เห็นต่าง! อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นชี้ ปธน.เซเลนสกี มีส่วนทำให้คนยูเครนทุกข์ทรมาน

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ทำให้ประชาชนในประเทศของเขา "ทุกข์ทรมาน" จากความเห็นของโยชิโร โมริ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น พร้อมตำหนิสื่อมวลชนแดนปลาดิบมีความลำเอียงในการรายงานข่าวความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน

"ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีแต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ส่วน เซเลนสกี ไม่ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ นี่คือปัญหา เซเลนสกีทำประชาชนยูเครนจำนวนมากทุกข์ทรมาน" โมริ กล่าวระหว่างร่วมกิจกรรมทางการเมืองหนึ่งในกรุงโตเกียวเมื่อวันศุกร์ (18 พ.ย.) ตามรายงานของเกียวโดนิวส์

"สื่อมวลชนญี่ปุ่นลำเอียงเข้าหาฝ่ายหนึ่ง พวกเขาอยู่ภายใต้อิทธิพลรายงานข่าวจากตะวันตก ผมไม่อาจช่วยได้ แต่รู้สึกแค่ว่าพวกเขาพึ่งแต่รายงานข่าวจากยุโรปและอเมริกาเท่านั้น" โมริ ระบุ

นอกจากนี้ โมริ ยังวิพากษ์วิจารณ์จุดยืนของ ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของญี่ปุุ่นในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ว่าลำเอียง และเอนเอียงเข้าหาสหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน โมริ ยังเตือนด้วยว่ารัสเซีย "อาจใช้อาวุธนิวเคลียร์" หากว่าสถานการณ์เสื่อมทรามลง หลังจากก่อนหน้านี้ ปูติน กล่าวเมื่อเดือนที่แล้ว ว่า มอสโกจะยึดมั่นต่อหลักการการใช้นิวเคลียร์ของประเทศ ซึ่งเน้นย้ำว่ารัสเซียจะใช้คลังแสงนิวเคลียร์เฉพาะกับการตอบโต้การโจมตีด้วยอาวุธทำลายล้าง หรือ "ความอยู่รอดของรัฐรัสเซียตกอยู่ในความเสี่ยง"

หลังจากครองตำแหน่งต่างๆ ในคณะรัฐมนตรีมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 80 และ 90 โมริ ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในช่วงปี 2000-2001 ต่อมา เขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน "โตเกียวเกมส์" ในปี 2020 แต่ลาออกไปไม่กี่เดือนก่อนการชิงชัยเริ่มขึ้น สืบเนื่องจากประเด็นอื้อฉาวแสดงความคิดเห็นเชิงเหยียดเพศระหว่างการประชุม

ญี่ปุ่น เช่นเดียวกับประเทศตะวันตกหลายชาติ ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย หลังมอสโกเปิดปฏิบัติการทางทหารรุกรานยูเครนในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ รัสเซียตอบโต้ด้วยการขึ้นบัญชีดำสสมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่นกว่า 380 คน และห้ามนายกรัฐมนตีคูชิดะ และสมาชิกคณะรัฐบาลคนอื่นๆ เดินทางเข้าประเทศ

(ที่มา : เกียวโดนิวส์/อาร์ทีนิวส์)