ราคาน้ำมันในวันพุธ (5 ต.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ หลังโอเปกพลัสตกลงปรับลดกำลังผลิตมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้ตลาดตึงตัว ความเคลื่อนไหวที่เรียกเสียงโวยวายจากตะวันตก ในนั้นรวมถึงอเมริกา ส่วนวอลล์สตรีทปรับลดจากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงเป็นเวลานาน ส่วนทองคำขยับลงแรง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 2.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 87.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
โอเปกพลัสเห็นพ้องปรับลดกำลังผลิตลงอย่างมาก จำกัดอุปทานแม้ตลาดอยู่ในภาวะตึงตัวอยู่ก่อนแล้ว ความเคลื่อนไหวที่เรียกเสียงโวยวายจากตะวันตก ในนั้นรวมถึงรัฐบาลสหรัฐฯ ที่บอกว่ามันเป็นการตัดสินใจที่น่าประหลาดใจและไม่มองการณ์ไกล
ซาอุดีอาระเบีย ผู้นำโดยพฤตินัยของทางกลุ่ม กล่าวว่า การปรับลดกำลังผลิต 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือเทียบเท่า 2% ของอุปทานโลก เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อตอบสนองต่ออัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในตะวันตกและเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง
ประเทศแห่งนี้ปฏิเสธเสียงวิพาษ์วิจารณ์ว่าพวกเขากำลังสมคบคิดกับรัสเซีย ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มโอเปกพลัส ในการผลักดันราคาให้ดีดตัวสูงขึ้น และตอกกลับว่าบ่อยครั้งที่เสียงวิจารณ์ของตะวันตกนั้นเต็มไปด้วยความหยิ่งทะนง
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ บอกว่าจะเดินหน้าทำการประเมินสถานการณ์ เพื่อดูว่าจำเป็นต้องระบายคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์หรือไม่ เพื่อฉุดราคาให้ลดต่ำลง
"ท่านประธานาธิบดีรู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจที่ไม่มองการณ์ไกลของโอเปกพลัส ในการปรับลดโควตากำลังผลิต ในขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังรับมือกับผลกระทบทางลบที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากการรุกรานยูเครนของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน" ทำเนียบขาวระบุ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (5 ต.ค.) ปิดลบเล็กน้อย หลังข้อมูลเผยให้เห็นว่าอุปสงค์ตลาดแรงงานของอเมริกายังคงแข็งแกร่ง ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดอาจตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานาน
ดาวโจนส์ ลดลง 42.45 จุด (0.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 30,273.87 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 7.65 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,783.28 จุด แนสแดค ลดลง 27.77 จุด (0.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,148.64 จุด
ก่อนหน้านี้บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดยืนยันว่าจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ สารที่ก่อความกังวลแก่ตลาดว่ามันอาจนำมาซึ่งเศรษฐกิจตกต่ำรุนแรงและมีความเป็นไปได้ว่าจะดำดิ่งสู่ภาวะถดถอย
ข้อมูลล่าสุดพบว่า นายจ้างเอกชนในสหรัฐฯ มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในเดือนกันยายน บ่งชี้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขทางการเงินที่ตึงตัวขึ้นยังไม่กระทบต่ออุปสงค์ตลาดแรงงาน เปิดทางให้เฟดสามารถเดินหน้าต่อสู้กับเงินเฟ้อต่อไป
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (5 ต.ค.) ปรับลด หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 9.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,720.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)