น้ำมันขึ้น-ทองบวก หุ้นสหรัฐฯ พุ่งต่อเนื่อง เชื่อนโยบายเฟดเริ่มเห็นผล

ราคาน้ำมันปรับขึ้นและทองคำปิดบวกในวันอังคาร (25 ต.ค.) ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งแรง ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ผ่อนตัวลง บ่งชี้ว่านโยบายเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กำลังได้ผล

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ ปิดที่ 85.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ ปิดที่ 93.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ดอลลาร์สหรัฐแกว่งตัวลงในช่วงบ่าย และการอ่อนค่าของสกุลเงินอเมริกา ทำให้ราคาน้ำมันที่ซื้อขายด้วยดอลลาร์มีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ ปัจจัยนี้ผลักให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากความเห็นของเจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย ที่บอกว่าสต๊อกพลังงานกำลังถูกใช้เป็นกลไกในการบิดเบือนตลาด

ความเคลื่อนไหวของดอลลาร์ และการขยับลงของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ผลักให้ราคาทองคำในวันอังคาร (25 ต.ค.) ปิดบวก โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 3.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,658.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (25 ต.ค.) ปิดบวกแรง ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ผ่อนตัวลง บ่งชี้ว่านโยบายเชิงรุกของเฟด ที่มีเป้าหมายจัดการกับภาวะเงินเฟ้อกำลังเห็นผล

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 337.12 จุด (1.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 31,836.74 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 61.77 จุด (1.63 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,859.11 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 246.50 จุด (2.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,199.12 จุด

"มีการพูดกันมากขึ้นเกี่ยวกับแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์สำหรับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด" บิลล์ เมอร์ซ หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดของยูเอสแบงก์ เวลธ์ แมนเนจเมนท์ อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่าคงต้องรออีกสักระยะถึงจะทราบอย่างชัดเจนว่าอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงสุดในรอบหลายทศวรรษจะดิ่งลงสู่เป้าหมายที่เฟดวางเอาไว้หรือไม่

(ที่มา : รอยเตอร์)