ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันอังคาร (1 พ.ย.) จากดอลลาร์ที่อ่อนค่า กลบความกังวลทางอุปสงค์ อันเนื่องจากจีนยกระดับข้อจำกัดสกัดโควิด-19 ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ จากข้อมูลภาคแรงงานที่ดับความหวังเฟดอาจเริ่มชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ทองคำฟื้นตัวในวันแรกของเดือนใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้ทำสถิติปิดลบ 7 เดือนติด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 88.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 1.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 94.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันมีขึ้นในขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงในวันอังคาร (1 พ.ย.) จากระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน การอ่อนค่าของดอลาร์ที่ทำให้น้ำมันดิบซึ่งซื้อขายกันด้วยดอลลาร์ มีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ ซึ่งเป็นการส่งเสริมอุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์ชนิดนี้
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (1 พ.ย.) ปิดลบ 2 วันติดต่อกัน หลังจากข้อมูลบ่งชี้ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ดับความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจมีเหตุผลมากพอที่จะเริ่มลดขนาดของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดาวโจนส์ ลดลง 79.75 จุด (0.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 32,653.20 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 15.88 จุด (0.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,856.10 จุด แนสแดค ลดลง 97.30 จุด (0.89 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,890.55 จุด
สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 437,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.7 ล้านตำแหน่งในเดือนกันยายน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลงสู่ระดับ 9.85 ล้านตำแหน่ง
อุปสงค์ในตลาดแรงงานที่ยังแข็งแกร่ง มีขึ้นแม้ว่าทางธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ดำเนินการปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก ในความพยายามฉุดเงินเฟ้อที่พุ่งสูง
นักลงทุนจับตาไปที่ข้อมูลตลาดแรงงาน เพื่อสอดส่องหาสัญญาณความอ่อนแอใดๆ ในตลาดแรงงาน เนื่องจากหากแรงกดดันเกี่ยวกับค่าจ้างลดต่ำลงและอุปสงค์ในตลาดแรงงานชะลอตัวลง อาจเปิดทางให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ สามารถเริ่มชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.50% ในเดือนธันวาคม
ด้านราคาทองคำในวันอังคาร (1 พ.ย.) ปิดบวกพอสมควร หลังจากเมื่อวันจันทร์ (31 ต.ค.) ทำสถิติขยับลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,649.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)