหนักถึงความเสี่ยง ความรับผิดชอบต่อสถานการณ์ และผลที่จะตามมา” จอห์นสโตน กล่าว

ที่มา : รอยเตอร์
กำลังโหลดความคิดเห็น