ไบเดนออกมาคุยโอ่ในวันพุธ (9 พ.ย.) “วันดีสำหรับประชาธิปไตย” พร้อมเปิดใจว่าต้องการลงสมัครอีกสมัยแต่จะตัดสินใจแน่นอนต้นปีหน้า ทั้งนี้ หลังจากพรรคเดโมแครตของเขาทำผลงานดีเกินความคาดหมายในการเลือกตั้งกลางเทอม โดยถึงแม้ผลการนับคะแนนล่าสุดชี้ พรรครีพับลิกันใกล้ได้ครองเสียงข้างมากในสภาล่าง ทว่าก็เกินครึ่งแบบเบาบาง แถมใครจะยึดสภาสูงได้ทำท่าต้องรอผลการเลือกตั้งใหม่ชี้ขาดอย่างน้อยก็ใน 1 สนาม ขณะเดียวกันไม่ได้เกิดกระแสหนุนทรัมป์อย่างถล่มทลายแบบที่อดีตประธานาธิบดีผู้นี้วาดหวัง
ที่ผ่านมาพรรคที่ครองทำเนียบขาวมักพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งกลางเทอม และครั้งนี้รีพับลิกันหวังสูงว่าจะชนะแบบทิ้งขาด หลังตอกย้ำว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต้องรับผิดชอบปัญหาเงินเฟ้อพุ่งทะยาน นอกจากนั้น ยังมีรีพับลิกันจำนวนมากซึ่งหนุนหลังการกล่าวอ้างอย่างไม่มีมูลของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ว่า ไบเดนปล้นชัยชนะของเขาในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อ 2 ปีก่อน
อย่างไรก็ดี ระหว่างการแถลงข่าวในทำเนียบขาวเมื่อวันพุธ (9) ไบเดนประกาศว่า นี่เป็นวันดีสำหรับประชาธิปไตยและอเมริกา และไม่เกิด “คลื่นยักษ์สีแดง” ตามที่สื่อมวลชนรวมทั้งนักวิชาการทำนาย ทั้งนี้ รีพับลิกันใช้สีแดงเป็นสัญลักษณ์ ขณะที่เดโมแครตใช้สีน้ำเงิน
ในทางตรงกันข้าม วันพุธถือเป็นวันชวนปั่นป่วนสำหรับ ทรัมป์ ที่วาดหวังว่าชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ของรีพับลิกันหมายถึงการสนับสนุนตนลงสมัครชิงทำเนียบขาวอีกครั้ง
กระนั้น ทรัมป์ออกมาบอกว่า แม้ผลการเลือกตั้งน่าผิดหวังในหลายๆ มุม แต่ก็คุยโวว่าสำหรับตนถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ เพราะผู้สมัครที่ตนสนับสนุนชนะถึง 219 คน แพ้เพียง 16 คนเท่านั้น
ทว่านอกจากผู้สมัครโปรไฟล์ดีหลายคนที่ทรัมป์สนับสนุนประสบความพ่ายแพ้แล้ว ตัวเขาเองยังพบว่า คู่แข่งสำคัญในการชิงเป็นตัวแทนรีพับลิกันลงสมัครประธานาธิบดีปี 2024 อย่างรอน ดีแซนทิส ได้เป็นผู้ว่าการรัฐฟลอริดาอีกสมัย โดยได้คะแนนดีมาก
จากการนับคะแนนจนถึงเวลานี้บ่งบอกให้เห็นว่า รีพับลิกันกำลังมุ่งสู่ชัยชนะในการเข้าควบคุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งแรกนับจากปี 2018 แต่ด้วยเสียงข้างมากเบาหวิว
ถึงแม้เพียงแค่ยึดสภาล่างได้ ก็คาดว่ารีพับลิกันจะอาศัยอำนาจของสภากดดันเรียกร้องให้รัฐบาลลดการใช้จ่ายเพื่อแลกกับการขยายเพดานการกู้ยืมของประเทศในปีหน้า ซึ่งอาจเขย่าขวัญตลาดการเงิน แล้วยิ่งถ้าควบคุมวุฒิสภาได้ด้วย รีพับลิกันจะมีอำนาจขัดขวางการเสนอชื่อสำหรับตำแหน่งด้านตุลาการและด้านบริหารของไบเดน
ไบเดนเองดูเหมือนยอมรับความพ่ายแพ้ในสภาล่าง โดยกล่าวว่า พร้อมทำงานร่วมกับรีพับลิกัน กระนั้น ขณะที่ผลการนับคะแนนในบางพื้นที่ยังไม่เสร็จสิ้น ผู้นำสหรัฐฯ ทวีตว่า เดโมแครตสูญเสียที่นั่งในสภาล่างในการเลือกตั้งกลางเทอมสมัยแรกน้อยกว่าในยุคประธานาธิบดีเดโมแครตคนใดในรอบอย่างน้อย 40 ปี
แน่นอนว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ทำให้เกิดคำถามว่า ไบเดนควรลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2024 หรือไม่ โดยเจ้าตัวตอบคำถามนี้ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันพุธว่า เขายังตั้งใจลงสนามอีกแต่จะตัดสินใจแน่นอนต้นปีหน้า
ในส่วนวุฒิสภา ซึ่งคราวนี้ถึงวาระเลือกตั้งใหม่ 35 ที่นั่งจากทั้งสภา 100 ที่นั่ง โดยที่หากรีพับลิกันชนะสุทธิเพิ่มขึ้นมาเพียงที่นั่งเดียว ก็จะครองเสียงข้างมากได้นั้น ปรากฏว่าการแข่งขันระหว่างผู้สมัครของทั้ง 2 พรรคเป็นไปอย่างคู่คี่มาก จนยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าพรรคใดเป็นฝ่ายชนะ ทั้งนี้ ในสนามซึ่งเห็นกันว่าถ้าใครมีชัยก็จะชี้ขาดการครองเสียงข้างมากได้ อันได้แก่ รัฐเนวาดา และรัฐแอริโซนา คะแนนของผู้แข่งขันยังบดบี้กันไม่ขาด และต้องลุ้นการนับคะแนนส่วนที่ยังเหลืออยู่ต่อไปอีก
ขณะเดียวกัน ที่รัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นสนามที่อาจเป็นสมรภูมิตัดสินชัยได้เช่นกันนั้น ปรากฏผลซึ่งแสดงว่า ทั้ง ราฟาเอล วอร์น็อก วุฒิสมาชิกคนปัจจุบันจากพรรคเดโมแครต และเฮอร์เชล วอล์กเกอร์ ผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกัน ไม่มีใครได้คะแนนถึง 50% โดยตามกฎหมายของรัฐนี้จะต้องจัดการเลือกตั้งรอบ 2 เพื่อชี้ขาดในวันที่ 6 เดือนหน้า
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)