กลุ่มชาติอุตสาหกรรมชั้นนำ G7 แถลงประณามเกาหลีเหนือกรณีการยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) พร้อมทั้งเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติออกบทลงโทษ “ที่เป็นรูปธรรม” มากยิ่งขึ้น เพื่อบีบให้เปียงยางยุติการกระทำเหล่านี้
รัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม G7 ซึ่งประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี แคนาดา และญี่ปุ่น บวกกับผู้แทนสหภาพยุโรป (อียู) ได้ออกคำแถลงร่วมวานนี้ (20 พ.ย.) ว่า การยิงทดสอบขีปนาวุธอย่างต่อเนื่องของเกาหลีเหนือ “ก่อความระส่ำระสายในภูมิภาคมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ประชาคมโลกพยายามเรียกร้องให้เกิดสันติภาพและเสถียรภาพ”
นักวิเคราะห์เชื่อว่า ขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือยิงทดสอบเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (18) เป็น ICBM รุ่นใหม่ซึ่งอาจมีพิสัยโจมตีไกลถึงแผ่นดินใหญ่สหรัฐอเมริกา
G7 เรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมกันตอบโต้เกาหลีเหนืออย่างจริงจังและเป็นหนึ่งเดียว และย้ำว่าคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น “จำเป็นที่จะต้องมีมาตรการยับยั้งเกาหลีเหนืออย่างเป็นรูปธรรมมากกว่านี้”
เฉพาะในเดือน พ.ย.นี้ เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธทั้งพิสัยไกลและใกล้แล้วไม่ต่ำกว่า 30 ลูก รวมถึงเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (18) ซึ่งขีปนาวุธลูกหนึ่งเข้าไปตกในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของญี่ปุ่นที่นอกชายฝั่งตะวันตกของเกาะฮอกไกโด
สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนืออ้างว่า ขีปนาวุธที่โสมแดงยิงในวันนั้นคือ “ฮวาซอง-17” (Hwasong-17) ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด แถมยังโอ้อวดว่ามันคือ “ขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ที่มีอานุภาพร้ายแรงที่สุดในโลก”
ผู้นำ คิม จองอึน ยังเรียกเสียงฮือฮาด้วยการพา “บุตรสาว” ออกมาชมการทดสอบขีปนาวุธ ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดตัวทายาทตระกูล คิม รุ่นถัดไปครั้งแรก
ปี 2022 นับเป็นปีที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธอย่างมากมายเป็นประวัติการณ์ และเมื่อเดือน ต.ค. ก็ได้ยิง ICBM ลูกหนึ่งข้ามเกาะฮอกไกโด จนทำให้ทางการญี่ปุ่นถึงขั้นต้องเปิดไซเรนเตือนภัยในภูมิภาคตอนเหนือ
แม้ว่าคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นจะออกมติแซงก์ชันโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือมาแล้วนับสิบครั้งตั้งแต่ปี 2006 แต่กระนั้นเปียงยางก็ยังคงเดินหน้าทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ถึง 6 ครั้งในช่วงระหว่างปี 2006-2017 และประกาศกร้าวว่าจะไม่มีวันละทิ้งอาวุธนิวเคลียร์
G7 เรียกร้องให้เกาหลีเหนือต้องยุติโครงการนิวเคลียร์ทั้งหมด “โดยสามารถตรวจสอบยืนยันได้” และย้ำว่าเปียงยาง “จะไม่มีวันถูกยอมรับว่าเป็นรัฐที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์”
ที่มา : เอเอฟพี
