ราคาน้ำมันปรับขึ้น 2 วันติดในวันพุธ (28 ก.ย.) พบคลังปิโตรเลียมสำรองสหรัฐฯ ลดลงเกินคาดและดอลลาร์อ่อนค่า ปัจจัยนี้ผลักให้ทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 สัปดาห์ ขณะที่วอลล์สตรีทปิดบวก ฟื้นตัวจากแรงเทขายเมื่อเร็วๆ นี้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 3.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 3.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 89.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์มองว่า ราคาน้ำมันที่ขยับลงมากกว่า 22% ระหว่างไตรมาส 3 อาจลงถึงจุดต่ำสุดแล้ว ในขณะที่อุปสงค์ในจีนส่งสัญญาณของการฟื้นตัว และสหรัฐฯ ระบายคลังน้ำมันดิบสำรองทางยุทธศาสตร์
ขณะเดียวกัน ข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองของสหรัฐฯ เผยให้เห็นถึงอุปสงค์ฟื้นตัว โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งอเมริกาพบว่า สต๊อกน้ำมันดิบของประเทศลดลง 215,000 บาร์เรล ในช่วงสัปดาห์หลังสุด ส่วนคลังเบนซินสำรอง ลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล และสต๊อกน้ำมันกลั่นลดลง 2.9 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่า ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันที่ซื้อขายในสกุลเงินสหรัฐมีราคาอ่อนลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
การอ่อนค่าของดอลลาร์นี้เอง ประกอบกับการปรับลดของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ลดลง ตามหลังธนาคารกลางอังกฤษเคลื่อนไหวเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของสหราชอาณาจักร ผลักให้ทองคำปิดบวกในวันพุธ (28 ก.ย.) แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบสัปดาห์ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 33.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,670.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในพุธ (28 ก.ย.) ฟื้นตัวแรง จากการช้อนซื้อหลังจากดิ่งลงหนักในระยะหลัง นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจากผลตอบแทนที่ลดลงของพันธบัตรรัฐบาลอเมริกา แม้หุ้นแอปเปิล ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ไอโฟน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 548.75 จุด (1.88 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 29,683.74 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 71.75 จุด (1.97 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,719.04 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 222.13 จุด (2.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,051.64 จุด
หุ้นบริษัทขนาดใหญ่ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยอย่าง ไมโครซอฟท์ แอมะซอน และเมตา ต่างดีดตัวขึ้น ในขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับลด 0.26% ถือเป็นการขยับลงวันเดียวมากสุดนับตั้งแต่ปี 2009
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากธนาคารกลางอังกฤษเผยว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของสหราชอาณาจักร ในเป้าหมายกอบกู้เสถียรภาพทางการเงินในตลาดที่สั่นคลอนทั่วโลก จากนโยบายการคลังของรัฐบาลใหม่ในลอนดอน
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอังกฤษแถลงว่า ทางธนาคารจะทำการรับซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลอังกฤษจำนวนมากเท่าที่มีความจำเป็นตั้งแต่ขณะนี้จนถึงวันที่ 14 ตุลาคม เพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน
ทั้งนี้ นักลงทุนแห่เทขายพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลเปิดเผยมาตรการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ รวมทั้งมาตรการเยียวยาภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน ทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลต่อสถานะทางการคลังของอังกฤษจากการก่อหนี้เพิ่มขึ้นของรัฐบาล
การแห่เทขายพันธบัตรรัฐบาลดังกล่าว ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีพุ่งขึ้นในวันพุธ (28 ก.ย.) เหนือระดับ 5% เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ก่อนที่จะอ่อนตัวลง หลังธนาคารกลางอังกฤษออกถ้อยแถลงดังกล่าว
(ที่มา : รอยเตอร์)
